อึ้ง ทึ่ง เสียวไส้ กว่าจะได้เป็นแม่

อึ้ง ทึ่ง เสียวไส้ กว่าจะได้เป็นแม่

อึ้ง ทึ่ง เสียวไส้ กว่าจะได้เป็นแม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเอ่ยถึงคำว่า "แม่" คำสั้นๆ แต่กลับยิ่งใหญ่ในความหมายและความรู้สึกของทั้งผู้ที่ถูกเรียกและผู้เรียก เรามีแม่หลายแบบ ทั้งแม่ยิ้มเก่ง แม่ขี้บ่น แม่กุ๊กกิ๊ก แม่ห้าวๆลุยๆ หรือบางคนอาจมีแม่แบบที่กล่าวมาทั้งหมดในตัวคนเดียวกัน และคุณสมบัติพิเศษที่คนเป็นแม่ทุกคนล้วนมีอยู่ในตัวคือ ความอดทน ความเข้มแข็ง และความรักให้ลูกน้อย อย่างคุณแม่ ท่านนี้ที่เราได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ไม่ธรรมดาของการเป็นแม่ค่ะ




คุณนก-กนกวรรณ อุนโอภาส คุณแม่ผู้มีกำลังใจเกินร้อย


"เกิดมาก็ไม่เคยรักใครเท่านี้ ถึงแม้จะเหนื่อยแค่ไหนแต่เรายังทำได้อีก"


"จู่ๆก็เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษเมื่ออายุครรภ์เพียง 31 สัปดาห์ เลยต้องคลอดก่อนกำหนด และน้องรันน์ต้องอยู่ในตู้อบถึง 45 วัน" นี่คือคำบอกเล่าเรื่องราวของคุณแม่นก คุณแม่ที่เข้มแข็ง มีกำลังกายและกำลังใจที่เกินร้อย


"ตอนนั้นครูที่สอนโยคะทักว่าทำไมบวมขนาดนี้ แต่เราก็ไม่ได้ไปหาหมอทันที เพราะเพิ่งไปมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ปกติเวลาเล่นโยคะอาการบวมจะลดลง แต่คราวนี้ไม่ลด จากนั้นก็ไปชั่งน้ำหนัก คราวนี้ขึ้นถึงครึ่งกิโล ปกติจะขึ้นแค่จุด 1 จุด 2 หรือไม่ก็เท่าเดิม พออีกวันก็ขึ้นอีกครึ่งกิโล คือไม่ควรจะขึ้นขนาดนี้


"วันต่อมา เรารู้สึกว่ามือเราบวมๆ ตึงๆ เคยอ่านหนังสือเขาบอกว่า ถ้าเท้าบวม มือบวม หน้าบวม อาจจะเป็นครรภ์เป็นพิษ เราก็คิดว่าแน่แล้ว เลยรีบไปหาหมอ พอไปถึงโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ก็คิดว่าต้องรอนานเพราะเราเป็นคิวแทรก แต่ปรากฏว่ารอแป๊บเดียวเอง เพราะเขาเห็นอาการไม่ค่อยดี คือความดันขึ้นถึง 180 คุณหมอเยื้อนตรวจก็พูดว่าไม่ไหวแล้ว 2 รอบเลย คือปกติคุณหมอจะเป็นคนที่ให้กำลังใจเราดีมาก แต่คราวนี้พูดคำว่า ไม่ไหวแล้ว แสดงว่าอาการไม่ดีจริงๆ ก็เลยแอดมิท


"จากนั้นผลตรวจก็ออกมาว่าครรภ์เป็นพิษแน่นอน ประกอบกับความดันสูงต่อเนื่อง แล้วก็มีอาการอีกอย่างคือร้อนเฉพาะที่หน้ามากๆ ทำให้นอนไม่หลับ แฟนต้องเอาผ้าชุบน้ำเย็นมาวางข้างเตียงไว้ให้เช็ดหน้า อยู่โรงพยาบาลได้สามวัน หมอก็บอกว่าไม่ได้แล้ว ต้องคลอด คุณหมอบอกว่า ปอดของน้องรันน์ยังทำงานไม่สมบูรณ์ เพราะว่าตอนนั้นลูกยังไม่ครบ 36 สัปดาห์ ต้องฉีดยาเร่งขยายปอดก่อน


"ถึงวันเตรียมคลอด ความดันของเราสูงถึง 190 แล้วก็บวมทั้งตัว แต่เราไม่รู้สึกกลัวเลย ไม่ตื่นเต้นด้วยนะ อาจเป็นเพราะเราสวดมนต์ช่วงที่นอนโรงพยาบาลเยอะมาก รู้สึกสงบจริงๆ พอคลอดเสร็จคุณพ่อก็ร้องไห้ พอเห็นเลยร้องไห้ตาม ดีใจที่เห็นลูก คุณพ่อบอกว่าลูกขนาดเท่าขวดเป๊บซี่เอง จากนั้นทีมคุณหมออรดีและคุณหมอภาสินีซึ่งป็นคุณหมอเด็ก ก็น่ารักมาก ดูแลเราอย่างดี ทำให้เราสบายใจเพิ่มไปอีก


ตอนเห็นหน้าลูกครั้งแรกรู้สึกตลกมาก ไม่นึกว่าเขาเหี่ยวเหมือนคนแก่ (หัวเราะ) แต่น้องเก่งมากเลย เขาใส่เครื่องช่วยหายใจไม่ถึงอาทิตย์เอง คุณหมอเขาบอกว่านกโชคดี ถ้ามาหาหมอช้ากว่านี้ น้องจะตัวเล็กลง และไม่ปกติได้ แต่แล้วในช่วงระหว่างที่อยู่ในตู้อบ 45 วัน ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นกับน้องรันน์"


"ตอนเราให้นมลูกกิน เราดันไปกินยาบำรุงซึ่งมีส่วนผสมของเห็ดหลินจือ พอน้องกินนมของเราน้องเลยถ่ายเป็นเลือด คุณหมอบอกว่าเห็ดหลินจือไปกระตุ้นเกี่ยวกับเลือดและทำปฏิกริยากับลำไส้ของน้อง น้องเลยแทบไม่ได้กินนมไปสิบกว่าวัน ผอมมาก เราร้องไห้ทุกวันเลย เครียด เพราะรู้สึกว่าเราทำลูก คุณพ่อก็คอยปลอบว่าเราไม่ได้ตั้งใจ เราไม่รู้ ถ้าเรารู้เราไม่ทำหรอก และน้องก็ปลอดภัยมาได้ด้วยดี"


นอกจากต้องอยู่ในตู้อบ 45 วันแล้ว น้องรันน์ยังต้องได้รับนมทางสายยางด้วย "ตอนแรกเขาให้นมทางสายยางประมาณ 40 วัน เหนื่อยมาก รอลุ้น ช่วงแรกๆ เขากินไม่เยอะ คุณหมอให้นิดเดียวเอง ตอนหลังก็ค่อยๆเพิ่มทีละนิด จากนั้นก็เปลี่ยนไปให้แบบขวด แต่เราก็อยากให้เขากินจากอกเราบ้าง เราพยายามฝึกเขามากเลย ทั้งฝึกเอง ทั้งไปคลินิคนมแม่ด้วย สุดท้ายก็ทำได้"


และผลจากครรภ์เป็นพิษ แม้หลังคลอดไปแล้วความดันของคุณแม่นกก็ยังไม่หาย "ความดันเรายังคงสูงอยู่ คราวนี้มึนหัว เป็นทุกเช้าเลย ต้องผ่านไปสัก 2 อาทิตย์ถึงจะหาย แล้วช่วงนั้นก็เหมือนเป็นช่วงที่ต้องให้นมแม่ ทรมานมากเลยนะ เราต้องปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมง ไม่ค่อยได้นอน แถมความดันยังสูงอีก เลยไปกันใหญ่เลย"
แต่เพราะลูก แม้เหนื่อยแค่ไหนก็ทำได้


"คือเกิดมาก็ไม่เคยรักใครเท่านี้ มีคำพูดนึงบอกว่า เหนื่อยนะ แต่ยังเหนื่อยได้อีก เราตื่นทุกชั่วโมงเพื่อให้นม ไม่ได้นอนทั้งวันทั้งคืนอยู่อย่างนี้ เหนื่อยที่สุด แต่ยังทำได้อีกเพื่อลูก เราไม่เคยรู้เลยนะว่าแม่รักเรามากขนาดไหน และต้องทำใจว่าอีกหน่อยลูกเราก็จะไม่รู้เหมือนกัน เราต้องรักเขามากกว่าอยู่แล้ว ก็เหมือนที่แม่รักเรามากกว่านั่นแหละ" เพราะมีคุณพ่อที่น่ารักคอยอยู่เคียงข้างเสมอ


"คุณพ่อน่ารักมาก เขาช่วยเลี้ยงตลอด ป้อนนม อุ้มลูก ถึงเวลาตื่น เขาก็ตื่นมาด้วยทุกครั้ง เรื่องในบ้านก็ดูแลให้ตลอด มีช่วงนึงที่คุณแม่หลังคลอดมักจะเป็นคือซึมเศร้า แต่เราไม่ค่อยเป็น เพราะคุณพ่อช่วยเยอะ ให้กำลังใจ"


เคล็ดลับดีๆที่อยากแบ่งปัน


"มีเคล็ดลับอย่างเดียวคือต้องสบายใจ อย่ากังวล ลูกเราโอเคแล้ว อย่าเปรียบเทียบลูกเรากับกับคนอื่น ส่วนตอนท้องก็ทำใจให้สบาย เล่นโยคะก็ช่วยได้ดีมากค่ะ พบปะพูดคุยระบายความเครียดกับคนอื่น แต่อย่าเล่นอินเตอร์เน็ตเยอะ จะทำให้เราเครียด ตื่นตระหนก เพราะมีการนำเสนอข้อมูลต่างๆแบบสุดโต่ง แล้วก็สวดมนต์เยอะๆค่ะ"


ด้วยพลังรักจากแม่ ความอดทน และกำลังใจจากคนรอบข้าง ทำให้คุณแม่นกสามารถผ่านช่วงเวลาวิกฤตเหล่านั้นมาได้ เพื่อคอยช่วยให้น้องรันน์ได้มีชีวิตที่สมบูรณ์และแข็งแรง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook