หลั่งข้างนอก เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ไว้ใจได้สำหรับผู้หญิงหรือเปล่า
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/wo/0/ud/22/114097/114097-thumbnail.jpgหลั่งข้างนอก เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ไว้ใจได้สำหรับผู้หญิงหรือเปล่า

    หลั่งข้างนอก เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ไว้ใจได้สำหรับผู้หญิงหรือเปล่า

    2018-08-21T13:36:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    หลั่งข้างนอก มีโอกาสจะตั้งครรภ์มั้ย? ขอตอบเลยว่า 'มี' การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็เป็นวิธีการที่ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ฉะนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจที่จะใช้วิธีนี้ในการคุมกำเนิด ก็คิดให้ดีก่อนนะ และนี่คือรายละเอียดที่คุณควรรู้

    การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ทำงานยังไง

    วิธีนี้คือการที่ผู้ชายดึงอวัยวะเพศออกจากช่องคลอด ก่อนที่จะมีการหลั่งอสุจิ ฉะนั้น จึงอาจมีอสุจิปริมาณเล็กน้อยหลุดรอดเข้าไปได้ แต่มันก็ไม่ได้เข้าไปง่ายๆ ขนาดนั้นหรอกนะ ฝ่ายชายจำเป็นต้องรู้ช่วงจังหวะเวลาเป็นอย่างดีว่า ควรจะดึงออกมาหลั่งข้างนอกตอนไหน ถ้าดึงออกมาผิดเวลา ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย ฉะนั้น ก็ควรจดจำเคล็ดลับดีๆ พวกนี้ไปใช้ซะนะ

    • ใช้สารทำลายหรือฆ่าเชื้ออสุจิร่วมด้วย
    • อย่าใช้วิธีนี้ในวันที่ร่างกายของฝ่ายหญิงมีความพร้อมที่จะตกไข่ คุณควรคำนวณหาวันตกไข่ให้ดี เพื่อจะได้รู้ว่าจะใช้การคุมกำเนิดวิธีนี้ในวันไหนจึงจะปลอดภัยที่สุด
    • ฝ่ายชายควรจะปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อช่วยเคลียร์เชื้ออสุจิที่อาจคืบคลานออกมาเร็วเกินไป
    • เวลาที่ฝ่ายชายดึงออกมาหลังข้างนอกนั้น ต้องแน่ใจว่าน้ำอสุจิที่หลั่งออกมานั้นไม่ได้อยู่แถวๆ ต้นขาหรือหน้าขาของฝ่ายหญิง เนื่องจากเชื้ออสุจิที่อยู่บนผิวนั้น สามารถสามารถหาทางเข้าไปในช่องคลอดได้

    การคุมกำเนิดวิธีนี้ใช้ได้ผลแค่ไหน

    มีคู่รักเพียง 4% เท่านั้นที่คุมกำเนิดอย่างถูกต้องทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แล้วจะเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมาได้ ซึ่งในกรณีนี้ มีคู่รักอยู่ประมาณ 25% ที่ใช้การคุมกำเนิดวิธีนี้ แล้วเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมา ซึ่งถ้านำมาเปรียบเทียบกันแล้ว คู่รักที่ใช้ถุงยางอนามัย มีสิทธิ์เกิดตั้งครรภ์ได้ 18% ส่วนคู่รักที่ปล่อยไปตามโชคชะตานั้น มีโอกาสจะตั้งครรภ์ได้มากถึง 85% ฉะนั้น ถ้าคู่รักคู่ไหนยังไม่อยากให้อยากมีชีวิตน้อยๆ เกิดมาในช่วงนี้ ก็ไม่ควรคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ เพราะมีโอกาสสูงที่จะเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาได้

    วิธีนี้เหมาะกับคุณหรือไม่

    การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ไม่สามารถไว้วางใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงไม่น่าจะเป็นวิธีที่เหมาะกับใคร ถ้าคนๆ นั้นไม่ต้องการตั้งครรภ์ แถมยังเป็นวิธีที่เสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย ฉะนั้น ถ้ามีโอกาสเสี่ยงที่จะติดโรคจากคู่นอนของคุณ ก็ไม่ควรใช้วิธีนี้ แต่ถ้าคู่รักคู่ไหนที่ไม่กังวลกับการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ การหลั่งข้างนอกก็นับเป็นทางเลือกที่ดี เพราะเป็นวิธีที่สะดวก และไม่ต้องเสียเงินเสียทองอะไร นอกจากนี้คุณยังไม่ต้องไปพบคุณหมอ เพื่อขอให้สั่งยาอะไรด้วย

    วิธีนี้ป้องการการติดโรคได้หรือไม่

    ก็อย่างที่บอกไปแล้วนั่นแหละว่า ถึงแม้วิธีจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถป้องกันการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เลย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหูดหรือเริมที่อัวยะวะเพศ สามารถแพร่กระจายจากการสัมผัสกันทางผิวหนังได้ ฉะนั้น ถ้าคุณกำลังจะมีเพศสัมพันธ์กับใคร ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคเอาไว้ก่อนดีกว่า

    จะใช้วิธีนี้ให้ได้ผลดีที่สุดได้อย่างไร

    วิธีที่จะหลั่งข้างนอกให้ได้ผลดีที่สุดก็คือ ใช้ร่วมกับการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น (อย่างเช่น การใส่ห่วง ยาคุมกำเนิด และถุงยางอนามัย) วิธีนี้ถึงแม้การหลั่งข้างนอกจะเกิดการผิดพลาด ก็ยังป้องกันการตั้งครรภ์ได้อยู่ดี

    การใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีที่ดีสุดในการใช้ร่วมกับวิธีหลั่งข้างนอก ซึ่งวิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ถ้าดึงออกมาหลั่งข้างนอกผิดเวลา แต่ยังเป็นวิธีเดียวที่หยุดการแพร่กระจายของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากการมีเซ็กซ์ได้ คุณอาจใช้ถุงยางอนามัยในการฝึกหลั่งข้างนอก  เพื่อจะได้เรียนรู้ว่า จะดึงออกมาหลั่งข้างนอกตอนไหนได้ถูกเวลา

    การจะหลั่งข้างนอกให้ได้ผลดีที่สุดนั้น คุณจะต้องทำให้ถูกเวลาทุกครั้ง โดยจะต้องดึงออกมาก่อนจะมีการหลั่งอสุจิทุกครั้ง และต้องแน่ใจว่าน้ำอสุจิที่หลั่งออกมานั้น อยู่ห่างจากอวัยวะเพศของฝ่ายหญิง เรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะถ้าเชื้ออสุจิเข้าไปอยู่ในช่องคลอดได้แม้เพียงนิดเดียว ก็อาจทำให้มีโอกาสจะตั้งครรภ์ได้เหมือนกัน

    ใช้ร่วมกับยาคุมฉุกเฉิน

    ในกรณีที่อาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้นจากการคุมกำเนิดด้วยวิธีหลั่งข้างนอกนั้น คุณก็ควรเตรียมยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเอาไว้ให้พร้อมด้วย เผื่อเอาไว้ในกรณีที่มีการหลั่งในบริเวณที่อยู่ใกล้อวัยวะเพศของฝ่ายหญิง ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันได้ถึง 5 วัน วิธีนี้จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมาอย่างแน่นอน

    กล่าวโดยสรุปก็คือ คุณผู้หญิงควรคิดให้ดีก่อนตัดสินใจคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ที่ดีนั้น ไม่ควรทำให้ใครต้องรู้สึกหวาดวิตกเกี่ยวกับการตั้งครรภ์หรือการติดโรค ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าผู้หญิงที่ใช้การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ มักไม่ค่อยมีความสุขกับการมีเพศสัมพันธ์เท่าไหร่ เนื่องจากมักต้องพะวงว่าเขาจะดึงออกมาช้าเกินไปหรือเปล่า จนพลอยทำให้ไม่มีความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์ไปด้วย

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด

     

    ขอขอบคุณ

    ข้อมูล :Aomsin Saenlom