รู้ไว้ใช่ว่าเกี่ยวกับเรื่องอ้วนๆ

รู้ไว้ใช่ว่าเกี่ยวกับเรื่องอ้วนๆ

รู้ไว้ใช่ว่าเกี่ยวกับเรื่องอ้วนๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลักษณะของเซลล์ไขมันนั้น จะเหมือนเป็นเซลล์ว่างเปล่าค่ะ เพราะว่าในแต่ละเซลล์บรรจุไขมันไว้จนกินเนื้อที่เกือบทั้งหมด แถมยังมีคุณสมบัติที่สาวๆ ฟังแล้วต้องไม่ปลื้มแน่ๆ นั่นก็คือ มันสามารถขยายขนาดเพื่อรองรับปริมาณไขมันได้มากถึง 6 เท่าตัวเลยทีเดียว ดังนั้น ถ้าคุณกินอาหารจนล้นเกิน ร่างกายก็จะเก็บพลังงานส่วนเกินนี้ไว้ในเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ จนคุณกลายเป็นคนอ้วนได้ยังไงล่ะคะ


ขอเริ่มที่ ‘เซลล์ไขมัน' ชื่อที่ฟังแล้วแสนจะแสลงหูก่อน คุณทราบหรือไม่ว่า ในร่างกายของคนปกติทั่วไป จะมีเซลล์ไขมันอยู่ราว 40 พันล้านเซลล์ จำนวนเซลล์ที่มากขนาดนี้ไม่ได้มีมาแต่แรกเกิดหรอกนะคะ ร่างกายมาทยอยสร้างเอาภายหลัง ว่ากันว่าในชั่วชีวิตหนึ่งของคนเรา เซลล์ไขมันจะมีการเพิ่มจำนวนตามช่วงวัยดังนี้ วัยทารก วัยเด็ก และช่วงย่างเข้าวัยรุ่น พอถึงวัยผู้ใหญ่ก็จะมีจำนวนคงที่ไปตลอดชั่วชีวิต โดยเซลล์เก่าที่ตายไปบางส่วน (ประมาณ 10%) จะมีเซลล์ไขมันใหม่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนค่ะ

นอกจากคุณสมบัติยืดได้ ขยายได้ดังกล่าว เซลล์ไขมันยังสามารถแบ่งเซลล์เพิ่มจนเกินจำนวนที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติได้ด้วย อย่างในกรณีร่างกายได้รับพลังงานล้นเกินมากๆ ในช่วงที่เซลล์ไขมันกำลังเพิ่มขึ้นตามวัย (เช่น ในช่วงวัยเด็ก) ไม่เพียงเซลล์ไขมันจะขยายขนาด เพื่อรองรับไขมันส่วนเกิน ขณะเดียวกันก็จะแบ่งเซลล์เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับไขมันให้ได้มากขึ้นด้วย บางตำราก็ว่าเพิ่มได้กว่าสองเท่าตัวเลยทีเดียว (เพิ่มได้ถึง 100 พันล้านเซลล์)

แถมเซลล์ไขมันเหล่านี้ยังเข้าข่ายทนทายาด นั่นก็คือลองมันได้เพิ่มจำนวนแล้วก็ยากที่จะลดจำนวนลงได้ง่ายๆ เด็กที่เคยอ้วนมาก่อนเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ (ถึงจะไม่อ้วนแล้วก็ตาม) จึงมีจำนวนเซลล์ไขมันในร่างกายสูงกว่าผู้ใหญ่ทั่วไปมาก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเด็กอ้วนถึงมีแนวโน้มเป็นผู้ใหญ่ที่อ้วนได้ง่ายในอนาคต

ไม่เพียงแต่จะเป็นคนอ้วนง่ายเมื่อโตขึ้นเท่านั้น ผู้ใหญ่ที่เคยอ้วนในวัยเด็กแล้วมาอ้วนเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ การจะลดความอ้วนจะทำได้ยากมากๆ ค่ะ เพราะจำนวนเซลล์ไขมันมีมากและยังมีขนาดใหญ่ เจอสองเด้งอย่างนี้ก็เตรียมทำใจไว้เลยค่ะว่าต้องใช้ความพยายามในการรีดน้ำหนักมากกว่าคนอื่น คนอื่นที่ว่านี้หมายถึง คนที่มาอ้วนภายหลังจากโตเป็นผู้ใหญ่แล้วค่ะ เพราะคนกลุ่มนี้จะมีจำนวนเซลล์ไขมันในร่างกายไม่ต่างจากคนปกติคือประมาณ 40 พันล้านเซลล์ ถ้าจะมีเพิ่มก็เพิ่มไม่มากนัก ที่อ้วนเป็นเพราะเซลล์ไขมันขยายขนาดใหญ่ขึ้น อย่างนี้นี่ลดไม่ยากเท่าไหร่ แค่ทำให้เซลล์ไขมันมีขนาดเล็กลงก็ผอมได้

ทีนี้มาดูเรื่องของ ‘เซลล์กล้ามเนื้อ' บ้าง คงสงสัยกันล่ะสิว่า เซลล์กล้ามเนื้อเกี่ยวข้องกับการ ลดความอ้วนยังไง

เกี่ยวแน่นอนค่ะ เพราะเซลล์กล้ามเนื้อเป็นเซลล์ที่ต้องการพลังงานมากและต้องใช้พลังงานตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่เวลานั่งหรือเวลานอน หากเทียบกับเซลล์ไขมันแล้ว เซลล์กล้ามเนื้อใช้พลังงานมากกว่าเซลล์ไขมันประมาณ 25-30 เท่าเลยทีเดียว เซลล์กล้ามเนื้อจึงเปรียบเหมือน ‘เตาเผาพลังงาน' ของร่างกายดีๆ นี่เอง ฉะนั้น ยิ่งคุณมีมวลกล้ามเนื้อในร่างกายมาก การเผาผลาญพลังงานก็จะยิ่งมากตามไปด้วย จึงเป็นผลดีต่อการรีดพลังงานหรือไขมันส่วนเกินในร่างกายยังไงล่ะคะ

แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้ถึงข้อดีของมวลกล้ามเนื้อในจุดนี้ แถมยังลดน้ำหนักด้วยวิธีผิดๆ อย่าง ‘การอดอาหาร' แบบเร่งด่วนเพื่อให้น้ำหนักลดลงเร็วๆ วิธีนี้จะเป็นการช็อคร่างกายทำให้ร่างกายพยายามเซฟพลังงานเอาไว้ให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้อดตาย โดยพยายามลดเซลล์ที่ต้องการพลังงานมากๆ ซึ่งก็คือเซลล์กล้ามเนื้อลง และถ้าคุณยังคงอดอาหารต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ร่างกายก็จะดึงเอากล้ามเนื้อออกมา เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานด้วย ทำให้มวลกล้ามเนื้อค่อยๆ สลายและลดจำนวนลง

การที่มวลกล้ามเนื้อลดลง พอคุณเลิกอดอาหารกลับมากินเหมือนเดิม พลังงานที่กินเข้าไปแม้จะไม่มากนัก ก็ยังเป็นส่วนเกินอยู่ดี เพราะร่างกายขาดเตาเผาพลังงานชั้นดีไปเยอะ พลังงานส่วนเกินก็จะถูกดึงไปสะสมที่เซลล์ไขมัน และอย่างที่บอกไปว่าเซลล์ไขมันเก็บไขมันได้ไม่จำกัด คราวนี้คุณก็จะกลับมาอ้วนเหมือนเดิม แถมยังจะเจอ โย-โย่ เอฟเฟ็กต์ จนอ้วนกว่าเก่าเสียอีก

เห็นความสำคัญของมวลกล้ามเนื้ออย่างนี้แล้ว ใครคิดจะลดความอ้วนก็อย่าเลือกวิธีที่ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลงอย่างการอดอาหารนะคะ วิธีง่ายๆ ที่จะคงมวลกล้ามเนื้อไว้ได้ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ก็อย่างที่เราเคยแนะนำไปในฉบับก่อนๆ นั่นคือ การควบคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ซึ่งไม่เพียงช่วยคงมวลกล้ามเนื้อเอาไว้ยังอาจช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้ด้วยถือเป็นกำไรสองเด้งไปค่ะ

อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว ก็ได้แต่หวังว่า คุณผู้อ่านจะรับมือกับไขมันส่วนเกินอย่างเข้าใจมากขึ้น ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ใครก็ตามที่กำลังประกาศสงครามกับเจ้าไขมันส่วนเกิน จำไว้ว่า ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามค่ะ

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลยันฮี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook