Simply ME : เจี๊ยบ โสภิตนภา

ไม่ใช่เรื่องแปลกหากใครต่อใคร จะรู้จักเธอในฐานะลูกหลานคนดังแห่งตระกูล ทัพพะรังสี ความสวย ฉลาด ดูดี และมีชาติตระกูล ถูกรวมไว้ในตัว คุณเจี๊ยบ โสภิตนภา (ทัพพะรังสี) ชุ่มภาณี แทบทั้งหมด นอกจาคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว เธอยังประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะนักแสดง มีชีวิตครอบครัวที่ดีและมีชื่อเสียงในด้านบวกมาตลอดความสุขสมหวังเหล่านี้ ทำให้เธอมีภาพลักษณ์ของหญิงสาวที่เพียงพร้อมสมบูรณ์แบบ จนใคร ๆ ต่างก็อยากรู้จักเธอในทุกแง่มุม เจี๊ยบเรียนม.ปลายที่โรงเรียนอุดมศึกษา และเรียนที่เอแบคได้ 1 ปี ก็เดินทางไปต่อปริญญาตรีที่ Mount Ida College ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางด้าน Communication พอกลับมาเมืองไทยได้สักพัก เจี๊ยบก็ไปสมัครงานที่เพนดูลั่ม ทำงานเป็นพีอาร์อยู่ 6 เดือน แต่พีอาร์ที่เพนดูลั่มเขาค่อนข้างแข็งแกร่งแล้ว ฉะนั้นเจี๊ยบเลยคิดว่ามันจะสนุกมั้ย เพราะอีกอย่างเราเพิ่งเรียนจบมา อยากทำอะไรที่มันท้าทายหน่อย พอรู้ว่าหนังสือเซเว่นทีนกำลังจะเปิดตัว ก็มาสมัครเอง เข้ามาคุยกับนาย (Rasina Uberoi) แล้วเขาก็รับเลย จะบอกว่าเจี๊ยบเรียนทำหนังสือมาบ้าง แต่ไม่โดยตรงจริง ๆ ชอบทำพีอาร์ เลยขอนายว่า ถึงแม้เราจะมาทำหนังสือก็ตาม ขอทำพีอาร์ได้มั้ยคะ นายรู้ว่าเราชอบพูดคุย ก็เลยโอ.เค. ต้องบอกว่าเป็นการเริ่มต้นชีวิตการทำงานอย่างจริงจังและถือว่าที่นี่เป็นผู้ให้โอกาส เจี๊ยบเคยเจอมาก่อนนะคะ ไม่บอกแล้วกันว่าทำงานที่ไหน มีคนเคยไม่ให้โอกาสเรา เพราะเขาคิดว่าเรามีนามสกุลดี คงทำงานไม่ได้ เจี๊ยบจำตรงนี้ไว้เป็นบทเรียนและให้โอกาสคนเสมอ และทุกวันนี้เจี๊ยบได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เจี๊ยบทำได้ ไม่ใช่เพราะนามสกุล แต่ทำได้ด้วยตัวเอง เพราะนายและคนรอบข้างให้โอกาส เจี๊ยบจะถือตรงนี้มาก ๆ เป็นหลักในการทำงานเลยว่า ต้องให้โอกาสคน เพราะการได้รับโอกาสที่ดี เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แม้จะพ่วงท้ายด้วยนามสกุลดัง และถูกมองว่าเป็น ไฮโซ แต่การดำเนินชีวิตของเธอ ก็ไม่ต่างอะไรจากหญิงสาวธรรมดาทั่วไป สิ่งหนึ่งที่สะท้อนความเป็นตัวเธอได้อย่างชัดเจน นั่นคือ การวางตัวที่ดีและเหมาะสม ซึ่งแน่นอนว่า ครอบครัวจึงเป็นสิ่งแรกที่เธอยกความดีให้ เจี๊ยบไม่ใช้คำว่าไฮโซนะ เจี๊ยบเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตธรรมดามาก ๆ เพียงแต่ว่าครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่ และมีคนทำงานอยู่ในหลายสาขาอาชีพ ที่บ้านพอวันเสาร์ อาทิตย์ จะนัดทานข้าวและทำกิจกรรมด้วยกัน วิธีการวางตัวจากพี่ ป้า น้า อา ทุกคนจะสอนเราโดยที่เราไม่รู้ตัว ฉะนั้นเรื่องกิริยามารยาทในการเข้าหาผู้ใหญ่ จึงเป็นสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่เด็ก เรื่องการแต่งตัวให้เหมาะสมกับสถานที่ก็เหมือนกัน เราทำกันอยู่แล้ว อย่างที่บ้านจัดงานตอนเช้ามีเลี้ยงพระ แม้จะมีปาร์ตี้ต่อตอนเย็นก็ต้องเอาชุดมาเปลี่ยน ไม่ใช่ใส่สายเดี่ยวมาตั้งแต่เช้า เพราะที่บ้านผู้ใหญ่เราเยอะ เลยต้องแต่งตัวให้เหมาะสม ส่วนการวางตัว การพูดจาก็ดูจากพี่ ป้า น้า อา ที่เราเห็น คือเขาจะพูดจาดี ถึงแม้จะสนิทกันมากและแต่งตัวภูมิฐาน แต่หมายถึงแต่งตัวดี ถูกกาลเทศะ เขาจะมีวิธีการวางตัวให้เราดู เราก็ดูตาม ไม่ได้บอกว่าไฮโซ หรืออะไรนะคะ แต่เป็นการอบรมที่ดีมากกว่า ต้องบอกว่าวิธีการเลี้ยงดูเป็นการผสมผสานระหว่าง 2 ครอบครัว ไม่ใช่ ทัพพะรังสี อยัวทัพพะรังสีเป็นทางคุณพ่อ ส่วน ไกรฤกษ์ เป็นทางคุณแม่ เจี๊ยบเอาทั้ง 2 ครอบครัวมาปรับเปลี่ยนกัน ด้วยความที่ทางทัพพะรังสีเป็นคนต่างจังหวัด เราจะธรรมดามาก ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วค่ะ ทั้งคุณปู่คุณย่าเป็นคนที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาก บ้านที่อยู่มา 50 ปี ไม่ได้หรูหราฟู่ฟ่ามาก ไปทานข้าวก็ยังไปทานร้านเมื่อสมัย 50 ปีที่แล้ว ที่คุณปู่ไปตีกอล์ฟ คือเราใช้ชีวิตเรียบง่ายมาก อย่างคุณลุงกร ทัพพะรังสี เมื่อไหร่ที่เขาไม่ใส่สูทหรือเล่นการเมืองอยู่ เขาก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งที่กลับบ้านมาเป็นคุณลุงที่น่ารัก ไม่มีการวางมาดเข้ม เป็นคนเฮฮาและน่ารักมาตลอด เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ขนาดคุณลุงกรมีตำแหน่งงานการเมืองเคยเป็นรองนายกฯ เขาก็ยังวางตัวธรรมดา ฉะนั้นเราก็เลยเหมือนเป็นคนธรรมดา ส่วนทางญาติอีกบ้านหนึ่งคือ ไกรฤกษ์ จะเป็นผู้หญิงหมดเลย กิริยามารยาทหรือวิธีการพูดจาก็มาจากบ้านนี้ ทางด้าน ทัพพะรังสี จะผู้ชายเยอะ เฮฮา โวยวาย สนุก ๆ ง่าย ๆ อีกบ้านหนึ่งจะเป็นผู้หญิงแต่งตัว ฉะนั้นเราเลยได้รับการเลี้ยงดูมา 2 แบบ ซึ่งใครจะคิดว่าเราหรูหราฟู่ฟ่ามันก็ไม่ใช่ เราไม่ได้มีอะไร ทุกคนชอบใช้ของดี แต่ไม่จำเป็นว่าต้องตลอดเวลา เจี๊ยบไม่ต้องใช้แบรนด์เนมตลอดเวลาก็ได้ ถ้ามันสวยจริง ๆ นาน ๆ จะเก็บเงินซื้อ ไม่ใช่ว่าได้เงินมาก้อนหนึ่งแล้วซื้อหมด ถ้าจะถามว่า ใครที่เป็นตัวอย่างให้เจี๊ยบ ต้องบอกว่าเป็นคุณแม่ คุณแม่เป็นผู้หญิงที่เก่ง ด้วยความที่คุณพ่อเจี๊ยบเสียมาตั้งแต่เด็ก คุณแม่ต้องทำงานคนเดียวเพื่อเลี้ยงลูก เขาเป็นตัวอย่างที่ดี วางตัวดี อยู่บ้านเขาก็ทำสวน งานบ้านเขาก็ชอบทำให้ เราก็จะซึมซับไปโดยปริยาย บางทีเราไม่ค่อยรู้หรอกว่าที่เขาสอน มันรู้สึกไปถึงข้างใน อะไรที่เขาบ่น ๆ พูด ๆ มาตลอด บางทีโทร.ไปเล่าให้คุณแม่ฟังว่าที่เคยสอนไว้มันดีเลย์ (หัวเราะ) แต่มันก็เกิดขึ้นจริง ๆ ยกให้คุณแม่เป็นแบบอย่างที่ดีอันดับหนึ่งเลยค่ะ ถ้านอกจากคุณแม่แล้วก็เป็นคุณลุงกร ชอบการวางตัวของเขา ไม่ว่าจะมีข่าวอะไรเกิดขึ้นมากมาย อาชีพนักการเมืองเป็นงานที่หนักและเหนื่อย บางทีเขาต้องทำอะไรให้กับประเทศชาติบ้านเมือง แต่เวลาที่เขามาเจอเจี๊ยบเขาก็เป็นคุณลุงที่น่ารัก เขาจะสอนเราตั้งแต่เด็กเลยค่ะ คือเจี๊ยบไม่เคยได้รับอภิสิทธิ์อะไรพิเศษเลย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจจับหรืออะไรก็ตาม เขาไม่เคยให้ใช้ชื่อหรือนามสกุลเขา เขาแค่บอกว่าอย่าให้รู้นะว่าทำอะไรไม่ดี อย่าไปใช้ชื่อเขาในทางที่เสียหาย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ดีพูดได้ เขาไม่เคยบอกว่าตำรวจจับโทร.มานะ ไม่เคยทำอย่างนั้น และเขาให้เป็นแบบอย่างให้เราเห็น ลูกชายทั้งสองคน เขาก็เลี้ยงมาอย่างดี คุณลุงกรเป็นคนน่ารักและเป็นแบบอย่างที่ดีค่ะภาพภายนอกที่หลายคนมอง เธออาจมีลุคเป็นคุณหนู มีพิธีรีตองและถือตัว แต่ทั้งหมดกลับห่างไกลจากตัวเธออย่างสิ้นเชิง เจี๊ยบเป็นคนง่าย ๆ ไม่มีปัญหาอะไรกับใคร เป็นคนที่ค่อนข้างจริงใจ เจี๊ยบจะเป็นคนเรื่องมากในขั้นแรกที่รู้จักกันแต่เมื่อเจี๊ยบทำอะไรให้แล้ว เจี๊ยบทำจริง ๆ ถ้าเจี๊ยบมีปัญหาแสดงว่าคุณไม่ได้ทำตามที่ตกลงเอาไว้ เจี๊ยบเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลย อ่านง่ายมาก คือไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ชอบก็คือชอบ แฮปปี้ก็ดีใจ เป็นคนสบาย ๆ ชีวิตคือทำงานที่เรารัก อยู่กับคนที่ตมีครอบครัวที่อบอุ่นก็พอ เป็นคนไม่ช่างเลือก เป็นคนทานง่ายที่สุดเลย แต่ละมื้อก็ทานซ้ำอยู่นั่นแหละ อย่างทานข้าวมันไก่ก็ข้าวมันไก่ทุกวัน ถ้ากะเพราะหมูกรอบก็จะกะเพราหมูกรอบทุกวัน ไม่ดีเลย เพราะหมูกรอบมันเยอะมาก ช่วงนี้อ้วนเลย แต่ตอนนี้เริ่มจัดตารางบ้างแล้ว พยายามเปลี่ยนอยู่ แม้จะดูผอมแต่เป็นคนตัวเตี้ย ฉะนั้นถ้าอ้วนก็จบเลย สมัยก่อนตอนปิดเทอมนะ ทานข้าวหมูแดง หมูกรอบทุกวัน (หัวเราะ) เป็นอย่างนี้จริง ๆ ทานทุกวัน 10 วัน ก็ 10 วัน ชอบให้ตัวเองดูดีมากกว่าสวยนะ ดูดีในที่นี้หมายความว่า ไม่ใช่ต้องสวยตลอดเวลา ไม่มีใครเป็นอย่างนั้นได้หรอกค่ะ จะอะไรนักหนา ด้วยอาชีพการงานแล้ว ผมจะมาฟูก็ไม่ได้ ต้องมีการดูแลตัวเองให้ดูดี แต่ไม่ได้แบบโอ้โฮโบ๊ะ แต่ต้องแต่งตัวให้ถูกกาลเทศะมากกว่า แต่งหน้าก็มีบ้าง เพราะเจี๊ยบทาครีมเยอะ หลายชนิดมาก เลยต้องทาแป้งไม่ให้หน้ามัน ชอบปัดขนตา เหมือนผู้หญิงทั่วไปค่ะ ชอบสวยงาม แต่ไม่ชอบทาปาก (หัวเราะ) รู้สึกมันหนัก ๆ ไม่ชอบ ไม่ว่าจะเจอเธอในจอทีวี บนหน้าหนังสือพิมพ์หรือแม้แต่งานสังคมต่าง ๆ สิ่งแรกที่ต้องยอมรับก็คือรอยยิ้มที่สดใสทุกครั้ง จนทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า ความสุขที่เธอเติมให้กับชีวิตทุกวันนั้น มันมาจากไหนกันนักหนา ความสุขง่าย ๆ เลยค่ะ เป็นคนที่มีความสุขมากที่ได้อยู่กับครอบครัว และคนที่เรารัก ทานอาหารอร่อย ๆ (หัวเราะ) ได้ไปทะเลบ้าง เที่ยวบ้านประปราย ได้ทำงานที่เรารัก เจี๊ยบว่าความสุขของคนมันมี 1 100 แต่ความสุขของเจี๊ยบมันกลาง ๆ บางคนอาจจะคิดว่าต้องทำนั่นทำนี่ ถึงจะมีความสุข แต่ของเจี๊ยบง่าย ๆ แค่ได้นอนอยู่บ้านอ่านหนังสือเล่มหนึ่งก็แฮปปี้จะตายแล้ว ไม่คิดอะไรมาก เจี๊ยบไม่ได้ทำอะไรเยอะ ทำอะไรที่ควบคุมได้ ทำอะไรเล็ก ๆ ไม่ทำอะไรฟู่ฟ่าใหญ่โต มีปัญหาก็แค่นี้ ไม่มีปัญหาก็แค่นี้ ไม่ทำอะไรใหญ่โตและวุ่นวาย เจี๊ยบอยากให้ทุกคนมองหาตัวเองว่ามีอะไรที่รักและอยากทำบ้าง เพราะชีวิตไม่ได้ยาวมาก เจี๊ยบรู้สึกว่าการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก แล้วไม่เดือดร้อนคนอื่น เป็นความสุขมาก อย่างเจี๊ยบอยากเป็นพีอาร์ เจี๊ยบก็ทำงานในสิ่งที่เรารัก ถึงแม้หนังสือของเจี๊ยบไม่ได้ใหญ่โตที่สุดในประเทศไทยหรือดีที่สุด อย่างน้อยครั้งหนึ่งเราได้ทำฝันที่อยากเป็นพีอาร์ให้เป็นจริง มันก็โอ.เค.แล้ว เลยอยากให้ผู้หญิงหลาย ๆ คนได้เป็นอย่างนี้บ้างค่ะ