Working Woman of the Years 2004

Working Woman of the Years 2004

Working Woman of the Years 2004
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นับเป็นปีที่ 5 แล้วสำหรับ โครงการค้นหาหญิงเก่งยุคใหม่แห่งปี หรือ Working Woman of the Years 2004 ซึ่งจัดขึ้นโดย นิตยสารผู้หญิง มุ่งหวังให้เป็นตัวแทนผู้หญิงยุคใหม่ที่มีแนวคิด และทัศนคติที่ดี และทันสมัย ในปีนี้มีสาวๆ ทั้งที่คุ้นหน้า และไม่คุ้นตาในแวดวงสังคมติดโผหลายคนทีเดียวซึ่งก็ได้แก่ จริญญา ยังประภากร, ดร.ประถมาภรณ์ ฟักฤกษ์, ปริยากร รัตนสุบรรณ, พัชรินทร์ อ้วนเฝือ, แพรว ศุภจริยาวัตร, ภัทริน ซอโสตถิกุล, ดร.มยุรี เฟื่องทอง, สุชา ลัทธิวงศกร และ ม.ล.อรดิศ ดิศกุล โดยสาวๆ ทั้ง 9 คน จะเข้ารับประทานรางวัลจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ณ โรงแรมโอเรียนเต็ล ในวันที่ 27 ส.ค. ศกนี้ด้วย เป็นเวลากว่า 55 ปีที่ฟาร์มจระเข้ถือเป็นโลโก้ของจังหวัดสมุทรปราการ จริญญา ยังประภากร บอกว่า ประสบการณ์เป็นครูที่ดีที่สุด คือ ทุกสิ่งทุกอย่างเราสามารถทำได้ดีในวันนี้ ย่อมเกิดจากประสบการณ์ที่เราได้พบเจอมาในอดีต และยิ่งเรามีประสบการณ์มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถให้สูงขึ้นเท่านั้น ช่วงนี้จึงเป็นห้วงเวลาแห่งการเรียนรู้หาประสบการณ์เพิ่มเติม เพื่อที่จะสร้างสิ่งดีๆ และเสริมจุดแข็งให้กับตนเอง เพื่อที่จะก้าวไปสู่อนาคตที่ประสบความสำเร็จ แม่พิมพ์ของชาติ ดร.ประถมาภรณ์ ฟักฤกษ์ อาจารย์ใหญ่ ร.ร.ศรีสุวิช มองตัวเองว่าเป็นผู้หญิงกล้าพูด กล้าทำ กล้าคิด ทั้งยังต้องสร้างศรัทธา และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองว่าเราสามารถดูแลลูกของเขาได้ ดังนั้นเธอจึงเป็นคนที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา จนเด็กนักเรียนหลายคนเคยสงสัยว่าถึงเวลาที่คุณครูทรายดุจะเป็นแบบไหนหนอ ด้านทายาทโปรโมเตอร์มวย ปริยากร รัตนสุบรรณ ผู้สานต่อธุรกิจเวทีมวยไทย ศึกวันทรงชัย จากผู้เป็นพ่อ เธอเล่าว่า มวยไทยอยู่ในสายเลือด และเสน่ห์ของการวงการมวย คือความท้าทาย ทั้งยังต้องการสานต่ออุดมการณ์ของพ่อทำให้มวยไทยเป็นมรดกโลก และจะพยายามสร้างแชมป์โลกให้ได้เหมือนสมัยคุณพ่ออีกด้วย ปริยากร บอกอีกว่า ทุกปัญหาแก้ไขได้เพียงแต่ขอให้มีการพูดคุยกันเท่านั้นเอง และเน้นการประนีประนอมเป็นหลัก แม้บางครั้งต้องเหนื่อยใจในการต้องเอาใจใครไปเสียทุกคนแต่ทุกคราที่ท้อแท้จะสูดหายใจลึกๆ พร้อมบอกตัวเองว่า ชีวิตต้องสู้ พัชรินทร์ อ้วนเฝือ วิศวกรอากาศยานแห่งกองวางแผน บอกว่าเป็นเวลากว่า 8 ปีแล้วที่ทำงานในสายอาชีพนี้ รู้สึกภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้ และน้อยคนนักที่จะได้ทำงานเกี่บเครื่องยนต์กลไกของเครื่องบิน และไม่ใช่เรื่องง่ายด้วย ฉะนั้นสไตล์การทำงานของเธอจึงเป็นแบบถึงลูกถึงคน เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และหนักแน่นในเหตุผล หากตั้งใจทำสิ่งใดต้องทำให้สำเร็จ และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่ต้องเผชิญแน่นอน เพราะเคยฝันอยากเป็นหน่วยสืบสวน สอบสวน หรือ FBI มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย แพรว ศุภจริยาวัตร จึงตั้งเป้าชีวิตมาเป็น นักนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งทั้งชีวิตเธอต้องคลุกคลีอยู่กับร่างไร้วิญญาณ หวังเดินตามรอยคุณหญิงพรทิพย์ช่วยหาความยุติธรรมให้กับชาวบ้านที่ไม่รู้เท่าทันกฎหมาย เธอบอกว่าความเป็นผู้หญิงเอื้อต่ออาชีพนิติวิทยาศาสตร์พอสมควร เนื่องจากผู้หญิงเป็นเพศที่มีความรอบคอบ อดทน และถี่ถ้วนซึ่งเป็นข้อดีที่สำคัญที่สุด หญิงเก่งแห่งซีคอนสแควร์ ภัทริน ซอโสตถิกุล บอกว่าเชื่อมั่นในระบบทีมเวิร์กมากที่สุด เพราะการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และมีจุดมุ่งหมายเดียวกันจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจกันมากขึ้นทั้งภายในและภายนอกองค์กร นอกเหนือจากการทำงานแล้วสาวสมัยใหม่คนนี้ยังยึดมั่นในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันด้วย เธอเชื่อว่าการทำสมาธิจะทำให้เรามีสติตั้งรับกับปัญหา และเป็นส่วนเติมเต็มให้กับชีวิตด้วย นักวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพแห่งสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ดร.มยุรี เฟื่องทอง บอกว่า ตัวเธอเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเองระดับหนึ่ง ถ้าเรื่องใดที่คิดว่าตัวเองรู้จริง และเชี่ยวชาญจะเดินหน้าทำอย่างเต็มความสามารถ แต่หากไม่รู้จริงแล้วล่ะก้อไม่มีทางที่จะทำอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าแน่นอน และไม่ว่างานที่ทำจะยุ่งยากแค่ไหนหรือจะมีอุปสรรคมากมายสักเพียงไร แต่ถ้ารักที่จะทำความยุ่งยากนั้นก็ถือเป็นสิ่งท้าทายให้เราพยายามเอาชนะมันให้ได้ เพราะเชื่อว่างานวิจัยทุกอย่างเป็นงานสร้างคน สร้างชาติ หลายครั้งที่ผลงานวิจัยได้มีส่วนช่วยทำให้ชาติบ้านเมืองเราทัดเทียมกับต่างประเทศ ดร.คนเก่งกล่าว ลัก วิ่ง ชิง ปล้น เป็นคดีที่ผู้ช่วยผู้พิพากษา ศาลอาญา สุชา ลัทธิวงศกร บอกว่าต้องพบเจอเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากเหล่านี้ถือเป็นคดีความผิดที่เกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และเสรีภาพของประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งต้องใช้ดุลยพินิจด้วยความรอบคอบ และเป็นกลาง หัวใจสำคัญของการเป็นผู้พิพากษา คือความซื่อสัตย์สุจริต ฉะนั้นต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอคติ และถึงแม้ตัวบทกฎหมายจะมีระบบระเบียบที่เคร่งครัดเพียงใดก็ตามแต่เธอยังื่อว่าการผ่อนคลาย และผ่อนปรน ทว่ามิได้หละหลวมจนขาดความเชื่อถือจะก่อให้เกิดความยุติธรรมในสังคมมากที่สุด ปิดท้ายด้วย ม.ล.อรดิศ ดิศกุล ที่ปรึกษาด้านกฎหมายธุรกิจ ประจำบจก.เบเคอร์ แอนด์ แมคเค็นซี่ เธอบอกหลักในการทำงานว่า ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ แต่ต้องอาศัยระยะเวลาและค่อยเป็นค่อยไป การอะลุ้มอล่วยและพูดคุยกันด้วยเหตุผลจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ความเป็นผู้หญิง และอายุอาจเป็นอุปสรรคต่อการทำงานบ้าง เพราะอาจรับภาระได้ไม่มากเท่าผู้ชาย ดังนั้นต้องแจกแจงงานให้ผู้ช่วยได้อย่างเหมาะสม การแต่งตัว หรือการพูดจาต้องปรับให้มีความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญต้องแม่นและรู้ในสิ่งที่เราจะต้องทำอย่างแท้จริง อีกทั้งควรหาความรู้นอกเหนือจากขอบข่ายงานที่ทำด้วย ทนายสาวสวยกล่าวตบท้าย เป็นอย่างไรบ้างคะ...สำหรับแนวคิด และวิถีชีวิตการทำงานของบรรดา 9 หญิงเก่งยุคใหม่แต่ละวงการ หวังว่าคุณสาวที่รักความก้าวหน้าในชีวิตทั้งหลายคงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ร่วมโหวตเป็นกำลังใจให้พวกเธอ โดย ส่ง SMS จากโทรศัพท์มือถือระบบดีแทค โดยพิมพ์หมายเลขประจำตัวของผู้ที่ต้องการโหวตให้ (1-9) แล้วส่งไปที่หมายเลข 1924337 ได้ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม - 27 สิงหาคม 2547 เพื่อลุ้นรับโทรศัพท์มือถือระบบดีแทค พร้อมหมายเลขพิเศษ จำนวน 6 รางวัล ยิ่งโหวตมากครั้ง ยิ่งมีโอกาสได้รับรางวัลมากยิ่งขึ้น ติดตามการประกาศผลผู้ได้รับรางวัล Working Woman of the Years 2004 ได้ใน นิตยสารผู้หญิง ฉบับปักษ์แรก เดือนตุลาคม 2547 และตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีได้ในวันที่ 31 สิงหาคม 2547 จาก www.dtac.co.th

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ ของ Working Woman of the Years 2004

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook