ไร้อารมณ์ร่วมรัก….หลังคลอด

ไร้อารมณ์ร่วมรัก….หลังคลอด

ไร้อารมณ์ร่วมรัก….หลังคลอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พญ.นิศานาถ ธนะภูมิ

มีคนกล่าวเรื่องตลกบนความเศร้าเคล้าความจริงว่า “ถ้าอยากให้เธอหยุดร่วมรักกับคุณ ก็จงรีบให้เธอมีลูกเสียสิ” อยากจะหัวเราะ แต่น้ำตาแทบหยดทั้งสองฝ่าย กับคำที่บอกว่า เหนื่อย ไม่ว่าง ลูกจะตื่น ฯลฯ เป็นข้ออ้างหรือเปล่า เธอพูดจริง หรือเธอหมดรักคุณแล้ว ทำไมต้องอ้างแต่ลูก แล้วผมหละทำไมเธอต้องปฏิเสธ… มาดูกันดีกว่า การที่เธอปฏิเสธคุณมันต้องมีสาเหตุแน่นอน แล้วจะแก้ไขได้อย่างไร


กลัวเจ็บแผล กลัวแผลแยก
ในชีวิตจริง นี่คือสิ่งที่ทุกคนกลัว ไม่ว่าจะคลอดเองตามธรรมชาติทางช่องคลอด หรือผ่าตัดเอาลูกออกทางหน้าท้อง ก็ย่อมมีแผลที่เย็บไว้ แต่แผลจะหายเมื่อไร แล้วจะมีปัญหาไหม นี่คือความกริ่งเกรงกลัวในใจของคนที่มีแผลทุกคน

ธรรมชาติคือ แผลเย็บทั้งหลายมักจะสมานดีหายได้ไม่ปริแยกจากกันใน 10-14 วัน ส่วนใหญ่การตัดไหมมักจะทำในวันที่ 7 หลังผ่าตัด แผลที่ฝีเย็บตรงปากช่องคลอดมักใช้ไหมละลาย ซึ่งจะละลายไปเองใน 1-2 เดือนแล้วแต่ลักษณะของไหมที่ใช้

ดังนั้นก็คือ ถ้าไม่รู้สึกเจ็บร้าวระบมที่แผลเมื่อไร ก็ไม่ได้ห้ามที่จะร่วมรักกัน คุณสามีก็ควรลองถามไถ่ภรรยาอย่างห่วงใยบ้างว่ายังเจ็บแผลอยู่ไหม


กลัวการติดเชื้อ
ในชีวิตจริง หลังคลอดจะมีเลือดออกจากโพรงมดลูกตรงส่วนที่รกเคยเกาะและลอกตัวออกไปหมดแล้ว เรียกเลือดที่ออกนี้ว่าน้ำคาวปลา

ธรรมชาติคือ ใน 2-3 วันแรกจะมีน้ำคาวปลามากหน่อย แล้วค่อยๆ ลดลงเหลือเพียงสีชมพูจางๆ จนหมดไปใน 3 สัปดาห์ นั่นคือสัญญาณที่บอกว่าแผลที่รกลอกออกหายดีแล้ว ถ้าเลี้ยงลูกด้วยนมตัวเอง ขณะที่ลูกดูดนม แม่จะมีสาร oxytocin หลั่งออกมาเพื่อช่วยให้มดลูกบีบตัวก็จะรู้สึกหน่วงๆ ที่มดลูกตรงบริเวณท้องน้อยได้ ขบวนการนี้จะทำให้เลือดหยุดได้ดีและมดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น นั่นก็คือ 3 สัปดาห์หลังคลอด หรือหลังจากน้ำคาวปลาหมด ก็จะร่วมรักกันได้โดยที่โอกาสติดเชื้อจะน้อยลงแล้ว


กลัวว่าถ้าร่วมรักกันแล้วน้ำนมจะไหล
ในชีวิตจริง แม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเองเต้านมจะคัดและเจ็บตึง เมื่อมีการแตะต้อง จับ ดูด ก็มักจะมีน้ำนมไหลได้เสมอ

ธรรมชาติคือ เมื่อเวลาที่มีการเล้าโลมก่อนร่วมรักมักมีการลูบคลำดูดจับเต้านมด้วยเสมอ

นั่นก็คือ การร่วมรักกันหลังจากที่ให้นมลูกอย่างพอเพียงและลูกหลับแล้วใหม่ๆ ก็อาจช่วยลดภาวะน้ำนมไหลได้


กลัวว่าจะท้องอีก
ความจริงคือ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะเริ่มคุมกำเนิดดี ถ้าไม่คุมแล้วจะท้องไหม

ธรรมชาติคือ หลังจากคลอดแล้วจะเริ่มมีการตกไข่ได้เร็วที่สุดที่ประมาณ 40 วันหลังคลอด แต่ถ้าเลี้ยงลูกด้วยนมตัวเอง ฮอร์โมน prolactin ที่กระตุ้นการผลิตน้ำนมจะช่วยห้ามไม่ให้มีการตกไข่ ก็เป็นการคุมกำเนิดในทางธรรมชาติกรายๆ แต่ไม่แน่นอนนัก

นั่นก็คือ ยังไงๆ ก็ควรจะคุมกำเนิดก่อนที่จะเริ่มร่วมรักกัน ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะใช้วิธีไหนดี หรือยังไม่ได้ปรึกษาใคร ใช้ถุงยางคุมกำเนิดด้วยทุกครั้งก่อน แล้วค่อยมาปรึกษาแพทย์ทีหลังก็ได้ โดยปกติ แพทย์มักจะนัดตรวจที่ 4-6 สัปดาห์หลังคลอด เพื่อดูว่าแผลหายดีหรือไม่ มดลูกเข้าอู่หรือยัง ตรวจเช็คมะเร็งที่ปากมดลูกให้เลย
รวมทั้งให้คำแนะนำในการเลือกวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมให้ด้วย ดังนั้นตามมาตรฐาน มักจะเริ่มมีการร่วมรักกันได้โดยปลอดภัยและสบายใจที่ประมาณ 6 สัปดาห์ หลังคลอด


ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อารมณ์ปรวนแปร ทำให้ไร้อารมณ์ร่วมรัก
ความจริงคือ ส่วนใหญ่มักจะเริ่มร่วมรักกันครั้งแรกหลังคลอดไปแล้วที่ 3 เดือน มี 20% ที่สบายใจที่จะร่วมรักเมื่อคลอดไปแล้วที่ 6 เดือน และมีมากถึง 57% ที่ร่วมรักกันน้อยมากในช่วงอายุ 1 ปีแรกของลูก

ธรรมชาติคือ หลังคลอดจะมีฮอร์โมน prolactin หลั่งออกมาเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนมให้ลูกกิน ร่วมกับฮอร์โมนเอสโตรเจนยังคงน้อยลงอยู่ทำให้ช่องคลอดแห้งเมื่อนอนร่วมรักกันก็มักจะเจ็บเพราะไม่มีน้ำหล่อลื่นพอ ระดับของฮอร์โมนสองตัวนี้ช่วยกันทำให้ความสนใจในการอยากร่วมรักลดลง ตราบนานเท่าที่ยังให้นมลูกอยู่

นั่นก็คือ เมื่อคุณรับรู้ว่าการที่เธอยังไม่มีความพร้อมทางอารมณ์ที่จะร่วมรักกับคุณนั้นไม่ใช่เพราะหมดรักหมดความต้องการคุณ แต่เป็นเพราะธรรมชาติที่ให้มาว่านมแม่ดีและเหมาะสมสำหรับลูกตัวเองและเมื่อลูกเล็กนั้นมีความจำเป็นที่จะให้แม่ต้องสนใจดูแลปกป้องห่วงใยลูกตัวเองยิ่งกว่าอื่นใด คุณก็น่าที่จะเข้าใจและทำใจได้ระดับหนึ่ง คุณแม่คนใหม่ก็ควรทำความเข้าใจว่าที่คุณพ่อของลูกต้องการนั้นคือ ความรู้สึกมั่นใจว่าคุณยังรักและสนใจห่วงใยและต้องการเขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป พูดคุยกันให้ความเอื้ออาทรถามไถ่กัน ช่วยกันดูแลลูกแบ่งปันผ่อนคลายความเหนื่อยล้ากังวลด้วยกัน ความผูกพันเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่บอกความมั่นคงของจิตใจในความรักได้โดยไม่ต้องร่วมรัก


วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลง เหนื่อยล้า กังวล วิตก ทำให้เศร้าหมอง
ความจริงคือ ในช่วง 2 สัปดาห์หลังคลอด คุณแม่คนใหม่มักยังเหนื่อยล้าจากการคลอด และมักจะมีความสับสน วุ่นวายใจ จัดตัวเองไม่ถูกว่าจะทำอะไรอย่างไรดี ไหนจะลูกที่ยังไม่รู้จะเลี้ยงยังไง ต้องกินนมทุก 2-3 ชั่วโมง จะหมุนตัวทำอะไรก็ไม่ทัน ง่วงจะตายนอนก็ไม่หลับ ตัวเองยังไม่ทันจะได้เข้าห้องน้ำอาบน้ำเลยลูกร้องอีกแล้ว อะไรกันนักกันหนานะ ไหนจะสามีที่ไม่รู้ว่าจะดูแลยังไง บางครั้งอาจเศร้ามากจนต้องร้องไห้

ธรรมชาติคือ เมื่อระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงทำให้อารมณ์แปรปรวนและเกิดอาการเศร้าหมองได้ ก็มักจะไม่มีอารมณ์ที่จะทำสิ่งอื่นใดรวมทั้งร่วมรักด้วย

นั่นก็คือ จากสถานะที่เคยเป็นคนรักกันเมื่อยังไม่มีลูก กลับกลายเป็นพ่อแม่คน ความรู้สึกรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ขึ้นต้องการการปรับตัวและช่วยประคับประคองจิตใจดูแลเอาใจใส่กัน ช่วยกันดูแลลูกร่วมกันแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน ก็จะช่วยให้คุณแม่คนใหม่ค่อยคลายกังวลได้ และค่อยปรับตัวดูแลลูกได้ แต่บางคนถ้าไม่สามารถผ่านภาวะนี้ไปได้ กลับวิตกมากขึ้นกินไม่ได้นอนไม่หลับกระสับกระส่าย สับสน ดูแลตัวเองไม่ได้ ก็จำเป็นต้องปรึกษาจิตแพทย์เพื่อช่วยแก้ไข


รูปร่างที่เปลี่ยนไป น้ำหนักที่มากขึ้นทำให้ไม่มั่นใจ
ในชีวิตจริง น้ำหนักที่เพิ่มเกินพิกัดหลังคลอดแล้วยังลดไม่ได้เลย รูปร่างน่าเกลียด เขาจะยังอยากกอดเราอยู่อีกหรือน่าอายรูปร่างที่น่าเกลียดของตัวเองจะตาย

ธรรมชาติคือ ถึงแม้ว่าคุณจะเห็นว่าเธอยังสวยอยู่หรือไม่ได้สนใจว่าเธออ้วนยุ้ยจนน่าเกลียดมากแค่ไหน แต่ผู้หญิงเกือบจะทุกรายย่อมกลัวความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างที่เปลี่ยนไปในทางที่ไม่สวยว่าจะเป็นเหตุทำให้สามีเลิกรักเลิกสนใจ

นั่นคือ อย่าได้พูดล้อเลียน หยอกเย้ากระเซ้าแหย่บ่อยๆ ถึงรูปร่างที่เธอเปลี่ยนในขณะที่เธอกำลังพยายามปรับปรุงให้ดูดีเหมือนเดิม เพราะเหมือนกับเป็นการย้ำเตือนว่าคุณไม่อยากกอดผู้หญิงที่มีรูปร่างเช่นเธอ คุณควรกอดเธอและให้ความมั่นใจกับเธอว่ารูปร่างที่เปลี่ยนไปไม่ได้ทำให้ความรักที่คุณมีต่อเธอเสื่อมคลายลงได้


เมื่อรู้สาเหตุ รู้ธรรมชาติแล้ว หวังว่าทั้งคู่คงเข้าใจถึงอารมณ์และจิตใจซึ่งกันและกันดีขึ้น และเมื่อเธอมีความพร้อมเธอก็คงไม่ปฏิเสธที่จะให้คุณกอดและร่วมรักกับคุณแน่นอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook