ลูกเกาหัวยิกๆ ระวังให้ดี งานนี้ลูกคุณอาจเป็น "เหา"

ลูกเกาหัวยิกๆ ระวังให้ดี งานนี้ลูกคุณอาจเป็น "เหา"

ลูกเกาหัวยิกๆ ระวังให้ดี งานนี้ลูกคุณอาจเป็น "เหา"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูก เป็นเหา ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพของลูกที่คุณพ่อคุณควรใส่ใจ และต้องกำจัดให้หมดไปโดยเร็วที่สุด เพราะเหาสามารถแพร่จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนได้ อีกทั้งการที่ลูกเป็นเหา อาจถูกเด็กคนอื่นมองว่าสกปรกและล้อหรือไม่เข้าใกล้ จนลูกคุณมีปัญหากับเพื่อนหรือมีปัญหาสุขภาพจิตได้ เมื่อลูกเป็นเหาแล้วปล่อยไว้ไม่รักษาและหาทางป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก เชื้อเหาอาจแพร่กระจายไปสู่สมาชิกคนอื่นในครอบครัว เพื่อนร่วมชั้น หรือเด็กอื่นๆ ในชุมชนได้

เป็นเหาระวังให้ดี อาการนี้ติดต่อได้

เหาคือแมลงปรสิตชนิดหนึ่ง ลำตัวแบน ไม่มีปีก สีขาวปนเทา หรือสีน้ำตาลอ่อน ยาวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ดำรงชีพด้วยการกินเลือดจากคนหรือสัตว์ เหาที่พบในคนมี 3 ชนิด ได้แก่ เหาที่ศีรษะ (Pediculosis capitis หรือ Head lice) เหาที่ลำตัว (Pediculosis corporis) และเหาที่อวัยวะเพศ หรือโลน (Pediculosis pubis) แต่เมื่อพูดถึงเหา คนส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงเหาที่ศีรษะ ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด และพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน (3-12 ปี) เหาเป็นแมลงคลาน บินหรือกระโดดไม่ได้ แต่ก็มีกรงเล็บที่พัฒนามาเป็นพิเศษทำให้สามารถคลานและเกาะติดหนึบอยู่บนเส้นผมได้ อีกทั้งเหายังเป็นโรคติดเชื้อปรสิตที่สามารถติดต่อและแพร่กระจายจากคนสู่คนได้รวดเร็วมาก โดยเฉพาะในสถานที่ชุมนุมชน หรือในกิจกรรมที่มีผู้คนรวมตัวกันหนาแน่น เช่น โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก งานชุมนุม งานแข่งขันกีฬา การเข้าค่าย ส่วนใหญ่แล้วเหาจะติดต่อโดยตรงจากศีรษะคนหนึ่งไปสู่ศีรษะอีกคนหนึ่ง แต่ก็สามารถติดต่อผ่านการใช้อุปกรณ์ เช่น เสื้อผ้า ที่นอน หมอน หวี หมวก ร่วมกันได้ผู้ที่มีแนวโน้มเป็นเหาได้มากที่สุดได้แก่ เด็กๆ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง เพราะมักทำกิจกรรมร่วมกัน และวิ่งเล่นใกล้ชิดกันมาก รวมไปถึงแบ่งปันของใช้กันบ่อยๆ

สัญญาณที่บอกว่าลูก เป็นเหามองเห็นเหาบนเส้นผมหรือหนังศีรษะ

เหาบนศีรษะพบได้บ่อยบริเวณหลังใบหูและท้ายทอย โดยเหาที่พบนั้นมีลักษณะแตกต่างกันไป ตามแต่ระยะของเหาดังนี้

  • ไข่เหา

ไข่เหา (nit) มีลักษณะเป็นเม็ดรีเล็กจิ๋วสีเหลือง น้ำตาล เป็นต้น เกาะติดอยู่ตามเส้นผมใกล้หนังศีรษะเพราะเป็นจุดที่มีอุณหภูมิเหมาะสมช่วยให้ไข่เหาอบอุ่นและฟักเป็นตัวได้ ไข่เหามองเผินๆ อาจดูเหมือนรังแค แต่หากหวีหรือสะบัดออกจะพบว่ายังเกาะอยู่บนผมไม่หลุดไปไหน โดยปกติแล้วเวลาที่เด็กเป็นเหา เราจะมองเห็นไข่เหาเกาะอยู่บนเส้นผมมากกว่าเห็นตัวเหาคลานอยู่บนหนังศีรษะ ไข่เหาใช้เวลาฟักเป็นตัวอ่อนประมาณ 1-2 สัปดาห์ เมื่อฟักเป็นตัวแล้วจะมองเห็นเปลือกไข่สีขาวหรือสีใสเกาะแน่นอยู่บนเส้นผม และจะค่อยๆ หลุดไปเมื่อผมยาวขึ้น ซึ่งช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่สังเกตได้ง่ายที่สุด

  • เหาตัวอ่อน หรือตัวเต็มวัย

คุณพ่อคุณแม่อาจมองเห็นตัวเหาคลานอยู่ตามหนังศีรษะและเส้นผมของลูก เหาในระยะตัวอ่อนจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ในการเจริญเติบโตเป็นเหาตัวเต็มวัยตัวลำตัวยาวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร เหาตัวเต็มวัยจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 3 สัปดาห์ และเหาตัวเมียจะวางไข่ได้ประมาณ 5-10 ฟองต่อวัน โดยทั่วไปเหาจะดูดเลือดวันละหลายครั้ง และมีชีวิตอยู่นอกหนังศีรษะของโฮสต์ได้อย่างน้อย 2 วัน

ลูกชอบเกาศีรษะ...อาจเพราะเป็นเหา

อาการคันเมื่อเป็นเหาคือปฏิกิริยาตอบสนองต่อน้ำลายของเหา ความรุนแรงของอาการคันจากเหาขึ้นอยู่กับหนังศีรษะของเด็กว่าไวต่อน้ำลายของเหาแค่ไหน เด็กบางคนอาจคันทันทีเมื่อเริ่มติดเชื้อเหา ในขณะที่เด็กบางคนอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนกว่าจะรู้สึกคันเพราะติดเหา หากลูกของคุณชอบเกาศีรษะ บ่นว่ามีอะไรไต่อยู่บนศีรษะ หรือรู้สึกจักจี้ที่ศีรษะ อย่านิ่งนอนใจควรรีบตรวจสอบทันที

ลูกมีรอยแดงหรือแผลบนศีรษะ

เด็กบางคนที่ผิวหนังแพ้ง่าย อาจระคายเคืองรุนแรงจนเกิดเป็นผื่นแดงที่หนังศีรษะ หรือบางคนก็เกาจนหนังศีรษะติดเชื้อแบคทีเรีย อักเสบและเป็นแผล หากถึงขั้นนี้คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบคุณหมอ เพราะอาจต้องรักษาด้วยการกินยาปฎิชีวนะ

เมื่อลูกเป็นเหา ป้องกันอย่างไรไม่ให้แพร่ไปติดผู้อื่นที่บ้าน

  • ซักเสื้อผ้าและเครื่องนอนต่างๆ ที่ลูกใช้หรือสัมผัส 2 วันก่อนเริ่มรักษาเหาให้ลูก เพื่อฆ่าไข่เหาและตัวเหาที่อาจติดอยู่ โดยใช้น้ำร้อนไม่ต่ำกว่า 55 องศาเซลเซียส หากมีเครื่องอบผ้า ควรอบด้วยลมร้อนอย่างน้อย 20 นาที
  • สำหรับเสื้อผ้า ตุ๊กตา หมวก เป็นต้นที่ซักน้ำหรือซักแห้งไม่ได้ ให้ใส่ถุงซิปล็อกแล้วปิดให้แน่นเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะหากมีไข่เหาติดอยู่และฟักเป็นตัวอ่อน ตัวอ่อนของเหาก็จะตายเพราะไม่ได้รับเลือดจากโฮสต์
  • แช่หวีหรือแปรงแปรงผมในรับบิ้งแอลกอฮอล์ (Rubbing Alcohol) หรือที่เรียกว่าเอทิลแอลกอฮอล์ ไลซอล (Lysol) หรือน้ำสบู่ที่ร้อนกว่า 55 องศาเซลเซียสเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง จากนั้นใส่ถุงซิปล็อกและแช่ช่องแข็งอย่างน้อย 2 วัน
  • ทำความสะอาด ดูดฝุ่นพื้น พรม โซฟา และเฟอร์นิเจอร์ทั้งบ้าน เพื่อกำจัดไข่เหาและตัวเหา และไม่ควรใช้สเปรย์ฆ่าแมลงเพราะอาจเป็นพิษต่อร่างกายได้

ที่โรงเรียน

  • ย้ำลูกไม่ให้แบ่งของใช้ส่วนตัว เช่น หมวก เสื้อคลุม หวี ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ยางมัดผม กิ๊บติดผมกับเพื่อนคนอื่น
  • หากเป็นไปได้ ควรบอกให้ลูกหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใกล้ชิดกับเพื่อนแบบศีรษะชนศีรษะ หรือบอกให้คุณครูคอยช่วยสังเกต ถ้าลูกผมยาวอาจมัดผมม้า หรือถักเปียให้ลูก ไม่ควรให้ปล่อยผม เพื่อลดโอกาสติดเหา

เหาตัวร้าย กำจัดอย่างไรดีใช้ยา

เหาสามารถกำจัดได้ด้วย แชมพู ครีมนวด หรือโลชั่นที่ใช้สำหรับกำจัดเหาซึ่งมีทั้งแบบที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ ปกติแล้วเมื่อรักษาเหาด้วยผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะหลังจากเหาหายแล้วอาจใช้เวลาอีก 2-3 วันจึงจะหายคันศีรษะ หากใช้ยารักษาเหาประเภททาหรือฟอกสระแล้วเหายังไม่หาย แพทย์อาจสั่งจ่ายยากินฆ่าเหาซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเหาถึงจะหาย ข้อสำคัญในการให้ลูกใช้ยารักษาเหาก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกประเภทของยาให้เหมาะกับอายุของลูก โดยคุณไม่ควรใช้ยากำจัดเหากับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี และต้องทำตามวิธีใช้ที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัดเพราะผลิตภัณฑ์กำจัดเหาเหล่านี้ถือเป็นยาฆ่าแมลงอย่างหนึ่ง หากใช้มากไปหรือบ่อยเกินไปก็อาจเป็นอันตรายกับเด็กได้ อย่างไรก็ตาม คุณหมอหรือเภสัชกรอาจแนะนำให้รักษาด้วยยาฆ่าเหาซ้ำอีกครั้งภายใน 7-10 วันหลังจากใช้ยาครั้งแรก เพื่อกำจัดไข่เหาที่เพิ่งฟักเป็นตัว

ใช้หวีเสนียดสางเหาออก

การใช้หวีเสนียด หรือหวีซี่ถี่สางเหาออกจากศีรษะถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและเหมาะกับเด็กทุกช่วงวัย และนิยมใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เพราะอายุน้อยเกินกว่าจะใช้ยากำจัดเหา แต่หากลูกของคุณมีอายุมากกว่า 2 ปี คุณสามารถใช้ยาฆ่าเหาพร้อมกับสางเหาให้ลูกเพื่อให้การกำจัดเหาได้ผลยิ่งขึ้นได้ การใช้หวีเสนียดสางเหาสามารถทำได้ทั้งตอนผมแห้ง และตอนผมเปียก โดยชโลมด้วยครีมนวดผม หรือน้ำมันมะกอกให้ทั่วศีรษะเพื่อทำให้เหาขยับไปไหนไม่ได้และช่วยให้สางผมง่ายขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรสางเหาออกให้ลูกทุกๆ 3-4 วัน เป็นเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะไม่พบไข่และตัวเหาอีก อย่างไรก็ตาม การรักษาเหาด้วยตัวเองนั้นควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อน เพื่อให้ได้วิธีที่เหมาะสมกับสภาพความรุนแรงและอายุของลูกที่สุด

เมื่อไหร่ที่ควรกังวลกับ "เหา" ของลูก

การรักษาเหาเปรียบเหมือนสงครามที่ยืดเยื้อ เด็กบางคนเป็นเหาไม่หายสักที หรือบางคนเป็นๆ หายๆ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจาก

  • ยังมีไข่เหาหลงเหลืออยู่
  • ลูกของคุณใช้ชีวิตร่วมกับเด็กที่เป็นเหาจึงติดเหามาอีก
  • วิธีรักษาที่ใช้ไม่ได้ผล

หากคุณพ่อคุณแม่ลองรักษาเหาให้ลูกด้วยตัวเองมานานกว่า 2 อาทิตย์แล้วแต่ลูกยังเป็นเหาไม่หาย หรือหนังศีรษะของเด็กเริ่มอักเสบแดงเหมือนจะติดเชื้อ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพราะหากฝืนรักษาเองต่อไปอาจทำให้เหาดื้อยา แพร่กระจายหนักกว่าเดิม หรือเป็นโรคติดเชื้อที่หนังศีรษะรุนแรงได้

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook