4 พฤติกรรมการกินยาผิด ใส่ใจสักนิด ก่อนสุขภาพพังระยะยาว

4 พฤติกรรมการกินยาผิด ใส่ใจสักนิด ก่อนสุขภาพพังระยะยาว

4 พฤติกรรมการกินยาผิด ใส่ใจสักนิด ก่อนสุขภาพพังระยะยาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เวลาเจ็บป่วย ไม่สบาย เราก็ต้องกินยาเพื่อบรรเทาและรักษาอาการเจ็บป่วยนั้นๆ แต่เชื่อว่ามีหลายคนที่ยังมีพฤติกรรมการใช้ยาแบบผิดๆ กันอยู่ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง ไปติดตามได้เลยดังนี้

1.ซื้อยากินเอง

เรามักจะสังเกตพฤติกรรมหรืออาการป่วยของตนเอง แล้วไปหาซื้อยาทานเอง เพราะเป็นวิธีการที่ประหยัดเงินและเวลา แต่นี่คือพฤติกรรมที่ผิด เนื่องจากการกินยาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้เกิดการป่วยแบบเรื้อรัง และยังเสี่ยงสุขภาพพังในระยะยาวต่อไปได้อีกด้วย แต่หากคุณไปพบแพทย์ ในกระบวนการจ่ายยาของแพทย์แต่ละครั้งนั้น แพทย์จะต้องทำการตรวจและวินิจฉัยอย่างละเอียดเพื่อให้ยาเท่าที่จำเป็น ซึ่งหากยาหมดแพทย์ต้องทำการวินิจฉัยอีกครั้ง เพื่อดูอาการและปรับการใช้ยาให้เหมาะสม อาจมีการเจาะเลือด แล้วค่อยจ่ายยาอีกครั้ง เพื่อดูระบบของร่างการว่ายาชนิดใดที่รักษาได้ดี และยังมียาบางชนิดที่อาจรุนแรงต่อร่างกายซึ่งแพทย์ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ดังนั้น อย่าเสี่ยงกับพฤติกรรมการซื้อยากินเองเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายในระยะยาวโดยไม่รู้ตัว

2.กินยาไม่ครบถ้วนตามแพทย์สั่ง

บางคนเมื่อเห็นว่าตนเองมีอาการดีขึ้นก็หยุดกินยา แต่รู้หรือไม่ว่าการที่คุณกินยาไม่ครบนั้นจะทำให้เชื้อโรคยังคงเหลืออยู่ และพัฒนาขึ้นหรือที่เรียกว่า “การดื้อยา” ซึ่งทำให้การรักษายากยิ่งขึ้น เพราะไม่สามารถใช้ยาตัวเดิมได้ แถมยังมีผลมากกับยาปฏิชีวนะ เพราะหากกินไม่ครบก็ทำให้เชื้อตายไม่หมด แล้วไปพัฒนาตัวเองให้ดื้อยา ทำให้การรักษาหายยากต่อไป

3.กินยาเกินจากที่แพทย์กำหนด

พฤติกรรมนี้มักพบในผู้ป่วยที่มีอาการปวด จึงต้องกินยาแก้ปวดหรือยานอนหลับ ซึ่งยาเหล่านี้จะออกฤทธิ์ได้ช้า และหากไม่ทราบก็จะคิดว่ายาไม่ได้ผลจึงทานเพิ่ม ซึ่งเมื่อยาออกฤทธิ์พร้อม ๆ กันก็จะส่งผลแรงเกินไป ร่างกายรับไม่ไหวซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของคุณได้

4.กินยาผิดประเภท

อาจพบในผู้ป่วยสูงอายุที่อาจจะหลงลืม หรือบางครั้งก็อาจทำยาร่วงจากซองยาบ้างเมื่อนำมาใส่ซองตามเดิมอาจทำให้สลับกันด้วยลักษณะของยาที่คล้ายคลึงกัน จึงทำให้กินยาผิดประเภท เช่น ยาหลังอาหารกับยาก่อนอาหาร ซึ่งกลุ่มยาที่มักทานสลับกันจะเป็นยาประเภทยารักษาเบาหวานและยารักษาความดันโลหิต เนื่องจากเป็นยาที่มีเม็ดขนาดเล็ก ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังและคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

และนี่ก็คือ พฤติกรรมการใช้ยาแบบผิดๆ ที่ไม่ควรเสี่ยงทำอย่างเด็ดขาด เพราะหากละเลยบ่อยๆ นอกจากการรักษาโรคจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังอาจจะกลายเป็นการกินยาแบบเสียเปล่าพร่ำเพรื่อ ทำให้ยาสะสมในตับเกินความจำเป็น และเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆ ในอนาคตตามมาอีกได้นั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook