ว่ากันด้วยเรื่องเสพรส(สวาท)
มุมมองของความรักกับความเข้าใจ ในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ยังคงถือว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และนับวันก็จะยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้น 
ก่อนอื่นการทำความเข้าใจในเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งมีแนวความคิดที่แตกต่างกันระหว่างเพศชายกับเพศหญิง ในเรื่องของความรักและค่านิยมของการมีเพศสัมพันธ์
รวมถึงวัยต่างๆ ที่มีความแตกต่างกันในความคิด ก็ถือเป็นปัจจัยที่มีส่วนในการตัดสินใจที่จะมีเพศสัมพันธ์หรือไม่
มุมมองของผู้หญิงต่อเรื่องการมีเพศสัมพันธ์
โดยปกติผู้หญิงทั่วไปจะเป็นเพศที่มีความระมัดระวังในเรื่องการแสดงออกทางด้านความต้องการทางเพศอยู่แล้ว ซึ่งเป็นธรรมชาติของเพศหญิงที่ไม่ค่อยมีความต้องการทางเพศมากนัก แต่มิได้หมายความว่าจะไม่มีความรู้สึกเลย
ด้วยธรรมชาติของมนุษย์คนหนึ่ง ย่อมต้องมีความรู้สึกบ้าง แต่การแสดงออกที่มักจะเกี่ยวข้องกับค่านิยมของสังคมต่อผู้หญิง จึงทำให้ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว รวมทั้งความหมกมุ่นในความคิดจึงแตกต่างจากผู้ชายค่อนข้างมาก และออกจะรู้สึกอายถ้าต้องพูดถึงเรื่องทางเพศ (ยกเว้นผู้ที่ผ่านการมีสามี หรือการมีครอบครัวมาแล้ว อาจจะรู้สึกเขินน้อยลง)
อย่างไรก็ตามก็คงต้องมองเป็นรายๆ ไป แต่ที่ยกตัวอย่างมาก็เป็นส่วนใหญ่ที่เจอ
ดังนั้นความรู้สึกทางเพศของผู้หญิงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ มีการสนองความต้องการทางด้านจิตใจ ความต้องการเหล่านั้นก็คือความนุ่มนวลอ่อนหวาน การให้เกียรติกัน การสร้างบรรยากาศที่โรแมนติก รวมถึงการที่ฝ่ายชายรู้จักเล้าโลมกระตุ้นความรู้สึกโดยค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ
สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้หญิงมีความสุข และสามารถกระตุ้นความต้องการทางเพศได้เป็นอย่างดี
มุมมองของเพศชายต่อเรื่องการมีเพศสัมพันธ์
ส่วนเพศชาย ต้องขอบอกว่าเป็นส่วนใหญ่ครับ ที่ความต้องการทางเพศอาจจะค่อนข้างมีการแสดงออกได้มากกว่า การรู้สึกอายมีน้อยกว่า แต่มิได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี
เนื่องจากอิทธิพลบางประการทางร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเพศชายที่ทำให้มีความต้องการทางเพศมากกว่าเพศหญิง บวกกับค่านิยมในการแสดงออกทางสังคม หรือการยอมรับทางสังคมนั้น เพศชายจึงสามารถแสดงออกได้อย่างค่อนข้างอิสระ แต่ก็มิได้หมายความว่าจะแสดงออกอย่างไม่มีขอบเขตนะครับ เพราะเราก็เห็นตัวอย่างว่าการที่ขาดความควบคุมทางด้านความต้องการทางเพศนั้น มักจะนำมาซึ่งผลเสียมากกว่าผลดีอยู่เสมอดัง ที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่เกือบทุกวัน
นอกจากนี้แนวความคิดในทางเพศที่ผู้ชายมีต่อผู้หญิง ก็มักจะมีความแตกต่างจากที่ผู้หญิงคิดต่อผู้ชาย โดยส่วนใหญ่การคิดในเรื่องของการเอาชนะ ต้องการตอบสนองตามความต้องการของตนเองอย่างทันท่วงที หรือมุมมองว่าตนเองเป็นผู้พิชิตนั้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักจะนำพาไปสู่การหลอกล่อ หรือบังคับให้ฝ่ายหญิงต้องยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์กับฝ่ายชายอยู่ร่ำไป
มุมมองในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่แตกต่างกันแต่ละวัย
ด้วยวัยที่แตกต่างกันในเรื่องความรู้สึกทางเพศ จึงทำให้การแสดงออกในความต้องการทางเพศของวัยรุ่น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “วัยกลัดมัน” มักจะมีความต้องการที่มาก และที่ความคิดยังเป็นเด็กอยู่ทำให้การควบคุมตนเอง การรู้จักบังคับจิตใจให้เลือกที่จะกระทำต่อเพศตรงข้ามไม่ดีพอ จึงมักจะตามมาด้วยปัญหาเสมอ เพราะลืมนึกทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กันนั้นต้องมีความรับผิดชอบตามมา
แต่สิ่งที่มักเกิดขึ้นคือคิดว่าเป็นเรื่องสนุก และไม่คิดว่าต้องรับผิดชอบอะไร แถมทำซ้ำๆ จนติดเป็นนิสัย หรือเรื่องธรรมดา นำมาซึ่งความปวดหัวของคนซึ่งเป็นผู้ปกครอง อย่างไรก็ตามมิได้หมายถึงการตำหนิวัยรุ่นนะครับ เพราะที่จริงแล้ววัยรุ่นก็ถือว่าเป็นวัยที่ต้องการการแนะนำหรือการให้ความรู้จากผู้ใหญ่ โดยเฉพาะครอบครัวนั่นเอง
โดยธรรมชาติของวัยผู้ใหญ่ที่ปกติทั่วๆ ไปแล้วเราพบว่าความต้องการมีเพศสัมพันธ์จะลดลงตามอายุที่มากขึ้น การผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากขึ้น จะทำให้รู้จักคิดหรือยับยั้งชั่งใจ และเลือกสถานการณ์ที่จะมีเพศสัมพันธ์ให้เหมาะสม
แต่บางคนเป็นผู้ใหญ่ถึงวัยที่ควรจะต้องรู้จักคิด และรู้จักควบคุมตนเองในเรื่องเพศแล้ว ก็ยังไม่สามารถทำได้ เพราะติดนิสัยเดิมๆ มาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น ขาดการฝึกการควบคุมตนเองที่ดี ซึ่งก็คงจะสะท้อนถึงบุคลิกภาพ และอีคิวของคนคนนั้นนั่นเอง
ก่อนอื่นการทำความเข้าใจในเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งมีแนวความคิดที่แตกต่างกันระหว่างเพศชายกับเพศหญิง ในเรื่องของความรักและค่านิยมของการมีเพศสัมพันธ์
รวมถึงวัยต่างๆ ที่มีความแตกต่างกันในความคิด ก็ถือเป็นปัจจัยที่มีส่วนในการตัดสินใจที่จะมีเพศสัมพันธ์หรือไม่
มุมมองของผู้หญิงต่อเรื่องการมีเพศสัมพันธ์
โดยปกติผู้หญิงทั่วไปจะเป็นเพศที่มีความระมัดระวังในเรื่องการแสดงออกทางด้านความต้องการทางเพศอยู่แล้ว ซึ่งเป็นธรรมชาติของเพศหญิงที่ไม่ค่อยมีความต้องการทางเพศมากนัก แต่มิได้หมายความว่าจะไม่มีความรู้สึกเลย
ด้วยธรรมชาติของมนุษย์คนหนึ่ง ย่อมต้องมีความรู้สึกบ้าง แต่การแสดงออกที่มักจะเกี่ยวข้องกับค่านิยมของสังคมต่อผู้หญิง จึงทำให้ต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว รวมทั้งความหมกมุ่นในความคิดจึงแตกต่างจากผู้ชายค่อนข้างมาก และออกจะรู้สึกอายถ้าต้องพูดถึงเรื่องทางเพศ (ยกเว้นผู้ที่ผ่านการมีสามี หรือการมีครอบครัวมาแล้ว อาจจะรู้สึกเขินน้อยลง)
อย่างไรก็ตามก็คงต้องมองเป็นรายๆ ไป แต่ที่ยกตัวอย่างมาก็เป็นส่วนใหญ่ที่เจอ
ดังนั้นความรู้สึกทางเพศของผู้หญิงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ มีการสนองความต้องการทางด้านจิตใจ ความต้องการเหล่านั้นก็คือความนุ่มนวลอ่อนหวาน การให้เกียรติกัน การสร้างบรรยากาศที่โรแมนติก รวมถึงการที่ฝ่ายชายรู้จักเล้าโลมกระตุ้นความรู้สึกโดยค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ
สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้หญิงมีความสุข และสามารถกระตุ้นความต้องการทางเพศได้เป็นอย่างดี
มุมมองของเพศชายต่อเรื่องการมีเพศสัมพันธ์
ส่วนเพศชาย ต้องขอบอกว่าเป็นส่วนใหญ่ครับ ที่ความต้องการทางเพศอาจจะค่อนข้างมีการแสดงออกได้มากกว่า การรู้สึกอายมีน้อยกว่า แต่มิได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี
เนื่องจากอิทธิพลบางประการทางร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเพศชายที่ทำให้มีความต้องการทางเพศมากกว่าเพศหญิง บวกกับค่านิยมในการแสดงออกทางสังคม หรือการยอมรับทางสังคมนั้น เพศชายจึงสามารถแสดงออกได้อย่างค่อนข้างอิสระ แต่ก็มิได้หมายความว่าจะแสดงออกอย่างไม่มีขอบเขตนะครับ เพราะเราก็เห็นตัวอย่างว่าการที่ขาดความควบคุมทางด้านความต้องการทางเพศนั้น มักจะนำมาซึ่งผลเสียมากกว่าผลดีอยู่เสมอดัง ที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่เกือบทุกวัน
นอกจากนี้แนวความคิดในทางเพศที่ผู้ชายมีต่อผู้หญิง ก็มักจะมีความแตกต่างจากที่ผู้หญิงคิดต่อผู้ชาย โดยส่วนใหญ่การคิดในเรื่องของการเอาชนะ ต้องการตอบสนองตามความต้องการของตนเองอย่างทันท่วงที หรือมุมมองว่าตนเองเป็นผู้พิชิตนั้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักจะนำพาไปสู่การหลอกล่อ หรือบังคับให้ฝ่ายหญิงต้องยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์กับฝ่ายชายอยู่ร่ำไป
มุมมองในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่แตกต่างกันแต่ละวัย
ด้วยวัยที่แตกต่างกันในเรื่องความรู้สึกทางเพศ จึงทำให้การแสดงออกในความต้องการทางเพศของวัยรุ่น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “วัยกลัดมัน” มักจะมีความต้องการที่มาก และที่ความคิดยังเป็นเด็กอยู่ทำให้การควบคุมตนเอง การรู้จักบังคับจิตใจให้เลือกที่จะกระทำต่อเพศตรงข้ามไม่ดีพอ จึงมักจะตามมาด้วยปัญหาเสมอ เพราะลืมนึกทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กันนั้นต้องมีความรับผิดชอบตามมา
แต่สิ่งที่มักเกิดขึ้นคือคิดว่าเป็นเรื่องสนุก และไม่คิดว่าต้องรับผิดชอบอะไร แถมทำซ้ำๆ จนติดเป็นนิสัย หรือเรื่องธรรมดา นำมาซึ่งความปวดหัวของคนซึ่งเป็นผู้ปกครอง อย่างไรก็ตามมิได้หมายถึงการตำหนิวัยรุ่นนะครับ เพราะที่จริงแล้ววัยรุ่นก็ถือว่าเป็นวัยที่ต้องการการแนะนำหรือการให้ความรู้จากผู้ใหญ่ โดยเฉพาะครอบครัวนั่นเอง
โดยธรรมชาติของวัยผู้ใหญ่ที่ปกติทั่วๆ ไปแล้วเราพบว่าความต้องการมีเพศสัมพันธ์จะลดลงตามอายุที่มากขึ้น การผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากขึ้น จะทำให้รู้จักคิดหรือยับยั้งชั่งใจ และเลือกสถานการณ์ที่จะมีเพศสัมพันธ์ให้เหมาะสม
แต่บางคนเป็นผู้ใหญ่ถึงวัยที่ควรจะต้องรู้จักคิด และรู้จักควบคุมตนเองในเรื่องเพศแล้ว ก็ยังไม่สามารถทำได้ เพราะติดนิสัยเดิมๆ มาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น ขาดการฝึกการควบคุมตนเองที่ดี ซึ่งก็คงจะสะท้อนถึงบุคลิกภาพ และอีคิวของคนคนนั้นนั่นเอง
