มื้อพิเศษคนพิเศษกับ "น้อย วงพรู"

มื้อพิเศษคนพิเศษกับ "น้อย วงพรู"

มื้อพิเศษคนพิเศษกับ "น้อย วงพรู"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

FAMILY FAVORITE
เรื่อง : กรองกาญน์ ชัยยะปะปัง ภาพ : พีระพัฒน์ พุ่มลำเจียก ผู้ช่วยช่างภาพ : เทวัญ ตั้งแสงประทีป สไตล์ : พิมฝัน ใจสงเคราะห์

มื้อพิเศษกับคนพิเศษ "กฤษดา - เมลานี สุโกศล แคลปป์"

"กฤษดา สุโกศล แคลปป์" หรือที่รู้จักในนาม "น้อย วงพรู" ชายหนุ่มเจ้าของเสียงร้องอันนุ่มนวลและนักแสดงเจ้าบทบาทที่ฝากผลงานเด่นไว้ในภาพยนตร์หลายเรื่อง...แต่คงไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นภาพคุณน้อยจูงมือภรรยาคนสวย "เมลานี สุโกศล แคลปป์" ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องอาหารการกินภายในครอบครัว พร้อมโชว์หวานคุกกิ้งออกสื่อจนทีมงานอิจฉาตาร้อนไปตาม ๆ กัน


กินอยู่แบบคู่หวาน

น้อย"ตอนแต่งงานกันใหม่ ๆ จะมีเวลาอยู่ด้วยสองต่อสองเยอะ น้อยจะมีความสุขมากที่ได้กลับบ้านมากินอาหารที่เมลานีทำหรือช่วยกันทำอาหารแล้วกินด้วยกัน แต่เดี๋ยวนี้เรามีลูก 2 คน ลูกชายคนโตอายุ 6 ขวบ และลูกสาว 4 ขวบ เป็นวัยที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งคู่ ทำให้ไลฟ์สไตล์เราเปลี่ยนไป น้อยเองทำงานเยอะขึ้น ทั้งรับงานภาพยนตร์ ทำงานเพลง และดูแลโรงแรมเดอะสยามที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ส่วนเมลานีนอกจากจะช่วยดูแลกิจการที่โรงแรมแล้ว เขายังต้องไปรับ - ส่งลูกที่โรงเรียนสอนลูกทำการบ้าน จนช่วงค่ำก็พาลูกเข้านอนไม่ค่อยมีเวลากินข้าวด้วยกันสองคนอย่างแต่ก่อน เคยหาเวลาไปดินเนอร์กันสองคนตอนลูกหลับ แต่พอไปแล้วรู้สึกเงียบๆ คิดถึงลูก เราเลยคิดว่ารอให้ลูกโตอีกหน่อยค่อยหาเวลาไปเดทกัน"

เมลานี "ใช่ค่ะ เมื่อก่อนเรากินข้าวด้วยกันแทบทุกวันเลย จุดเทียน รินไวน์ดื่มด้วยกันที่ริมระเบียง แต่เดี๋ยวนี้เวลาไม่ค่อยตรงกันเลยไม่ค่อยได้กินข้าวด้วยกันจะมีวันที่เราได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกคือวันเสาร์ครึ่งวันบ่ายหลังพี่น้อยกลับมาจากสวนจตุจักรในช่วงเช้า (เพื่อไปซื้อของเก่า) พอตกบ่ายเรามักจะทำขนมกินด้วยกันส่วนใหญ่เป็นเบเกอรี่ง่ายๆ อย่างคัพเค้ก บราวนี่ ซึ่งลูก ๆ จะชอบกันมาก"

ไลฟ์สไตล์การกิน

เมลานี "เมลานีเป็นลูกครึ่งฮ่องกง - อังกฤษค่ะ ดังนั้นเมลานีจะชอบทำอาหารจีนมาก สมัยก่อนแต่งงานทำให้พี่น้อยกินบ่อย ๆ แต่ระยะหลังไม่ค่อยได้ทำแล้ว เพราะเราต้องทำงาน และเลี้ยงลูกด้วย ทุกวันนี้มีแม่บ้านทำให้ ส่วนใหญ่เป็นอาหารไทยซึ่งเราจะกำชับเสมอว่าขอรสชาติไม่จัด ไม่ต้องใส่ชูรส ไม่เติมน้ำมันหอย อย่างผัดผักขอให้ได้ความหวานของผักก็พอ ไม่ต้องเติมน้ำตาลหรือเครื่องปรุงอะไรมาก และเมลานีจะทำอาหารเองบ้างในวันหยุด ส่วนมากเป็นอาหารฝรั่งเพราะลูก ๆ ชอบ ส่วนของพี่น้อยเขากินอาหารได้ทุกชาติ ขอให้มีแป้งเพราะเขาชอบแป้งมาก ในมื้อเดียวเขากินแป้งได้แบบคูณสาม ทั้งข้าวผัดกะเพรา ขนมปัง ผัดซีอิ๊ว ผิดกับเมลานีและลูกๆ ที่ชอบปลา ผัก ผลไม้ โดยเฉพาะผักลูกชอบมากสองคนพี่น้องกินผักสดอย่างบรอกโคลี คะน้า แครอตได้สบาย แต่พี่น้อยไม่ค่อยกินผักเลย"

น้อย"น้อยชอบรสชาติอาหารจืด ๆ ตั้งแต่เด็กกินข้าวคลุกน้ำปลาก็พอแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังชอบอย่างนั้นอยู่บางครั้งกินเส้นสปาเกตตีใส่แต่เกลืออย่างเดียวก็กินได้แล้ว แต่รสจัดก็กินได้นะครับ ผัดกะเพราเผ็ดก็ชอบ แต่เรื่องไม่กินผักนี้ยอมรับจริง ๆ ว่าไม่ค่อยกิน ซึ่งน้อยก็รู้สึกไม่ดีนะครับ คิดว่าตัวเองใช้ชีวิตแบบไม่ค่อยห่วงต่อสุขภาพเท่าไร ทั้งชอบกินแป้งชอบกินอาหารตอนดึก ๆ ผักก็ไม่ชอบกินอีก แต่โชคดีที่เราชอบออกกำลังกาย เลยไม่ค่อยอ้วนหรือมีปัญหาสุขภาพอะไร แต่ตอนนี้อายุมากขึ้นก็คิดว่าคงต้องปรับปรุงตัวแล้ว"

เมนูโปรดประจำบ้าน

เมลานี"จริง ๆ เมนูที่เมลานีชอบและประทับใจมากที่สุดคือ สปาเกตตีหอยลายกับสลัดที่น้ำสลัดเป็นสูตรของพี่น้อยเอง เพราะความจริงพี่น้อยเป็นคนทำกับข้าวไม่ค่อยเป็น แต่เขาจะมี 2 เมนูนี้ที่เขามั่นใจมากและมันก็อร่อยจริง ๆ เป็นเมนูที่เขาชอบทำให้เมลานีกินสมัยจีบกันใหม่ ๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้กินเลย คงต้องขอให้พี่น้อยทำให้กินอีก (ยิ้ม) "ส่วนอาหารที่เราชอบกินกันทุกวันนี้และนำสูตรมาฝากคุณผู้อ่านเป็นเมนูที่เชฟของโรงแรมเดอะสยามทำและเมลานีกับพี่น้อยชอบกินมาก และเรายังชอบเอาไว้ทำกินเองบ่อย ๆ เมนูแรกคือ Slow Roasted Beetroot Salad จานโปรดของเมลานีเอง ที่ชอบเพราะมีผักเยอะ รสไม่จัด ทำให้กินได้ง่าย Tuna Dib-Raw Tuna ทำจากแซลมอนดิบนำไปยำเผ็ดๆ แล้วกินเป็นคำเล็ก ๆ แบบทาปาส และ Chilled Green Pea Soup จานนี้เราทั้งคู่ชอบค่ะ เวลาอากาศร้อนกินแล้วรู้สึกสดชื่น"

น้อย "ถือเป็นโอกาสดีนะครับที่เราสองคนจะได้ทำอาหารให้ผู้อ่าน H&C ชม เพราะผมเองไม่ได้ช่วยเมลานีทำอาหารนานมากแล้ว น้อยคิดว่าอีกเดี๋ยวคงต้องรื้อฟื้นฝีมือกลับมาทำสปาเกตตีและสลัดให้เมลานีกินแล้ว" คุณน้อยหยอดคำหวานก่อนจะพาภรรยาเข้าครัวสาธิตเมนูโปรดให้เราชม

คงไม่ต้องบรรยายให้มากความ เพราะเห็นจากภาพที่ทั้งคู่พร้อมใจกันลงครัวและใส่ความรักเหยาะความหวานลงไปเต็มจานขนาดนี้ คงพอจะรู้แล้วว่าทั้ง 3 จานนี้จะ Sweet และ Delicious ขนาดไหน...

Tuna Dib-Raw Tuna
ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)



เตรียม 15 นาที ปรุง 15 นาที
เนื้อปลาทูน่าสดหั่นเต๋าเล็ก 250 กรัม
ตะไคร้ซอยบาง 2 ช้อนโต๊ะ
หอมเล็กสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าแดงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชีสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 11/2 ช้อนโต๊ะ
มายองเนส 2 ช้อนโต๊ะ
แผ่นเกี๊ยวตัดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 0.5 เซนติเมตร 
ทอดกรอบ 40 ชิ้น 

พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 235.15 กิโลแคลอรี 
โปรตีน 26.85 กรัม ไขมัน 9.42 กรัม 
คาร์โบไฮเดรต 10.96 กรัม ไฟเบอร์ 0.17 กรัม



วิธีทำ
คลุกทูน่าเข้ากับตะไคร้ หอมเล็ก พริกชี้ฟ้า และผักชี ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว มายองเนส และน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ตักทูน่าที่ปรุงรสแล้ววางบนแผ่นเกี๊ยว พร้อมเสิร์ฟ

Chilled Green Pea Soup
ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)



เตรียม 15 นาที ปรุง 15 นาที
ถั่วลันเตาแช่แข็ง 500 กรัม
หอมหัวใหญ่สับหยาบ 125 กรัม
ต้นกระเทียมซอย 125 กรัม
น้ำซุปผัก 6 ถ้วย
ต้นหอมซอย 50 กรัม
อิตาเลียนพาร์สลีย์สับหยาบ 40 กรัม
น้ำมะนาว 30 มิลลิลิตร
โยเกิร์ตชนิดแข็ง 120 กรัม
ใบสะระแหน่ 10 กรัม
พริกชี้ฟ้าเขียวซอย 10 กรัม
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะคั่วต้นกระเทียมและหอมหัวใหญ่จนสุกจึงเทลงหม้อ เติมน้ำซุปผัก 4 ถ้วย ยกขึ้นตั้งไฟ ใส่ถั่วลันเตา อิตาเลียนพาร์สลีย์และต้นหอม ต้มจนส่วนผสมทั้งหมดสุกนิ่ม (ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) พักให้เย็น
2. นำส่วนผสมที่ได้ใส่ลงโถปั่นให้ละเอียด เติมน้ำซุปที่เหลือ แล้วนำไปแช่ให้เย็น
3. จัดเสิร์ฟโดยตักใส่ถ้วย เติมน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ตกแต่งด้วยโยเกิร์ตชนิดแข็ง ตัดเป็นชิ้น ใบสะระแหน่ พริกชี้ฟ้าเขียวและน้ำมันมะกอก

พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 416.61 กิโลแคลอรี
โปรตีน 36.40 กรัม ไขมัน 14.09 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 37.73 กรัม ไฟเบอร์ 6.88 กรัม


Slow Roasted Beetroot Salad

ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่) 



เตรียม 15 นาที ปรุง 15 นาที
บีตรู้ตปอกเปลือก
หั่นเป็นซีกเล็ก 600 กรัม
ฟักทองปอกเปลือกหั่นเต๋า 350 กรัม
ผักร็อกเกต 40 กรัม
ส้มซันคิสต์ปอกเปลือก หั่นเป็นเสี้ยวเล็ก ๆ 1 ลูก
หัวเฟนเนลซอยบาง 200 กรัม
เมล็ดทานตะวันอบ 40 กรัม
มะกอกดำตากแห้ง บดเป็นผง 40 กรัม
บัลซามิก 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 7 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
กรีกโยเกิร์ต 100 มิลลิลิตร
เกลือและพริกไทยดำอย่างละเล็กน้อย
ใบเฟนเนลสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ
1. คลุกบีตรู้ตกับบัลซามิกและน้ำตาลทราย นำเข้าอบในอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียสจนสุก และนำฟักทองลงผัดกับน้ำมันมะกอก ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำจนสุก พักไว้
2. วางบีตรู้ตอบฟักทองที่ผัดกับน้ำมันมะกอกแล้ว ผักร็อกเกต ส้มซันคิสต์ และหัวเฟนเนลลงในจาน โรยด้วยเมล็ดทานตะวัน ผงมะกอกดำ และราดด้วยกรีกโยเกิร์ต ตกแต่งด้วยใบเฟนเนล 


พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 532.30 กิโลแคลอรี
โปรตีน 15.94 กรัม 
ไขมัน 14.16 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 88.15 กรัม 
ไฟเบอร์ 1.35 กรัม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook