ฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์

เป็นนางแบบฮ็อตเพราะความร้อนแรงเซ็กซี่คนหนึ่งที่ขโมยหัวใจหนุ่ม ๆ ไปได้ แต่ที่จริงแล้วดารานางแบบอย่าง ฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์ ออกจะสดใสแสนซนเหมือนสาวรุ่นทั่วไป ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปพูดคุยกับเธอกันดู ช่วงที่เงียบไปพักหนึ่ง ไปทำอะไรมาบ้างคะ ? ฟลอเรนซ์ : หลังจากงานภาพยนตร์เรื่องทวิภพแล้ว ฟลอเรนซ์ก็ไปอยู่ที่นิวยอร์กมา 4 เดือน ซึ่งก็มีงานค่อนข้างเยอะเหมือนกัน แต่ก็จะเน้นไปที่การถ่ายแบบมากกว่า เรียกว่างานเยอะมาก ๆ นอกจากนี้ก็จะมีพวกงานโฆษณาบ้าง อย่างที่ไปถ่ายมาก็เป็นโฆษณาเกี่ยวกับผม แต่ก็คิดว่าคนไทยคงไม่มีโอกาสได้เห็นกัน เพราะโปรดักส์ที่ถ่ายเป็นของเมืองนอก แต่ถ้าโชคดีก็อาจได้เห็นกันบ้าง และจริง ๆ แล้วที่กลับมาเมืองไทยตอนนี้คิดว่าคงยังไม่รับงานอะไรมาก เพราะตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมครอบครัวมากกว่า คิดว่าอีกไม่นานก็คงจะบินกลับไป เพราะยังมีงานที่ต้องทำอยู่อีกค่ะ ที่ผ่านมามีงานภาพยนตร์ด้วย สำหรับฟลอเรนซ์แล้วต่างจากงานนางแบบอย่างไรบ้างคะ ? ฟลอเรนซ์ : ก็ต่างกันมากเหมือนกันนะคะ อย่างงานภาพยนตร์นั้นเราต้องไปแคสติ้งให้เหมาะสมกับคาแร็กเตอร์ของตัวละคร แล้วกว่าจะแสดงได้ฟลอเรนซ์ก็ต้อฝึกซ้อมการแสดงให้ตรงกับตัวละครนั้น ซึ่งค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควร แล้วลักษณะงานก็เป็นการทำงานระยะยาว ต่างจากงานนางแบบเดินแบบที่ทำต่อวัน ส่วนการนำเสนอก็จะต่างกันไปตามแต่ละงาน คือวันนี้เค้าต้องการให้เราเป็นอย่างหนึ่ง เราก็ต้องทำเสนอในรูปแบบหนึ่ง พออีกงานก็จะเปลี่ยนไปอีก งานนางแบบจึงมีลักษณะการนำเสนอที่หลากหลายกว่างานภาพยนตร์ แต่ถ้าจะถามว่าชอบงานไหนมากกว่า ฟลอเรนซ์คิดว่าคงชอบทั้งหมดนะ เพราะสนุกดี เราได้ทำอะไรที่หลากหลายมากขึ้น ในฐานะที่เป็นนางแบบ การดูแลรูปร่างค่อนข้างสำคัญ ฟลอเรนซ์เองดูแลส่วนนี้อย่างไรบ้าง ? ฟลอเรนซ์ : จริง ๆ แล้วช่วงนี้ฟลอเรนซ์ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังเท่าไหร่เลย ก็ค่อนข้างอ้วนขึ้นเล็กน้อย อีกอย่างตอนอยู่ที่นิวยอร์กจะทานเก่งมากขึ้น เพราะชอบอาหารที่นั่นมาก คือรสชาติมันสุดยอดถูกปากฟลอเรนซ์มาก ๆ โดยเฉพาะพวกจังก์ฟู้ด ก็จะต้องคอยบอกตัวเองบ่ยอ ๆ ว่ามันไม่ดีนะ มันไม่ดี ความจริงแล้วคนที่นั่นเค้าค่อนข้างใส่ใจสุขภาพนะ อาหารก็เลยมีแบบที่เป็นจังก์ฟู้ด และสำหรับสุขภาพ แต่อาหารที่ดีต่อสุขภาพที่นั่นจะแพงมาก แล้วก็จะเป็นพวกมังสวิรัติ แต่ฟลอเรนซ์ไม่ค่อยชอบก็จะทานแต่จังก์ฟู้ด แต่ก็จะมีปราม ๆ ตัวเองบ้างไม่ให้ทานมาเกิป อย่างนี้จริง ๆ แล้วฟลอเรนซ์ใส่ใจดูแลสุขภาพมากน้อยแค่ไหนคะ ? ฟลอเรนซ์ : จริง ๆ ก็ใส่ใจเหมือนกันนะ อย่างหนึ่งเลยคือฟลอเรนซ์จะให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำมาก เพราะว่าน้ำจะทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น และทำให้เราตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาด้วย อีกอย่างฟลอเรนซ์เป็นคนที่นั่งเครื่องบินบ่อยมาก ๆ ซึ่งข้างบนนั้นความชื้นจะน้อยมาก ทำให้ผิวของเราแห้งได้ แล้วพอผิวแห้งก็จะก่อให้เกิดริ้วรอยได้ และริมฝีปากก็จะแตกด้วย ทำให้ใบหน้าเราดูไม่สดชื่น ดังนั้นการดื่มน้ำจึงเป็นทางออกที่ดีและง่ายที่สุดในการดูแลรักษาผิวของเราได้ ออกกำลังกายบ้างหรือเปล่าคะ ? ฟลอเรนซ์ : จริง ๆ ก็ออกกำลังกายเหมือนกัน แต่เวลากลับมาเมืองไทยฟลอเรนซ์จะไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายเท่าไหร่ แต่ตอนอยู่ที่นิวยอร์กก็จะมีออกกำลังกายบ้าง ถ้าเช้าวันไหนฟลอเรนซ์ก็จะไปวิ่งเล่นกับหมา วันละ 2 ชั่วโมงอย่างต่ำ หรือถ้าวันไหนไม่อยากวิ่งก็จะเล่นโรลเลอร์เบลดกับหมา ให้หมาวิ่งลากไปทั่วเมืองซึ่งนอกจากจะได้ออกกำลังแล้วยังสนุกและได้ให้เวลากับสัตว์เลี้ยงที่เรารักอีกด้วย และถ้าตอนเย็นไม่มีงานก็จะไปวิ่งเล่นอย่างนี้อีกรอบ คือที่นั่นจะมีสวนเซ็นเตอร์พาร์คที่ใหญ่มาก ๆ อากาศก็ดี ก็จะมีคนมาวิ่งออกกำลังกันมาก และถ้าเหนื่อยก็ยังมีที่ให้นั่งพักสบาย ๆ ด้วย ฟลอเรนซ์ก็เลยชอบออกกำลังกายด้วยวิธีนี้มากกว่าไปยิม แล้วเรื่องของผิวพรรณล่ะ ดูแลอย่างไรบ้าง ? ฟลอเรนซ์ : ก็จะทาครีม ทาโลชั่นตามปกติ แต่ที่สำคัญมาก ๆ คือพวกครีมกันแดด ทุกวันเราจะต้องทาครีมกันแดด คือบางคนอาจจะคิดว่าครีมกันแดดมีไว้สำหรับตอนออกแดดเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วบางเวลาที่เราคิดว่าไม่จำเป็นต้องทาอย่างตอนกลางคืน ก็ควรจะทาครีมกันแดดด้วยเหมือนกัน เพราะใช่ว่ามีแค่แสงแดดเท่านั้นที่ทำร้ายผิวพรรณของเรา อย่างฟลอเรนซ์ทำงานตรงนี้ บางทีมีถ่ายแฟชั่นตอนดึก ๆ ไม่มีแดดแล้ว แต่แสงสปอตไลท์เนี่ยแหละที่ทำร้ายผิวเรา ดังนั้นก็จะต้องทาครีมกันแดดไว้ตลอด เรียกว่าขาดไม่ได้เลย มีเครื่องสำอางที่ต้องพกติดตัวตลอดเวลาบ้างไหมคะ ? ฟลอเรนซ์ : มีสิคะ ที่ต้องเอาไปไหนมาไหนด้วยก็จะมีที่ดัดขนตา อายไลน์เนอร์สีน้ำตาล บลัชออน คอนซีลเลอร์ และก็ลิปบาล์ม อย่างคอนซีลเลอร์นี่จะเอาไว้ใช้เวลาผิวเรามีรอย รอยคล้ำใต้ตาเวลาที่อดนอนมาทั้งคืน เพราะงานของฟลอเรนซ์ไม่ค่อยเป็นเวลาเท่าไหร่ บางทีมีงานดึกพออีกวันตื่นเช้ามาขอบตาอาจช้ำได้ ซึ่งคอนซีลเลอร์นี่แหละทีะช่วยให้ใบหน้าดูเฟรชได้ ส่วนลิปบาล์มก็ไว้บำรุงริมฝีปากไม่ให้แห้ง บรัชออนก็ไว้เพิ่มสีสันให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาขึ้นหน่อย จริง ๆ แล้วฟลอเรนซ์ว่าผู้หญิงทุกคนน่าจะพกกันนะ ส่วนที่ดัดขนตากับอายไลเนอร์ก็ไว้แต่งตาให้ดูคมชัดขึ้น คือเมื่อก่อนนี่ฟลอเรนซ์จะชอบดวงตาตัวเองมาก รู้สึกว่ามันเจ๋งดี แต่ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยแน่ใจแล้วล่ะ (หัวเราะ) คิดว่าเรื่องความสวยความงามมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน ? ฟลอเรนซ์ : ฟลอเรนซ์ว่านะ ผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะสวยไม่สวย ใคร ๆ ก็ต้องอยากดูดีแหละ คือไม่ต้องถึงกับสวยระดับซูเปอร์โมเดลหรอก อย่างฟลอเรนซ์เองก็ยังอยากดูดีตลอดเวลาเลย แต่ก็ไม่ถึงขนาดกับต้องศัลยกรรมหรอกนะ อย่างสมมุติว่าตอนแก่ ๆ ก็คงไม่ถึงกับไปดึงหน้ายกหน้าอะไร แต่ก็อยากเป็นผู้หญิงแก่ที่ดูดีตามธรรมชาติ แต่อย่างไรแล้ว ฟลอเรนซ์ว่าสวยมาจากข้างในต่างหากที่ดีที่สุด คือจิตใจดีแล้วเท่านั้นก็พอ ถ้าใครจะมาชอบมารักเรา แล้วเค้ามองข้ามเรื่องรูปร่างหน้าตาเราได้ แต่มารักเราที่ความสวยข้างในของเรา ฟลอเรนซ์ว่ามันดีกว่านะ เพราะอย่างนี้เค้าคงรักเราจริง ไม่ใช่หลงใหลแค่รูปลักษณ์ภายนอก คิดว่าผู้หญิงจะสวยหรือน่าเกลียดนี่อยู่ที่ไหน ? ฟลอเรนซ์ : ถ้าจะให้บอกว่าผู้หญิงสวยตรงไหน ก็คงอย่างที่บอกแหละว่าควรจะสวยที่จิตใจ แต่ถ้าจะมองดูรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ฟลอเรนซ์กลับคิดว่าคนที่มีอะไรแปลกแตกต่าง หรือผิดปกตินิด ๆ นะ ซึ่งมันจะทำให้คนนั้นดูเด่นขึ้นไง ไม่เหมือนตุ๊กตาที่เป็นบล็อกเดียวกันหมด มันก็ไม่ค่อยน่าสนใจใช่ไหม แต่ถ้ามีอะไรที่เด่นขึ้นมา บางทีก็เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้หญิงเด่นขึ้นได้นะ แม้ว่าฟลอเรนซ์จะคิดว่าผู้หญิงมีเสน่ห์ที่ความผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เธอเองกลับไม่ชอบความผิดปกติของตัวเองสักเท่าไหร่ เพราะเธอบอกว่าไม่ค่อยชอบตัวเองที่ หูกาง เอาซะเลย!