ควบคุมน้ำหนักดั่งใจกับ จอห์น - วิญญู

ปัญหาเรื่องการลดน้ำหนักคงเป็นเรื่องหนักอกหนักใจของใครหลายๆ คน และสำหรับเหล่าดารานักแสดงนั้น ปัญหาเรื่องน้ำหนักก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นสำหรับพวกเขาเช่นกัน ในวันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุณกับคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่กำลังเป็นที่สนใจของโลกสังคมออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องการลดน้ำหนัก และเป็นที่รู้จักกันในมาดของนักจัดรายการวิทยุสุดหล่อและพิธีกรสุดฮา จอห์น - วิญญู วงศ์สุรวัฒน์

จอห์น วิญญู

อะไรเป็นแรงกระตุ้นให้เริ่มต้นลดน้ำหนัก?

ตอนแรกผมไม่คิดถึงเรื่องนี้มาก เพราะเราก็คิดว่าเราขายฝีมือ ไม่ได้เน้นหน้าตา หรือเน้นรูปร่าง ถึงมีคนมาทักว่าหุ่นเราเปลี่ยนไป เราก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่ก็รู้สึกตัวว่าเราเริ่มมีปัญหาสุขภาพ เสื้อผ้าเริ่มหาไซส์ยาก พอเครียดหรือนั่งว่าง ๆ ก็ต้องหาอะไรมารับประทานตลอด จนสุดท้ายมีนิตยสารบันเทิงฉบับหนึ่งเขามาเขียนข่าวแนวซุบซิบเกี่ยวกับน้ำหนักของผม ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้ผมเริ่มต้นลดน้ำหนักอย่างจริงจัง

จากการลองมาหลายวิธี คิดว่าการลดหนักวิธีไหนดีที่สุด?

ผมลองมาเยอะครับ ทั้งเข้าสถานเสริมความงามสำหรับผู้ชาย ทั้งออกกำลังกายแบบหักโหม แต่ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควรครับ ส่วนเรื่องยาลดน้ำหนักนี่ผมไม่เสี่ยงเลย เพราะมีประสบการณ์จากคนใกล้ตัวหลาย ๆ คนที่ใช้ ซึ่งเรารู้ว่าผลมันเป็นอย่างไง จนสุดท้ายผมมาจบที่เทคนิคการควบคุมปริมาณแคลอรี่ ซึ่งวิธีนี้แหละครับที่ทำให้ผมสามารถลดน้ำหนักจาก 98 กิโลกรัม เหลือประมาณ 70 กิโลกรัม ภายในเวลาแค่ไม่กี่เดือน

เคล็ดลับของการลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้เป็นคืออะไร?

โดยปกติร่างกายเราใช้พลังงานวันละ 2,000 แคลอรี่ ถ้าให้พลังงานไม่ถึง 2,000 ร่างกายก็จะดึงพลังงานสะสมมาใช้จนครบ 2,000 แต่ถ้าเติมเข้าไปเกิน 2,000 ร่างกายก็จะเก็บสะสมไว้ การลดน้ำหนักวิธีนี้ ผมให้พลังงานกับตัวเองแค่วันละ 500 แคลอรี่ เพื่อให้ร่างกายดึงพลังงานสะสมมาใช้ 1,500 แคลอรี่ ตัวเลขนี้แหละครับคือแคลอรี่ที่หายไปจากร่างกายของเรา แต่การลดแคลอรี่แบบผมอาจจะโหดไปสักหน่อย แนะนำว่าถ้าจะลดจริง ๆ ให้เริ่มจากวันละ 1,200 แคลอรี่น่าจะกำลังดี

ฝากคำแนะนำสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก?

ต้องใจแข็งครับ มีระเบียบวินัยกับตัวเอง อดทน และคอยสร้างกำลังใจให้ตัวเอง โดยหมั่นเช็คน้ำหนักของตัวเองเป็นประจำเพื่อดูความเปลี่ยนแปลง เมื่อเราเห็นตัวเลขที่ลดลงเรื่อย ๆ มันจะช่วยให้เรามีแรงที่จะทำต่อ ที่สำคัญคือต้องคิดไว้เสมอว่า เราไม่ได้ลดน้ำหนักเพื่อแข่งกับใคร เราแข่งกับตัวเอง แข่งเพื่อให้ได้สุขภาพที่ดีขึ้น ดีกว่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวตอนนี้แล้วไปเสียเงินเสียเวลาซ่อมแซมสุขภาพตัวเองตอนแก่ ถึงจะต้องจ่ายบ้าง ต้องเหนื่อยบ้าง แต่ผลที่ได้รับมันคุ้มค่ากว่าครับ