โรคสะเก็ดเงินในเด็ก ไม่ใช่เรื่องเล็กแค่โรคผิวหนัง

โรคสะเก็ดเงินในเด็ก ไม่ใช่เรื่องเล็กแค่โรคผิวหนัง

โรคสะเก็ดเงินในเด็ก ไม่ใช่เรื่องเล็กแค่โรคผิวหนัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรคสะเก็ดเงินในเด็ก จัดอยู่ในกลุ่มของโรคผิวหนัง ซึ่งดูเหมือนเป็นโรคที่ไม่น่ากังวลมากนัก แต่แท้จริงแล้ว อาจสร้างปัญหาสุขภาพร้ายแรงให้กับเด็กโดยไม่คาดคิด เพราะฉะนั้น หากลูกของคุณเกิดอาการของโรคสะเก็ดเงิน ควรรีบรักษาโดยทันทีก่อนที่ปัญหาอื่นๆ จะตามมา

โรคสะเก็ดเงินในเด็ก คืออะไร 

โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในเด็กส่งสัญญาณให้เซลล์ผิวหนังเจริญเติบโตผิดปกติ โรคสะเก็ดเงินส่งผลกระทบโดยตรงต่อผิวหนัง หนังศีรษะ และเล็บ ผู้ป่วยที่อาการนี้จะมีผิวหนังหนาเป็นปื้นแดง มีรอยแผลบนใบหน้า สะโพก และหนังศีรษะ โรคสะเก็ดเงินมีหลายชนิดและหลายรูปแบบ รู้จักกันในชื่อ หยดฝน (raindrop) โดยทั่วไปมักพบในวัยเด็ก และอาจปรากฏอาการต่างกัน เช่น อาการผื่นแดงหรือจุดเล็กๆ เป็นบริเวณกว้างทั่วไปตามร่างกาย โดยอาการติดเชื้อในลำคอในระยะเริ่มต้นเป็นตัวกระตุ้นให้แสดงอาการโรคสะเก็ดเงินที่ชัดเจน ปัจจัยเสี่ยงทางกรรมพันธุ์ก็มีส่วนสัมพันธ์กับการเกิดโรคด้วยเช่นกัน

รู้หรือไม่ โรคสะเก็ดเงินรุนแรงกว่าที่คิด

โรคสะเก็ดเงิน โดยเฉพาะในเด็กนั้น จำเป็นต้องได้รับการรักษาทันที เมื่อมีอาการ ร่างกายจะรู้สึกไม่สบายตัว มีผื่นขึ้น หรืออาจส่งผลกระทบต่อจิตใจ เช่น เกิดอาการสับสน คล้ายมีอาการวิตกกังวลหรือหงุดหงิด ส่วนที่แย่ที่สุดของอาการโรคสะเก็ดเงิน คือ การส่งผลกระทบต่อหัวใจของเด็ก โดยมีงานวิจัยชี้ว่า โรคสะเก็ดเงินสามารถก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ระบบความดันโลหิต ไขมันในเลือด และระดับอินซูลินด้วย หากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นร่วมกันแล้ว เด็กจะมีภาวะอ้วนลงพุง (metabolic syndrome) ทำให้เด็กที่เป็นโรคสะเก็ดเงินนั้นมีโอกาสเสี่ยงเป็น โรคอ้วน (obesity) ตามมาด้วย โดยแพทย์ผิวหนังระบุว่า โรคสะเก็ดเงินนั้นเป็นอาการที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของเด็ก

การรักษา โรคสะเก็ดเงินในเด็ก

ปัจจุบัน โรคสะเก็ดเงินนั้นยังไม่มีทางรักษา แพทย์ส่วนใหญ่จะรักษาตามอาการ ทำให้รู้สึกดีขึ้น โดยชนิดยาและปริมาณที่ใช้ก็จะแตกต่างออกไปในผู้ป่วยแต่ละราย ในปัจจุบัน วิธีการรักษาโรคสะเก็ดเงินในเด็กที่ได้รับการยอมรับยังมีไม่มากนัก การรักษาในเบื้องต้นส่วนใหญ่เป็นยารักษาภายนอก เช่น ครีมหรือยาขี้ผึ้ง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการรักษาด้วยวิธีนี้มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด นอกจากนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ยังระบุด้วยว่า ยังมีการรักษาอื่นๆ ได้แก่ การส่องไฟ (phototherapy) และการใช้ยา โดยก่อนที่จะวางแผนการรักษา ผู้ปกครองควรปรึกษาแพทย์ถึงผลข้างเคียงในระยะยาวที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็ก

ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานระหว่างการรักษาอย่างไร

  • ปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์การรักษาโรคสะเก็ดเงินในเด็ก

  • แนะนำให้เด็กทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการวางแผนการรักษา และปฏิบัติตัวตามแผนการรักษา รวมทั้งบอกให้เด็กอดทน เนื่องจากว่าการรักษาทุกครั้งต้องใช้เวลาและมีผล กระทบตามมา

  • เลือกวิธีการบำบัดที่เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็กที่สุด

  • แนะนำให้เด็กรู้จักปกปิดผิวหนังที่เกิดอาการอย่างเหมาะสม โดยควรเลือกใช้คำพูดอย่างระมัดระวังเพื่อสร้างกำลังใจ ไม่ควรทำให้เด็กเสียใจ หรือคิดว่าเป็นอาการที่น่ารังเกียจจนต้องปิดบังไม่ให้คนอื่นรู้

  • ให้กำลังใจบุตรหลานอย่างสม่ำเสมอระหว่างการรักษา

  • อย่ามุ่งความสนใจไปที่โรคมากเกินไป

  • ควรกระตุ้นให้เด็กบอกอารมณ์ความรู้สึกของตนเองออกมา เมื่อเกิดอาการของโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งจะสามารถช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจว่าโรคนั้นส่งผลกระทบความรู้สึกของเด็กอย่างไร

  • ควรให้เด็กรู้สึกว่า มีอำนาจตัดสินใจในการรักษา ยกตัวอย่างเช่น หากเด็กชอบยาแบบครีมมากกว่าแบบขี้ผึ้ง ก็ควรปล่อยให้เด็กตัดสินใจเลือกเอง

  • ให้ความรู้ที่เหมาะสมเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงิน ให้แก่บุตรหลานตั้งแต่อายุยังน้อย โดยควรแนะนำเด็กว่า สามารถบอกเพื่อนๆ ว่าเป็นโรคนี้ได้ หากจำเป็น เพื่อสร้างความเข้าใจกับเพื่อนคนอื่นๆ เด็กจะได้ปลอดภัยจากการถูกล้อเลียน ตราหน้า หรือการแยกตัวจากสังคม

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook