หมอญี่ปุ่นเตือน! อากาศร้อนจัดเด็กก็เป็นลมแดดได้

หมอญี่ปุ่นเตือน! อากาศร้อนจัดเด็กก็เป็นลมแดดได้

หมอญี่ปุ่นเตือน! อากาศร้อนจัดเด็กก็เป็นลมแดดได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงนี้หลายประเทศรวมถึงญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดที่ดูเหมือนว่าจะร้อนหนักขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตจากสภาพอากาศร้อนจัดกว่า 57 ราย และล้มป่วยอีกเป็นจำนวนมากภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ โดยตอนนี้ญี่ปุ่นมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 35 องศาเซลเซียส เพื่อน ๆ คนไหนที่มีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ระมัดระวังกันด้วยนะคะ ยิ่งถ้าพาเด็กเล็กไปด้วยยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะเด็ก ๆ มีความเสี่ยงที่จะล้มป่วยจากอากาศที่ร้อนจัดมากกว่าผู้ใหญ่เสียอีก

นายแพทย์สึโยชิ โซโก รองผู้อำนวยการแผนกโรคตับและระบบทางเดินอาหารในเด็ก โรงพยาบาล Saiseikai Yokohama City Tobu ได้พูดถึงเรื่องโรคลมแดดในเด็กไว้อย่างน่าสนใจ มาดูกันว่าคุณหมอพูดถึงเรื่องนี้และให้คำแนะนำว่าอย่างไรบ้าง

เด็กมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคลมแดดมากกว่าผู้ใหญ่

โรคลมแดดเกิดจากการที่อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงเกินไปเนื่องจากไม่สามารถปรับตัวกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดได้ ซึ่งก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น วิงเวียน ปวดศีรษะ ไปจนถึงหมดสติและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น ร่างกายจะขับเหงื่อซึ่งประกอบด้วยน้ำและแร่ธาตุออกมาเพื่อระบายความร้อน โดยเริ่มต้นจากอาการขาดน้ำ การป้องกันโรคลมแดดอย่างตรงจุดก็คือการป้องกันภาวะขาดน้ำด้วยการเติมน้ำและแร่ธาตุให้แก่ร่างกายนั่นเอง

ในร่างกายเด็กมีปริมาณน้ำมากกว่าผู้ใหญ่เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัว สังเกตได้จากผิวของเด็กที่ดูนุ่มชุ่มชื้น โดยเด็กเล็กมีปริมาณน้ำในร่างกายมากถึง 70-80% ในขณะที่ผู้ใหญ่มีปริมาณน้ำประมาณ 60% ทว่าแม้ว่าเด็กจะมีน้ำในร่างกายมากกว่าผู้ใหญ่แต่ก็สูญเสียน้ำได้มากกว่า และเติมน้ำกลับเข้าร่างกายได้เร็วกว่าเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เด็ก ๆ จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการขาดน้ำที่นำไปสู่โรคลมแดดได้ง่าย

เด็กบอบบางต่อแสงแดดมากกว่าผู้ใหญ่

เด็กตัวเล็กกว่าผู้ใหญ่ ระยะระหว่างร่างกายถึงพื้นจึงใกล้กว่า ทำให้เด็กได้รับความร้อนที่สะท้อนจากพื้นขึ้นมาถูกตัวมากกว่าตามไปด้วยนอกจากนี้ผิวหนังของเด็กยังมีพื้นผิวที่กว้างกว่าผิวหนังของผู้ใหญ่เมื่อเทียบในปริมาณน้ำหนักตัวที่เท่ากัน (นึกภาพเด็กตัวจ้ำม่ำ แขนขาเป็นปล้องแน่น ๆ) ทำให้มีส่วนของพื้นผิวที่จะได้รับความร้อนมากกว่าเช่นเดียวกัน ร่างกายของเด็กจึงมีอุณหภูมิสูงขึ้นตามอากาศร้อนได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้นระบบการระบายความร้อนในร่างกายของเด็กก็ยังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ ทำให้เหงื่อออกไม่มากเท่าที่ควร และเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กเสี่ยงต่อการเป็นโรคลมแดดได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่

อ่านเกี่ยวกับสัญญาณและอาการของโรคลมแดดเพิ่มเติมได้ใน: ร้อนนี้ต้องรอด! รู้จักวิธีป้องกันโรคลมแดดแบบคนญี่ปุ่น

หมั่นเติมน้ำให้ร่างกายทุก 15 นาทีระหว่างออกกำลังกาย


 ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการต่อวันสำหรับเด็กอ่อนอยู่ที่ 100 มล. เด็กวัยเรียน 60-80 มล. และผู้ใหญ่ 30-40 มล. ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน รวมถึงสภาพอากาศและฤดูกาลด้วย อย่างเวลานี้ที่ญี่ปุ่นเป็นช่วงซัมเมอร์ที่อากาศร้อนจัด เราคนไทยอาจจะคิดว่าฤดูร้อนเค้าสู้บ้านเราไม่ได้ แต่ขอตอบจากประสบการณ์ตรงว่าหน้าร้อนเค้าร้อนแผดเผามาก ๆ ยิ่งถ้าไปเที่ยวแล้วต้องเดินกลางแจ้งนาน ๆ ยิ่งต้องรักษาสุขภาพและหมั่นเติมน้ำให้ร่างกายบ่อย ๆ นอกจากน้ำเปล่าแล้ว เครื่องดื่มที่มีอิเล็กโทรไลต์อย่างโซเดียมและโพแทสเซียมก็สำคัญ เพราะในเหงื่อประกอบไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ เมื่อเหงื่อออก ร่างกายจึงสูญเสียแร่ธาตุเหล่านั้นไปด้วย

คุณหมอโซโกแนะนำให้จิบดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยเติมน้ำและแร่ธาตุให้ร่างกายทุก ๆ 15 นาที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กซึ่งร่างกายขาดน้ำได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ หนึ่งในเครื่องดื่มที่ช่วยชดเชยน้ำและแร่ธาตุในร่างกายได้คือ โพคารี่สเวท ซึ่งเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีองค์ประกอบของแร่ธาตุใกล้เคียงกับของเหลวในร่างกาย ช่วยให้รู้สึกสดชื่นทันทีหลังดื่ม ที่สำคัญคือปลอดภัย ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่ใส่สีสังเคราะห์และกาเฟอีน เด็กเล็กอายุ 1 ปีขึ้นไปก็สามารถดื่มได้ จึงเหมาะสำหรับการดื่มทั้งก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกายท่ามกลางสภาพอากาศร้อน ๆ เป็นอย่างดี

 

สุดท้ายคุณหมอได้เน้นย้ำว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหมั่นเติมน้ำและแร่ธาตุให้ร่างกายอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำที่อาจก่อให้เกิดโรคลมแดดตามมา เพื่อน ๆ ที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนนี้ อย่าลืมหาซื้อโพคารี่สเวทติดตัวไว้จิบระหว่างวันป้องกันขาดน้ำกันนะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook