Sex ขาดๆ เกินๆ เมินเสียเถอะ

นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล

“เมินเสียเถอะ” ในความหมายที่เขียนมานี้หมายถึง “อย่าไปสนใจเลยครับ” ไม่ได้หมายความว่า “อย่าหวังว่าจะได้เลย” ไม่ได้มีความหมายแฝงอะไร เพียงแต่อยากบอกว่า อะไรที่มันไม่เหมาะหรือไม่พอเหมาะพอควรเรื่อง อย่างว่า ก็ปล่อยๆให้ผ่านไปบ้างอย่าเก็บมาให้ช้ำตัว ช้ำหัวใจเลยจะดีกว่า


มีผู้หญิงหลายๆ คนที่มีชีวิตที่คล้ายๆ กัน และที่คล้ายกันนั้นก็มีเรื่อง sex มาเกี่ยวข้องกับชีวิตค่อนข้างมาก คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ แต่หลายคนก็ลืมไป เพราะหน้ามืด (อารมณ์เข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตมากเกินไป) จนสติ และสตางค์หดหาย กลายเป็นเหยื่อกามารมณ์ อาจจะเป็นคำที่ดูรุนแรงไป

แต่เหตุผลที่ต้องใช้คำนี้เพราะในความเห็นส่วนตัว คิดว่าเพศหญิงมีความละอายและสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าเพศชาย แต่ความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ จึงเสียเปรียบอยู่เสมอๆ และที่น่ากลัวก็คือผู้หญิงบางคนตกเป็นเหยื่อแล้วก็ไม่รู้ตัวเพราะอารมณ์พาไป หรืออาจจะคิดค่อนข้างน้อยกว่าค่ามาตรฐาน แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือสมยอมในเรื่อง sex เพราะเข้าใจว่าเป็นความรัก

จากข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ...ผู้หญิงคนหนึ่งตกเป็นเหยื่อทางเพศ ถูกสามีบังคับให้มี sex กับชายอื่น หรือบางรายก็บังคับให้ถ่ายภาพวาวหวิวเพื่อใช้หาผลประโยชน์ จนฝ่ายหญิงเครียดมากแทบปลิดชีวิตตนเอง เรื่องในทำนองนี้เกิดขึ้นแทบทุกวัน บางคนก็มี sex แบบสวิงกิ้งเพิ่มความตื่นเต้น เหล่านี้คือปัญหา ที่สร้างความอับอายให้กับชีวิตครอบครัวหรือชีวิตรักมานักต่อนักแล้ว เป็นความไม่สมดุลทาง sex ของคนที่ใช้ชีวิตร่วมกัน จึงเกิดการขาดๆ เกินๆ และตามมาด้วยความทุกข์ใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั่นเอง


Sex แบบไหนบ้างที่ควรจะเมิน

sex แบบขาดๆ (อรรถรส)
คนที่มี sex แบบนี้ก็คงจะพาลหมดอารมณ์หรือหงุดหงิดบ่อยๆ เพราะคู่ของเราไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ หรือแปลกเหลือเกินที่จะรับได้ แบบไหนบ้างลองดูกันนะครับ

1) มี sex แบบขอไปที ไม่อยากขัดใจแฟน
คนประเภทนี้บางทีใจไม่พร้อม(ที่แย่กว่านั้นบางคนกายก็ไม่พร้อมด้วย) แต่ก็เป็นคนขี้เกรงใจ ไม่อยากขัดใจ กลัวอีกฝ่ายจะโกรธ ต่อว่าว่าเล่นตัว หรือไม่ก็กลัวเขาจะเบื่อ บางคนก็ยอมเสียทุกเรื่อง (ประเภทว่าผู้เสียสละ)
เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ ก็เป็นสิ่งที่บั่นทอนอารมณ์ทั้งต่อตนเองและอีกฝ่ายหนึ่ง ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจจะไปไม่ถึงจุดหมาย หงุดหงิด เสียอารมณ์ ซึมเศร้า ลงเอยด้วยทะเลาะกันโดยที่อีกฝ่ายก็แทบจะไม่รู้สาเหตุว่าทะเลาะกันเรื่องอะไรก็มี


2) มี sex แบบต้องการเอาชนะ
สมัยนี้จะว่าแต่ผู้ชายเป็นฝ่ายเอาชนะไม่ได้แล้ว ผู้หญิงบางคนสมัยนี้ก็สุดยอดจริงๆ ด้วยการเก็บสถิติผู้ชายแข่งกันว่าใครจะแน่กว่ากัน ด้วยการเอาตัวเข้าแลก น่าหวาดหวั่นแทนคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้เหลือเกิน ปัญหาของเด็กก็มาจากผู้ใหญ่เป็นส่วนประกอบอย่างมากทีเดียว

การเลี้ยงดูโดยขาดความเอาใจใส่หรือการควบคุมพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเด็ก โดยเฉพาะเรื่อง sex สำหรับผู้หญิงไทยยังมีความสำคัญและควรระมัดระวังกันอยู่ เมื่อสังคมเปลี่ยนก็คงต้องยืดหยุ่นตาม แต่ไม่ควรหย่อนเกิน


3) มี sex กับเขาแต่ใจเราไม่รู้อยู่กับใคร
คล้ายๆ กับข้อแรกครับ บางครั้งมีกิจกรรมแบบจริงจัง แต่ในขณะเดียวกันภาพของคนที่อยู่ในจินตนาการ sex ไม่ ใช่คนที่อยู่ตรงหน้า แต่เป็นใครไม่รู้ที่อยู่ในความทรงจำที่อยากให้เป็น อย่าลืมนะครับ ว่าแววตามันฟ้องได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เขาหรือเธอก็ต้องรู้

ปัญหาแบบนี้เจอบ่อยในพวกที่มักมากในกามคุณ ไม่รู้จักพอ ได้คนนี้ก็อยากมีคนโน้นอีก หรือบางคนก็อยู่ๆ กันไปแบบไม่ได้รักกัน แต่ด้วยเหตุผลทางสังคมเศรษฐกิจ คิดว่าต้องมีฝ่ายหนึ่งที่เจ็บปวด ถ้ารู้ๆ กันไปเลยย่อมดีกว่าไม่เคยรู้เลยว่าตนเองถูกหลอก


4) มี sex กับคนเป็นโรคประสาท หรือพวก neurosis
ฟังดูแล้วแปลกๆ หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่อาจจะเคยได้สัมผัสแล้วแบบไม่รู้ตัว หรือรู้ตัวแต่ไม่รู้ว่าคนที่มีอะไรด้วยเป็นอะไร ยกตัวอย่าง เช่น พวกที่กังวลมากเหลือเกินกับการมี sex กลัวเป็นเรื่องผิด เรื่องไม่สะอาด จะติดโรค แต่ในใจก็อยากลอง บางคนก็ชอบ แต่ก็มีเงื่อนไขในการมี sex มากมาย จนบางทีคนที่จะมี sex ด้วยเบื่อและหมดอารมณ์ไปเลยก็มี

พบได้บ่อยในพวกที่มีปัญหาทางการเลี้ยงดู หรือครอบครัว เช่น ครอบครัวโบราณคร่ำครึมาก ห้ามทุกเรื่อง บังคับให้อยู่ในกรอบทุกฝีก้าว หรือพวกที่คนในครอบครัวที่ชอบวางตัวเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว ทำให้ลูกๆ ก็อยากฝ่าด่านออกมาหาอิสระแต่ก็กล้าๆ กลัวๆ บางบ้านก็หลุดออกมาเต็มที่จนหลุดโลกไปเลย บางบ้านก็ผลุบๆโผล่ จะทำดีหรือไม่ดี ทำไปแล้วผิดหรือเปล่า คิดแล้วเหนื่อยแทนคนเหล่านั้นจริงๆ


5) มี sex กับคนที่มีปัญหาทางจิต ไม่ใช่โรคจิตเสียทีเดียว
ความจริงก็รวมถึงพวกที่เป็นโรคประสาทในข้อที่แล้วด้วย แต่กรณีนี้ คือกลุ่มที่มีปัญหาทางบุคลิกภาพซึ่งส่งผลกระทบต่อความคิดของเขาต่อการมี sex ตัวอย่างเช่น คนคนหนึ่งในขณะที่มี sex ไม่ได้มีอารมณ์ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ (sexual drive) แต่เป็นการมี sex แบบที่ระบายความรุนแรงหรือความก้าวร้าวออกมา (aggressive drive ) ซึ่งเป็นแรงขับที่น่ากลัวอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่มักจะตามมาด้วยปัญหาทางอาชญากรรม เช่น การข่มขืน หรือใช้วิธีพิสดารในการมี sex เฆี่ยนตี ตบตีให้เกิดความเจ็บปวด

ใครที่ตกเป็นเหยื่อของคนที่มี sex แบบนี้ เหมือนถูกทารุรกรรม เราพบคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ได้ค่อนข้างมากในสังคม ซึ่งเหยื่อก็ไม่ค่อยกล้าปริปากพูดเสียด้วย มักพบในคนที่วัยด็กอยู่ในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง หรือครอบครัวกระทำต่อเด็ก เช่น การลงโทษรุนแรง(child abuse ) หรือถูกกระทำทางเพศ (sexual abuse)


sex แบบเกินๆ (แต่หาได้เพลิดเพลินไม่) ดูเหมือนว่าจะดี เพราะมีให้มากมาย แต่คนที่เจอเข้าจริงๆ คงรับไม่ไหว เพราะนอกจากจะเหนื่อยกายเหนื่อยใจแล้ว ยังอดคิดไม่ได้ว่าเป็นเพียงที่ระบายความใคร่ (แค่หลงใหล) หรือความรักกันแน่ หลายคนไม่เข้าใจทึกทักเอาว่าการที่เขาอยากมี sex กับเราเป็นเพราะเขารักเรา เรามีสิ่งน่าสนใจ น่าดึงดูดใจ และก็คิดอยู่แค่นั้น

ในความเป็นจริงมนุษย์มีความต้องการทางเพศ ดังนั้นการมี sex ก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง แทบจะไม่เกี่ยวข้องกับความรักสักเท่าไร ใครที่บอกคุณว่ายิ่งอยากมี sex มากก็หมายถึงยิ่งรักมาก ให้คิดไว้เลยว่าคนนั้นโกหก แต่อย่างว่าบางเวลาหลายๆ คนตกอยู่ในห้วงของความหลงก็มักจะเข้าข้างตนเอง บางคนผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมาก็มามากแต่ก็ยังไม่ตาสว่างเสียที

สาเหตุของพวก sex ขาดๆ เกินๆ
สาเหตุรวมๆ มักจะเกิดจากปัญหาด้านพัฒนาการทางเพศที่ไม่ค่อยปกตินัก ถ้ามีปัญหาตอนโตมาก ก็คงบอกได้ว่าพัฒนาการในวัยเด็กหรือล่วงเลยมาถึงขั้นวัยรุ่นมีความผิดปกติแน่ๆ แต่จะเป็นแบบไหนก็คงต้องมาวิเคราะห์กันตามลักษณะที่เกิดขึ้น ดังตัวอย่างที่พบบ่อยๆ

• พวกที่ sex ขาดๆ กลัวๆ กล้าๆ ขยาด ขยะแขยงในเรื่อง sex
พวกนี้ส่วนใหญ่มักจะมีประสบการณ์การับรู้เรื่อง sex มาในทางที่ไม่ดี เช่น ถูกห้ามปรามไม่ให้พูดถึงเรื่อง sex เพราะเป็นเรื่องที่ละอาย ไม่ควรพูดถึง หรือครอบครัวมองว่าเป็นเรื่องน่ารังเกียจ หรือนอกจากนี้ในช่วงวัยเด็กของคนเหล่านี้อาจจะพบเห็นตัวอย่างที่ไม่ดี หรือทำร้ายความรู้สึกทางใจเกี่ยวกับเรื่อง sex จนจำภาพติดตาและขยาดกลัวในอนาคต รวมถึงพวกที่เคยมีประสบการณ์ดังกล่าวมาข้างต้น คือการถูกทารุณกรรมทางเพศมาก่อน หรือถูกฉกฉวยโอกาสจากคนที่เอาเปรียบตนเอง โดยที่ตนเองต้องเก็บความรู้สึกโกรธไว้ในใจมาตลอด ไม่เคยมีโอกาสระบายให้ใครฟังถึงความคับแค้นใจที่ตนเก็บไว้


• พวกที่มีความหมกมุ่น มุ่งมั่นในเรื่อง sex มากเกินควร
สาเหตุก็มาจากการพัฒนาการในวัยเด็กอีกเช่นกัน ที่ยึดติดอยู่กับช่วงเวลาที่เกี่ยวกับความรู้สึกทางเพศในวัยเด็กแล้วตนเองก็มีความสุขกับช่วงเวลานั้น (เช่น ตามทฤษฎีการพัฒนาการทางด้านจิตใจของฟรอยด์ ที่เด็กติดอยู่ในช่วงของความสุขจากอวัยวะเพศ)
สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวลาที่คนคนหนึ่งมีความทุกข์ ความไม่สบายใจก็ต้องหาทางออก โดยการแสวงหากิจกรรมทางเพศเป็นตัวทดแทนความทุกข์และเพิ่มความสุข จนทำบ่อยๆ ติดเป็นนิสัยหรือความเคยชิน และนอกจากนี้อาจจะมีสาเหตุอื่นๆ ที่เป็นไปได้ เช่น อยู่ในสังคมที่อิสระทางเพศมากเกินไป มีการลอกเลียนแบบพฤติกรรมของคนในครอบครัวหรือสังคม (ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์เรื่องจันดารา นั่นคือตัวอย่างที่ชัดเจน) และนอกจากจะมีความต้องการทางเพศที่มากเกินแล้วยังมีพฤติกรรมสำส่อนร่วมด้วย เพราะไม่สามารถหยุดอยู่ที่คนใดคนหนึ่งได้


• กลุ่มหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องพัฒนาการทางจิตใจหรือสังคมก็จะหมายความรวมถึง กลุ่มที่มีความเจ็บป่วยทางจิต
เช่นโรคจิตหรือโรคอารมณ์แปรปรวน รวมถึงพวกที่ใช้สารเสพติดหรือสารกระตุ้นบางชนิด ที่พบว่านอกเหนือจากอาการพูดมาก active เกินคนปกติ ใช้เงินฟุ่มเฟือย ร้องรำทำเพลงแบบผิดกาลเทศะ บางรายมีอาจมีอาการประสาทหลอนแล้ว อาการที่น่าเป็นห่วงอีกอย่าง คือมีความต้องการทางเพศสูงด้วย และเป็นสาเหตุให้มีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศจนถึงขั้นติดโรคก็มี กลุ่มคนเหล่านี้น่าสงสารเพราะไม่สามารถควบคุมตนเองได้เลย ต้องอาศัยการบำบัดรักษาจากแพทย์โดยการรับประทานยาถึงจะควบคุมได้



คุณคงได้แง่คิดและเข้าใจเรื่อง sex มากขึ้น ซึ่งมีทั้งปกติและไม่ปกติ อย่ามัวแต่ตรวจสอบคนอื่นหรือคู่ของคุณอย่างเดียว ควรหันกลับมามองตัวเองด้วยว่าคุณจัดอยู่ในกลุ่มไหน และทำอย่างไรให้ sex กับชีวิตคู่ของคุณ มีความสุข แม้จะดูเหมือนว่าขาดหรือเกินไปบ้าง แต่ถ้าสามารถปรับใจและความคิดให้เข้ากับคู่ของคุณได้ก็จะเกิดความพอดีขึ้นได้