สุทัศนีย์ คุนผลิน..ก้าวย่างอย่างใจฝัน

ด้วยวัยเพียง 24 ปี แต่น้องอุ้ย-สุทัศนีย์ คุนผลิน สาวน้อยน่ารักคนนี้ ก็ผ่านงานด้านการเมืองมาอย่างหลากหลาย แม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิชาเรียน ในฐานะนักศึกษาฝึกงาน แต่นั่นนับเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ช่วยเปิดมุมมอง และความคิดให้กับข้าราชการยุคใหม่อย่างเธอ อายุ : 24 ปี บิดา-มารดา : วรศักดิ์-บงกช คุนผลิน การศึกษา : Political Science & International Relations, American University, USA ตำแหน่งปัจจุบัน : พนักงานศาลปกครองด้านภาษาต่างประเทศ ศาลปกครอง เริ่มต้นความฝันงานการเมือง น้องอุ้ยเริ่มงานใหม่ที่ศาลปกครองได้ไม่ถึงอาทิตย์ในตำแหน่งพนักงานศาลปกครอง เพราะเพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศ อุ้ยเพิ่งเข้าไปทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่พนักงานศาลทางด้านต่างประเทศ มีหน้าที่ต้อนรับแขกต่างชาติ แปลหนังสือบ้าง อย่างแรกก็คืออยากทำงานที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย เพื่อทำความคุ้ยเคยกับรายละเอียดของระบบกฎหมายไทยก่อน เพราะอุ้ยจะใช้พื้นฐานตรงนี้ไปเรียนต่อด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อเพิ่มพูนความรู้ เพราะยังไงก็ต้องทำงานด้านนี้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้อุ้ยจบปริญญาตรีด้านการเมืองการปกครอง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการเรียนเกี่ยวกับกฎหมายต่างประเทศ ที่นั่นเราต้องเรียนกฎหมายอเมริกา พอกลับมาอยู่เมืองไทยเราจึงอยากเรียนกฎหมายไทยด้วย ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอุ้ยเลือกเรียนความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอเมริกา ซึ่งต้องไปเรียนที่ปักกิ่งหนึ่งเทอม ประมาณ 4 เดือน ที่ตัดสินใจไปเพราะช่วยเปิดกว้างให้เราเห็นมุมมองของคนจีน เห็นความแตกต่างว่าแต่ละประเทศมองเรื่องเดียวกนไม่เหมือนกัน เรานำสิ่งเหล่านยบและลำดับความคิดในเรื่องต่าง ๆ ได้ จากนั้นก็ฝึกงานต่อที่ UN การทำงานกับคนหลากเชื้อชาติ ทำให้เราเห็นว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้ทุกคนเห็นแก่ส่วนรวม ไม่เห็นแก่ตัว ตามนโยบายของ UN เพราะแต่ละฝ่ายต่างเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น ในทางปฏิบัติทุกอย่างจำเป็นต้องมีข้อต่อรอง ทำให้เรารู้จักมองสองด้าน หาเสียงครั้งแรกที่อเมริกา ครั้งหนึ่งในชีวิตเธอเคย หาเสียง มาแล้ว ในฐานะหัวหน้าเขตเลือกตั้งของสมาชิกตระกูลเคเนดี้ สังกัดพรรคเดโมแครตของสหรัฐอเมริกา งานตอนแรกเหมือนพวกใช้แรงงานเลย เจ้านายคงเห็นว่าเราขยัน เลยแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าเขตเลือกตั้งที่นั่น เดินหาเสียงอยู่ 3 4 เดือน แต่ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าเราแพ้ รู้สึกห่อเหี่ยวเหมือนกัน อุ้ยยังคิดเลยว่าถ้ากลับไปต่อโทจะขอกลับไปทำงานที่พรรคอีกครั้ง ตอนนี้อุ้ยยังติดตามการวิเคราะห์ข่าวอยู่ ในอนาคตอยากทำงานด้านการเมือง อยากทำงานด้านกฎหมาย หรืองานช่วยเหลือประชาชน ถ้ามีโอกาสก็อยากทำด้านนี้ มีพรรคการเมืองติดต่อเข้ามาเหมือนกัน แต่ตอนนี้อุ้ยยังไม่พร้อม วุฒิภาวะยังน้อยเกินไป ก้าวย่างอย่างใจฝัน การตัดสินใจแต่ละก้าวของชีวิตมีครอบครัวเป็นแบ็กอัพสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะคุณพ่อกับพี่ชาย ถือเป็นกุนซือคนสำคัญที่มีส่วนร่วมในการวางแผนชีวิตให้กับสาวน้อยหนึ่งเดียวของบ้านคนนี้ อย่างที่เขาว่า นักกีฬาจะเก่งได้ต้องมีโค้ชที่ดี ตัวอุ้ยก็เหมือนกัน โชคดีที่มีคุณพ่อกับพี่ชายคอยให้คำปรึกษามาตลอด อาศัยว่าท่านมีประสบการณ์ มองการณ์ไกลกว่าเรา แต่สุดท้ายการตัดสินใจ 100% อยู่ที่อุ้ย ว่าจะเลือกทำหรือไม่ทำออย่างการเลือกเรียนด้านการเมืองการปกครอง เริ่มต้นก็มาจากการที่คุณพ่อเป็นคนชอบคุย ชอบวิเคราะห์การเมืองและเศรษฐกิจให้ฟังตั้งแต่อุ้ยยังเด็ก แรก ๆ อุ้ยก็เบนไปทางด้านอื่นเหมือนกัน แต่สุดท้ายมันไม่ใช่ เลยย้ายมาเรียนรัฐศาสตร์ เพราะเป็นเรื่องที่ตัวเองถนัดที่สุด แล้วทุกอย่างก็ไปได้ดี ทั้งรายงาน ทั้งผลการเรียน แต่งงามตามความเหมาะสม แม้จะเอาจริงเอาจังกับงานการเมืองแค่ไหน แต่เรื่องแฟชั่นการแต่งตัวเธอก็ไม่เคยตกเทรนด์ ชอบคนแต่งตัวสวย ๆ ค่ะ ชอบแต่งตัวให้เพื่อน ตามเทรนด์แฟชั่นเหมือนกัน แต่ไม่ถึงกับอินเทรนด์จ๋า จะแต่งให้ดูเรียบเก๋มากกว่า อย่างเราแต่งเรียบทั้งตัวแต่ได้ถือกระเป๋าใหญ่ ๆ ดีไซน์เก๋สักใบก็พอแล้ว ไม่ต้องเยอะทั้งตัว วันไหนอยากใส่เยอะก็เยอะไปเลย แต่ต้องให้ดูอาร์ตนิดนึง ด้วยการใส่เครื่องประดับเข้าไป ทั้งนี้แล้วแต่โอกาสด้วย ถ้าออกไปเจอเพื่อนก็แต่งเต็มที่ เล่นกับ theme ของงานบ้าง แต่ถ้าวันทำงานก็แต่ง เรียบ ๆ ไม่แต่งมาก เรียกว่าแต่งตามความเหมาะสมมากกว่าค่ะ น้องอุ้ยเป็นสาวนักชิมตัวยง เจ้าตัวบอกว่าตัวเองกินเก่งมาก แต่ที่เห็นหุ่นเพรียวงามแบบนี้เพราะเธอใส่ใจเรื่องสุขภาพ ไม่กินจุบกินจิบ แล้วยังขยันฝึกโยคะและหาโอกาสนั่งสมาธิบ่อย ๆ