เรียนรู้...ผู้ชาย

เรียนรู้...ผู้ชาย

เรียนรู้...ผู้ชาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เรื่องราวของมนุษย์ที่ชื่อว่า ‘ผู้ชาย’ นั้นมีมากมายแล้วแต่จะมองในแง่ไหนหรือมุมใด

แต่ถ้าจะมองในมุมของเซ็กส์กับชีวิตของพวกเขาแล้ว ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่จะขาดเสียไม่ได้ และบางครั้งบางคราก็ทำให้เกิดปัญหากับผู้หญิงที่รักเขา และอยากให้เขารัก ให้เขาเป็นของเธอตลอดไป

...แต่ยังคงมีอีกหลายเรื่อง ที่พวกเธอเข้าใจผิด หรือไม่พยายามจะเข้าใจมนุษย์ผู้ชาย


‘การเรียนรู้ที่จะอยู่กับผู้ชายให้มีความสุขนั้น จึงต้องพยายามที่จะเข้าใจพวกเขาในรูปแบบที่เขาเป็น ในรูปแบบที่เห็นและเป็นอยู่ ไม่ใช่ในรูปแบบที่อยากจะให้เป็น’

ถ้าอ่านประโยคข้างต้นแล้วยังไม่เข้าใจ หรือยังเข้าใจไม่ซาบซึ้งแล้วละก็ อ่านอีกหลายๆ ครั้งจนพอจะเข้าใจแล้วค่อยอ่านต่อไป...

เคยมีคนถามว่าเรื่องเซ็กส์ของผู้ชายในยุคหิน กับยุคดิจิตอลปัจจุบันนี้ต่างกันอย่างไร...คำตอบก็คือว่า แทบจะไม่ต่างกันเลย

เพราะเมื่อพวกเขาเกิดความต้องการเซ็กส์ขึ้นมาจริงๆ จังๆ แล้วอะไรก็ขวางหน้าไว้ไม่อยู่ ในเมื่อผู้ชายนั้นถูกแรงขับดันของฮอร์โมนเพศชายที่เรียกว่า เทสโทสเตอโรน บันดาลให้เป็นไป และบางครั้งก็ไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์อยู่

ผู้ชายในยุคหิน เมื่อเกิดความต้องการตามธรรมชาติก็จะหาท่อนไม้ขนาดเหมาะมือ ไปดักอยู่ตามทางที่ผู้หญิงจะเดินไปอาบน้ำ เมื่อสาวที่หมายตาเดินผ่านมาเขาก็จะบรรจงใช้ไม้ที่เตรียมไว้ตีหัวเธอพอสลบ จากนั้นก็อุ้มขึ้นพาดบ่าและพาเข้าถ้ำไปประกอบกิจกรรมอันสุนทรีย์ ที่มีมาตั้งแต่มีมนุษย์คนแรกของโลก

ผู้ชายยุคดิจิตอลนั้น เวลาที่หมายปองผู้หญิงคนไหนแล้ว ไม่สามารถที่จะใช้วิธีการทางการทูตผูกใจเธอได้ ก็จะหายานอนหลับอย่างแรงมาใส่ในอาหารหรือเครื่องดื่มให้เธอดื่มกิน เมื่อเธอสลบไสล เขาก็จัดการอุ้มไปกระทำการอันมิดีมิร้าย ตามสัญชาติญาณพื้นฐานของการเจริญพันธ์

...เมื่อถึงเวลานั้น เวลาที่ความต้องการตามธรรมชาติของการเจริญพันธุ์เกิดขึ้นกับมนุษย์ผู้ชายแล้ว อะไรก็สามารถจะเกิดขึ้นได้ถ้าปราศจากความยับยั้งชั่งใจ

ผมเคยได้ยินพี่ชายสอนน้องสาวของเขา ด้วยประโยคที่คลาสสิคมากว่า “น้องเอ๋ยจำไว้เลยนะว่าพี่นั้นมีเพื่อนที่เป็นผู้ชายมาหลายชาติหลายศาสนาแล้ว แต่มีพฤติกรรมที่เหมือนกันในเรื่องนั้นอย่างเดียวก็คือ ...ผู้ชายชาติไหนก็ไว้ใจไม่ได้”

...แต่ไม่ได้หมายความว่า ผู้ชายเป็นคนไม่ดี!!!

และผู้ชายนั้นควบคุมได้ไม่ยาก ถ้ารู้จักและเข้าใจพวกเขาอย่างที่พวกเขาเป็นและปรับตัวให้เข้ากับลักษณะของเขา ใช้จุดเด่นของความเป็นหญิงจัดการกับเขา

มาเรียนรู้ผู้ชาย ในรูปแบบที่พวกเขาเป็นกันเถิด

ความรักของผู้ชาย

  • ผู้ชายรักง่ายหน่ายเร็ว ผู้หญิงรักยากแต่เมื่อรักแล้วจะรักตลอดไปไม่ค่อยยอมเปลี่ยนแปลง แต่ผู้ชายนั้นไม่กล้าสูญเสียผู้หญิงที่มีคุณค่า ผู้หญิงที่งามสง่า และเป็นคนที่ปลอบใจเขาได้ยามเขาผิดหวัง


  • ก่อนมีชีวิตคู่ร่วมกัน ผู้ชายจะพร่ำบอกแต่คำว่ารักโดยมิรู้เบื่อหน่ายและผู้หญิงก็อยากฟัง แต่เมื่ออยู่กันเป็นคู่ครองแล้ว คำว่ารักจากปากของเขาจะลดลง ในขณะที่คำว่ารักจากปากของเธอก็จะเพิ่มขึ้น เพราะชีวิตก็เป็นแบบนี้ เนื่องจากพอผู้ชายสมหวังที่ได้เธอไว้ครอบครองแล้ว พวกเขาก็จะไปสนใจการสร้างอาชีพ ฐานะ การงาน และอำนาจวาสนาแทน


  • ผู้ชายเกิดมาเพื่อที่จะมีหลายรัก แต่ผู้หญิงเกิดมาเพื่อที่จะมีรักเดียว เป็นไปตามเหตุผลของธรรมชาติที่เพศผู้นั้นเกิดยากแต่ตายง่าย จะเห็นได้ว่าในธรรมชาตินั้นสัตว์ตัวผู้จะงดงามกว่าตัวเมีย เพื่อที่จะล่อตัวเมียมาให้หลงและดำรงตนเป็นจ่าฝูงคุมตัวเมียมากหน้าหลายตา ผู้ชายก็เช่นกันถ้าไม่มีการยับยั้งชั่งใจ และไม่มีจริยธรรม ก็จะดำเนินพฤติกรรมในการมีหลายรักเช่นเดียวกัน ถ้าผู้หญิงไม่รู้จักการที่จะเป็นคนหลายคนในคนเดียวกัน...เพราะผู้ชายเบื่อง่าย จึงต้องทำตัวให้เป็นปริศนาและแปลกใหม่ตลอดเวลา


  • ผู้หญิงต้องการความรักแต่ผู้ชายต้องการทำรัก เมื่อคิดถึงเรื่องของการมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งที่เรียกว่าเพศสัมพันธ์แล้ว ผู้หญิงจะนึกถึงความรักก่อนแต่ผู้ชายจะนึกถึงสถานที่ทำรักก่อน และเมื่อเกิดความสุขสมแล้วก็จะเกิดความอ่อนไหวในความรักของเธอ ผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายจึงต้องยอมสยบใต้ชายกระโปรงหญิงงาม


  • ผู้ชายมักจะใฝ่ฝันที่จะเจอรักแรกพบหรือ Love At First Sight แต่ผู้หญิงมักต้องการที่จะพบกับใครสักคนหนึ่ง ซึ่งจะรักเธอเป็นคนสุดท้ายและรักเธอตลอดไป สิ่งที่เธอต้องการจึงเป็น Eternal Love


  • ผู้ชายมักจะใจร้อนอยากจะให้ผู้หญิงรับรักของเขาโดยเร็ว ยิ่งถ้าได้มีอะไรเป็นเครื่องประกันว่าเธอจะรับรักเขาแล้วเขาจะยิ่งพอใจมากขึ้น ผู้ชายหลายรายจึงร้อนรนที่จะได้ครอบครองเธอผู้เป็นที่รักทั้งกายและใจ


กามารมณ์ : สีสันแห่งความรัก
กามารมณ์หรือ Sex นั้นกล่าวได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่ในสมองของผู้ชาย ตราบเท่าที่เขายังมีการสร้างฮอร์โมนเพศชายตามปกติ เนื่องจากฮอร์โมนเพศชายนั้นเป็นฮอร์โมนของความต้องการทางเพศ ต่างจากฮอร์โมนเพศหญิงซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความรัก

แน่นอนว่า ความรักย่อมคู่กับกามารมณ์อันเป็นความต้องการของธรรมชาติ เพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติ กามารมณ์จึงอยู่คู่กับโลกนี้มานานตั้งแต่เริ่มเกิดมีมนุษย์ขึ้นมา และจะยังคงอยู่ต่อไปตราบฟ้าดินสลายโดยไม่มีทางเปลี่ยนแปร

ผู้ชายหลายรายไม่ได้เข้าใจหรอกว่าความรักคืออะไร และจำเป็นจะต้องมีความรักด้วยหรือ จึงจะมีความสัมพันธ์ทางเพศที่ลึกซึ้งต่อกันได้
  • กามารมณ์ในอดีต จึงเกิดเพื่อการเจริญเผ่าพันธ์ของมนุษยชาติอย่างเดียว เป็นสัญชาติญาณพื้นฐานหรือ Basic Instinct ที่ผู้ชายจะต้องมีการนำอวัยวะแห่งความเป็นชายของเขา ผ่านเข้าไปในช่องทางการเจริญพันธุ์ของเธอ และกระทำการจนหลั่งเอาน้ำอสุจิออกมา เพื่อที่จะให้ตัวอสุจิอันเป็นสายพันธ์ของเขาเข้าไปผสมกับไข่ ซึ่งเป็นสายพันธ์ของเธอ เกิดการปฏิสนธิจนได้ทายาทไว้สืบสกุล ด้วยเหตุนี้การมีเพศสัมพันธ์ในอดีตจึงเป็นไปโดยมีจุดประสงค์หรือ Goal Oriented ที่จะผ่องถ่ายสายพันธ์เท่านั้น โดยที่ไม่ได้รู้ซึ่งถึงสัมผัสแห่งรักจากการเคลื่อนไหวทางกายที่ประสานสอดคล้อง กันทั้งสองฝ่ายเพื่อความสุขสมร่วมกันเหมือนในปัจจุบัน


  • ผู้ชายจะรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ไปถึงจุดสุดยอด เมื่อเกิดความสุขแล้วจึงเกิดการติดอกติดใจที่จะปฏิบัติการอันสุนทร ในการจะนำเขาไปสู่จุดสุดยอด ด้วยเหตุนี้ผู้ชายหลายราย จึงหมกมุ่นกับการกระทำที่จะนำเขาไปสู่จุดสุดยอดดังกล่าว ไม่ว่าคู่นั้นจะเป็นคู่ต่างเพศหรือเพศเดียวกัน


  • ด้วยเหตุของการติดใจในความสุข จากการไปถึงดวงดาวดังกล่าว ผู้ชายที่ชอบช่วยตัวเองจึงใจร้อนเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เขาเริ่มลงมือช่วยเหลือตัวเอง อันเป็นสาเหตุเริ่มแรกของการหลั่งเร็วหรือการล่มปากอ่าว


  • เมื่อคิดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเซ็กส์ ผู้ชายจะคิดถึงว่าจะมีอะไรกับเธอที่ไหนในแบบไหนดี ท่วงท่าลีลาแห่งความรักที่แปลกใหม่ และเร้าใจจะอยู่ภายในความคิดคำนึงของเขาเสียเป็นส่วนใหญ่ เขาสามารถที่จะมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิง สาว สวย ในอุดมคติของเขาโดยที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเริ่มต้นด้วยความรักก่อน ตรงกันข้ามกับผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ถ้าเธอจะมีอะไรกับใครสักคน เธอจะคิดว่าก่อนว่าสมควรไหม มีเหตุผลที่ดีงามอะไรบ้างที่เธอจะต้องมอบกายมอบใจให้แก่เขา เขาจะรักเธอมากขึ้นไหมหลังจากที่มีสัมพันธสวาทกันแล้ว นั่นแหละครับเซ็กส์ที่ต่างกันระหว่างชายและหญิงในจุดเริ่มต้น แต่ถ้าเริ่มต้นได้ดีก็เท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่งเหมือนกัน


  • การมีกิจกรรมทางเพศนั้น ผู้ชายมักจะคำนึงถึงปริมาณเป็นหลัก คุณภาพเป็นเรื่องรองลงมา ความสุขของเขาเป็นอันดับแรก ความปลอดภัยเป็นเรื่องรอง และความสุขของเธอนั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในลำดับต่อไป นั่นเป็นความเห็นที่ได้จากการสำรวจของผู้ชายส่วนใหญ่นะครับ ไม่ใช่ผู้ชายทั้งหมด เพราะผู้ชายส่วนน้อยที่แสนจะโรแมนติค มีกิจกรรมดังกล่าวกับเธอเพื่อเป็นการแสดงความรัก และคิดถึง ความสุขสมหวังของเธอก่อนก็ยังคงมีอยู่อีกมาก แต่หาได้ยากจริงๆ นะครับในทุกยุคทุกสมัย และกาลเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องตัดสินว่าได้เจอ Mr. Right คนนั้นหรือไม่


ฝรั่งเขาว่า Woman want to make love a lot with her beloved but man want to make love a lot only

แปลเป็นไทยคงจะได้ว่า ผู้หญิงต้องการที่จะมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ กับชายคนที่เธอรัก แต่ผู้ชายต้องการมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ เท่า นั้นเอง

คุณว่าจริงไหม!!
  • ผู้ชายมักจะไม่พยายามเข้าใจว่า “เมื่อถึงวัยร่างกายย่อมเปลี่ยนแปลง” เขาพยายามที่จะมีกิจกรรมทางเพศให้ได้ในปริมาณที่เท่าเดิม และเมื่อเขาไม่สามารถที่จะทำได้เท่าสถิติเดิมเขาก็มักจะถามตัวเองว่า ทำไมนะจึงไม่เหมือนเดิม และส่วนใหญ่ก็มักจะโทษภรรยาของเขาว่า ไม่เร้าใจเหมือนเดิมบ้างละ ไม่ตามใจเขาเหมือนเดิมบ้างละ ไม่กระชับเหมือนเดิมบ้างละ โดยลืมไปว่าที่ไม่เร้าใจเหมือนเดิมน่ะ เป็นเพราะเมื่อเขาอายุมากขึ้นปริมาณฮอร์โมนเพศชายในร่างกายของเขาก็ลดลง อะไรที่เปิดปุ๊ปติดปั๊ปก็กลายเป็นนอนไม่ลุก ปลุกไม่ตื่น ไม่หวนคืนดังเดิม และการที่กล่าวหาว่าไม่กระชับแทนที่จะบอกว่า เป็นเพราะชนาดของตัวเองลดลงตามวัยและการใช้งาน ก็กลับไปโทษเธอว่าของเธอหลวมไป เพราะคลอดเจ้าตัวน้อยผลผลิตที่ร่วมกันทำออกมา กิจกรรมเกี่ยวกับการทำสาวจึงเฟื่องฟู เพราะภรรยาของผู้ชายที่อวัยวะของเขาเริ่มเหี่ยวลง กลับต้องไปปรับแต่งเครื่องเคราของเธอ ซึ่งอาจจะปกติดีอยู่ให้เล็กลงไปตามขนาดของพ่อเจ้าประคุณของเธอ ...ด้วยความรัก


นี่ไม่ทันพวกคุณเธอที่หย่อนยานจริงๆ นะครับ พวกนั้นต้องไปผ่าตัดตกแต่ง หรือไม่ก็ต้องใช้สโลแกนที่ว่า “ขมิบวันละร้อยไม่ต้องกลัวเมียน้อยมาราวี”
  • ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า การจะมีอะไรกันกับเธอให้เป็นที่ติดตกติดใจนั้นขึ้นอยู่กับเวลาในการไปถึงดวงดาว ผู้หญิงใช้เวลาอย่างน้อย 13 นาทีกว่าจะไปถึงจุดสุดยอด ในขณะที่ผู้ชายที่มีสุขภาพดีและแข็งแรงจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 3 นาทีครึ่งก็ไปถึงดวงดาวแล้ว ที่เหลือ 10 นาทีนั่นแหละคือปัญหา...


ปัญหาใหญ่ของชายชาตรี จึงเป็นการหลั่งเร็วเกินไปกว่าที่ต้องการ!

บางคนแค่สามารถทำให้เธอเกิดความรู้สึกแค่เจ็บๆ เท่านั้นก็เรียบร้อยแล้ว

ถ้าผู้ชายเข้าใจว่า กระบวนการในการเมคเลิฟนั้นจะต้องกระตุ้นฝ่ายหญิงให้พร้อม ก่อนที่จะล่วงล้ำถ้ำสวรรค์ของเธอแล้วละก็ ทั้งสองฝ่ายก็จะสุขสมและไปถึงฝั่งฝันได้พร้อมๆ กัน

เปรียบผู้หญิงก็เหมือนเตาอบไฟฟ้านั่นแหละครับ กว่าจะร้อนก็ต้องใช้เวลาพอควร ส่วนผู้ชายเปรียบได้กับเตาแก๊ส เปิดก็ร้อนเลยทันที ถ้าจะเปรียบกับรถยนต์ก็เป็นประเภทเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูป 24 วาวล์ กับรถเครื่องดีเซลนั่นแหละ

Foreplay หรือการเล้าโลมเท่านั้นที่จะทำให้เธอมีความสุขพร้อมคุณชายได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคนิคอื่นๆ ในการชะลอการหลั่งเลย
  • ผู้ชายมักจะหลงเข้าใจผิดว่า การมีอะไรกันทางประตูหลังจะกระชับกว่า เร้าใจกว่าทั้งๆ ที่ประตูหลังนั้นวงแหวนหูรูดโดยรวมทวารหนักนั้นมีบริเวณไม่กว้างเลย และไม่รัดรึงกระชับกว่าถ้ำสวรรค์ของเธอหรอก โดยเฉพาะเธอผู้ออกกายบริหารกล้ามเนื้อช่องคลอดเป็นประจำนั้น จะทำให้เกิดความกระชับรัดรึงได้ตลอดลำตัวมังกรผงาดของฝ่ายชาย


  • การหลั่งภายนอกไม่ได้ลดความรู้สึก ความสุขสม หรือทำให้อารมณ์ไม่ต่อเนื่องเลย ผู้ชายหลายรายที่ผ่านการฝึกฝนเป็นอย่างดีและสามารถควบคุมการหลั่งได้ กลับมีความรู้สึกที่ดีเสียอีกที่สามารถเห็นน้ำที่กลั่นมาจากความรักของเขา หลั่งออกมาภายนอกให้เห็นเต็มตา แล้วราดรดลงบนผิวของเธอผู้เป็นที่รัก


เหล่านี้แหละครับเป็นเรื่องน่ารู้ของผู้ชายที่ผู้หญิงควรจะรับรู้ และเรียนรู้ที่จะอยู่กับผู้ชายอย่างมีความสุข ด้วยความรัก ความผูกพันและความเข้าใจที่มีต่อกัน

ด้วยปีกแห่งรักที่นำเธอและเขามาอยู่เป็นคู่ครอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook