ปวดท้องน้อย ปวดหน่วงๆ เช็กด่วนอันตรายไหม?

ปวดท้องน้อย ปวดหน่วงๆ อย่าชะล่าใจ เพราะนั่นเป็นสัญญาณอันตรายที่คุณอาจคาดไม่ถึงเลยทีเดียว โดยอาการปวดท้องน้อยที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงนั้น อาจมีได้หลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งเราก็ได้รวบรวมสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดดังกล่าวมาบอกต่อกันดังนี้

กรณีปวดท้องน้อยแบบเรื้อรัง

อาการปวดท้องน้อยแบบเรื้อรัง จะมีลักษณะเป็นๆ หายๆ หรือในบางคนก็อาจมีอาการปวดแบบต่อเนื่องตลอดเวลาได้เลยทีเดียว โดยทั้งนี้จะต้องสังเกตอาการปวดของตัวเองให้ดี เพราะการปวดแต่ละแบบจะเป็นอาการเฉพาะที่บอกได้ว่าคุณกำลังป่วยด้วยโรคอะไร ซึ่งสาเหตุของอาการปวดท้องน้อยและปวดหน่วงๆ แบบเรื้อรัง ได้แก่

• มีเนื้องอกในมดลูก ทั้งนี้หากเนื้องอกมีขนาดใหญ่มาก ก็จะคลำเจอเป็นก้อนได้
• เป็นซีสต์ที่รังไข่
• เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โดยมักจะมีเลือดออกแบบกะปริบกะปรอยร่วมด้วย และมีอาการปวดเรื้อรังนานกว่า 3-6 เดือน
• เป็นมะเร็งมดลูก สาเหตุนี้อันตรายมาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างเร่งด่วน จะได้ทำการรักษาได้ทัน

กรณีปวดท้องน้อยแบบเฉียบพลัน

เป็นอาการปวดแบบเฉียบพลัน ที่อยู่ดีๆ ก็ปวดขึ้นมาเฉยๆ และอาจมีความรุนแรงในการปวดมากน้อยแตกต่างกันไป นอกจากนี้ในบางรายก็อาจจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ร่วมกับอาการปวดท้องน้อยแบบเฉียบพลันด้วยก็ได้ ซึ่งสาเหตุของอาการปวดแบบนี้ก็มีหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น

• ปีกมดลูกอักเสบ จะปวดท้องน้อยและปวดเสียดๆ บริเวณหลังช่วงล่าง พร้อมกับมีอาการคลื่นไส้อาเจียน และอาจมีเลือดออกจากช่องคลอดด้วย
• มดลูกอักเสบ มักจะมีอาการไข้ หนาวสั่น และมีตกขาวเป็นหนองร่วมด้วย
• ไส้ติ่งอักเสบ จะปวดแบบเฉียบพลันบริเวณรอบสะดือ และลามไปปวดบริเวณท้องด้านล่างขวา
• กระเพาะปัสสาวะอักเสบ มักจะมีอาการปัสสาวะลำบาก ปวดหลัง และปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย
• ลำไส้อักเสบ จะมีอาการท้องผูก ท้องร่วง น้ำหนักลด อ่อนเพลีย และอาจเป็นไข้ด้วยเช่นกัน

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์

ไม่ว่าจะมีอาการปวดท้องแบบไหน ก็ควรไปพบแพทย์ทั้งสิ้น นั่นก็เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและทำการรักษาได้อย่างตรงจุดนั่นเอง ดังนั้นเมื่อมีอาการปวดท้องน้อยและปวดแบบหน่วงๆ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน อย่าได้ชะล่าใจเด็ดขาด เพราะโรคร้ายบางอย่างอาจมีอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

อาการปวดท้องน้อยและปวดหน่วงๆ ไม่ใช่อาการที่ควรชะล่าใจ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายต่างๆ ได้อย่างมากมายเลยทีเดียว ทั้งยังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากอีกด้วย ดังนั้นเมื่อมีอาการปวด ควรไปพบแพทย์ในทันที และรับประทานยาพร้อมทำตามคำแนะนำของแพทย์อยู่เสมอ เพื่อจะได้หายจากอาการป่วยอย่างรวดเร็วนั่นเอง