ได้เวลาพาคุณไปบุกครัวเจ้าแม่คัพเค้ก

ได้เวลาพาคุณไปบุกครัวเจ้าแม่คัพเค้ก

ได้เวลาพาคุณไปบุกครัวเจ้าแม่คัพเค้ก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ได้เวลาพาคุณไปบุกครัวเจ้าแม่คัพเค้กJelly Jan...นวณัฐ ศรียุกต์สิริ


แจนว่าอาหารเหมือนงานศิลปะ เพราะตัวแจนเองชอบทั้งศิลปะและอาหารด้วยความที่เป็นคนครีเอทีฟและรักแฟชั่นคิดว่าเอาอาหารกับแฟชั่นมาผนวกกันสร้างเป็นเทรนด์ขึ้นมาได้

     รู้จักชื่อกันดีในฐานะผู้ปลุกกระแส "คัพเค้ก" ให้กลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งในบ้านเรา ด้วยคุกบุ๊กเล่มแรกที่ติดอันดับขายดีอย่าง "Cupcakes by Jelly Jan" รวมไปถึงเล่มล่าสุด "Hot & Cold Dessert" ที่รวมสูตรขนมหวานเสิร์ฟร้อนและเย็นไว้เต็มอิ่มถึง 50 สูตร เพื่อตอกย้ำความชิคในการสร้างสรรค์เมนูหวาน ๆ H & C จึงตามไปบุกครัวคุณแจนถึงที่บ้านกันเลยละ "

     แจนทำคัพเค้กเพราะเป็นขนมที่ทำง่าย กินง่าย หน้าตาน่ารัก แต่ทำให้อร่อยยาก หลายคนจะมีอคติกับขนมประเภทนี้ว่าสวยแต่ไม่อร่อย อยากให้ลองเปิดใจชิมดูก่อน อาจจะติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้นก็ได้

     แจนโตมากับการทำขนมค่ะ คุณแม่ชอบทำทั้งอาหารและขนม เวลาไปเที่ยวประเด็นสำคัญจะอยู่ที่การชิมกับช็อปเป็นหลัก ส่วนเที่ยวเป็นเรื่องรอง แต่ตอนเด็ก ๆ แจนกินอย่างเดียวทำไม่เป็นหรอก เพิ่งมาเริ่มเข้าครัวตอนเรียนโรงเรียนประจำ Heathfield School ที่อังกฤษตอนนั้นมีคลาสเรียนทำขนมและอาหารง่าย ๆ เริ่มรู้สึกชอบก็จากตอนนี้ละค่ะ เพราะสนุกตรงที่ได้ทำเองกินเอง และได้เริ่มฝึกฝีมือจริงจังตอนเรียนปีสุดท้าย เพราะต้องออกมาอยู่บ้านข้างนอกตามระเบียบโรงเรียน

     ตอนเข้ามหาวิทยาลัยแจนเลือกเรียนทางด้านไฟน์อาร์ตค่ะ เรียนไปเรียนมาเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่จึงออกมาเรียนทำอาหารและขนมที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ลอนดอน แล้วไปเรียนปริญญาตรีด้านการจัดการธุรกิจอาหารที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ออสเตรเลีย พอจบแล้วมีโอกาสได้เรียนทำอาหารเพิ่มเติมกับเชฟดังชาวอิตาลี กลับมาเมืองไทยก็ทำงานด้านออกแบบอยู่พักหนึ่งล่าสุดตอนนี้นอกจากทำคุกบุ๊กแล้ว ยังเปิดกิจการของตัวเองเป็นร้านคัพเค้กชื่อ "Madeby Jelly Jan" ที่ชั้น 1 สยามพารากอน ค่ะ
     
     แจนชอบทำทั้งอาหารและขนม แต่ส่วนใหญ่มีความสุขกับการทำขนมมากกว่า เพราะใส่ไอเดียและความเป็นตัวตนของเราได้อย่างไร้ขีดจำกัด เป็นเหตุผลหนึ่งที่แจนเลือกเปิดร้านคัพเค้กค่ะ ส่วนสูตรขนมที่เลือกมาวันนี้อยู่ในคุกบุ๊กเล่ม 2 ของแจนเองที่เลือกสูตรนี้เพราะทำง่าย อร่อย และค่อนข้างแปลกตรงที่ไม่ค่อยมีใครเอาเค้กกับครัมเบิลมารวมกัน อีกอย่างมะพร้าวกับผิวมะนาวนั้นยังเข้ากันดี ไม่มีความขมเลยลองทำแล้วติชมได้นะคะ มีข้อสงสัยเรื่องการทำขนม ติดต่อแจนได้ทางเฟซบุ๊คเสิร์ชชื่อ made by jelly jan ได้เลย

Coconut & Yoghurt Crumble Cake

ส่วนผสม (สำหรับ 10 - 12 ที่)

เตรียม 40 นาที ปรุง 60 นาที

ส่วนผสมแป้งครัมเบิล

เนยสดชนิดเค็มแช่เย็นหั่นเต๋าเล็ก 40 กรัม

น้ำตาลทรายขาว 115 กรัม

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 25 กรัม

เนยสดชนิดเค็มและกระดาษไขสำหรับเตรียมพิมพ์

พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 22 × 23 ซม. 1 อัน

ไอศกรีมสำหรับเสิร์ฟคู่กัน

ส่วนผสมเค้ก

แป้งเค้ก 225 กรัม

เบกกิ้งโซดา ช้อนชา

เนยสดชนิดเค็ม 115 กรัม

น้ำตาลทรายป่น 175 กรัม

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 225 กรัม

ไข่ไก่ 2 ฟอง

วานิลลาชนิดน้ำ 1 ช้อนชา

ผิวมะนาวขูด 2 ลูก

น้ำมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ

เนื้อมะพร้าวอ่อน หั่นชิ้นยาวพอดีคำ 100 กรัม


วิธีทำ


1. ตั้งเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส(ใช้ไฟบน - ล่าง) ทาเนยให้ทั่วพิมพ์ ปูกระดาษไขทาเนยทับอีกชั้น เตรียมไว้

2. ทำแป้งครัมเบิลโดยใช้นิ้วบี้เนยและน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ใส่แป้งลงไปบี้ให้เข้ากันอีกรอบ(ไม่ควรใช้เวลามากเกินไป แป้งจะไม่กรอบ)พักไว้

3. เริ่มทำเค้กด้วยการร่อนแป้งและเบกกิ้งโซดารวมกัน พักไว้

4. ละลายเนยในหม้อใบเล็กด้วยไฟอ่อน ยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็น ใส่น้ำตาลทรายป่นโยเกิร์ต ไข่ วานิลลา ผิวมะนาว และน้ำมะพร้าว คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ใส่แป้งที่ร่อนแล้วลงไป ตะล่อมเบา ๆ ให้เข้ากัน

5. แบ่งส่วนผสมแป้งเค้ก รวมทั้งเนื้อมะพร้าวและแป้งครัมเบิลออกเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน

6. เทส่วนผสมแป้งเค้กส่วนแรกลงในพิมพ์ตามด้วยเนื้อมะพร้าวและแป้งครัมเบิล ทำสลับเช่นนี้อีกครั้งจนส่วนผสมหมด ใช้ช้อนตักแป้งครัมเบิลวางลงไปเป็นก้อน ๆ บนชั้นบนสุด
จนเต็มพิมพ์

7. นำเข้าอบประมาณ 45 - 60 นาทีหรือจนเค้กสุกดี ยกออกจากเตา พักบนตะแกรงคว่ำเค้กลง แกะพิมพ์ออก หั่นเป็นชิ้นพอคำจัดเสิร์ฟขณะอุ่นคู่ไอศกรีมวานิลลา

พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 347.86 กิโลแคลอรี โปรตีน 4.47 กรัม ไขมัน 15.80 กรัม คาร์โบไฮเดรต 47.42 กรัม ไฟเบอร์ 1.09 กรัม

ปกิณกะข้างครัว มีวิธีสร้างแรงบันดาลใจด้วยการไปชิมอาหารและขนมร้านต่าง ๆ แล้วคิดว่าจะมาดัดแปลงใช้กับของเราอย่างไร อีกวิธีคือดูเทรนด์แฟชั่น แจนชอบเอาสีสันแฟชั่นมาผสมกับขนมโดยเฉพาะพวกเมคอัพ คุกบุ๊กของตัวเองทั้งสองเล่มที่พิมพ์ออกมาได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ในกระบวนการทำงานแจนจะชอบทำรวดเดียว คิดเมนูเดือนเดียวเสร็จแล้วลงมือทำเลย ด้วยความที่ที่บ้านมีคุกบุ๊กเยอะมาก ก็จะหยิบมาเปิดดูบ้าง แต่ไม่ค่อยยึดติดกับเล่มไหนเป็นพิเศษ ส่วนเล่มที่เก่าแก่มากและชอบดูคือ "Twentieth Century Home Cook Book by Mrs. Francis Carruthers" "Mrs. BeetonsAll About Cookery" เล่มนี้มีกว่า 2,000 สูตรส่วนอีกเล่มเป็นของ Mrs. Rundell ชื่อ"Domestic Cookery for the Use of PrivateFamilies" เชฟที่แจนชื่นชมมีอยู่ 2 คนคือ กอร์ดอนแรมเซย์ ซึ่งคนทั่วไปจะมองว่าเขาดุ แต่จริง ๆ มันเป็นบทบาทที่ต้องแสดงตามคอนเซ็ปต์รายการมากกว่า เขาน่านับถือในความเป็นบิสเนสแมน ผู้สร้างเชฟมือใหม่ให้เป็นเชฟมืออาชีพ 

อีกคนเป็นเชฟขนมชาวไทยนี่เอง คือ พี่เมย์ - May Made เจ้าของร้าน AfterYou ชอบสไตล์การคิดและอัธยาศัยของพี่เขาเป็นคนไม่หวงวิชา และมีคำแนะนำดี ๆ ให้ตลอด น่ารักมากค่ะ มีของใช้ในครัวเยอะมาก แต่จะไม่ใช่แบบกุ๊กกิ๊ก ถ้าเห็นอันไหนน่ารักหน่อยคือมีคนซื้อมาฝากค่ะ แจนชอบของที่ใช้งานได้จริง หน้าตาไม่เกี่ยง ปกติแล้วจะชอบไปเดินเลือกของตามซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะ หาของได้ง่ายและครบถ้วน ส่วนเวลาไปต่างประเทศจะชอบเดินฟาร์เมอร์มาร์เก็ต ของสด ดีราคาถูก และแปลกตาค่ะ ร้านอาหารโปรดมีเยอะมากก 

แต่ที่ไปมาล่าสุดแล้วประทับใจคือ The Ledburyของเชฟเบรธ เกรแฮม อยู่ที่นอตทิงฮิลล์ลอนดอนค่ะ ชอบที่ว่าเขาทำอะไรก็อร่อยไปหมด ร้านนี้ได้มิชลิน 2 ดาวการันตีคุณภาพด้วย ถ้าเป็นเมืองไทยจะชอบร้านเก่า ๆ สมัยรุ่นพ่อแม่ ไม่ได้ชอบบรรยากาศนะคะ แต่ชอบรสชาติ และมั่นใจว่าแม้จะกลับไปกี่ครั้งก็จะยังได้กินรสเดิมไม่เปลี่ยน เช่น อาหารจีนกรีนเฮ้าส์ โจ๊กแลนด์มาร์ค หรือบะหมี่ไข่ลุงเฉื่อยที่ซอยเอกมัย 19 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook