Kyoto Love Walk

 

คราวก่อนเราชวนกันไปสวีทที่หอคอยแห่งรัก ณ กรุงโซล มาปักษ์นี้เลยติดลมความหวาน แม้จะไม่ใช่เดือนกุมภาฯ แต่ก็อยากจะชวนชาวชิคฯ เดินทางขยับขึ้นไปทางเหนือของทวีป ไปเปิดทริปกุ๊กกิ๊กอีกสักแห่ง เพื่อต้อนรับข่าวดีเรื่องวีซ่าของประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดไฟเขียวให้ชาวไทย ได้เข้าไปท่องเที่ยวโดยสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาไปต่อคิวขอวีซ่ากันให้ยุ่งยาก

เดสติเนชั่นหวานๆ อีกแห่ง ที่ชิคมินิสตรีอยากจะนำเสนอนั่นก็ คือ ทริปไปเยือน “เมืองเกียวโต” แห่งแดนอาทิตย์อุทัย เมืองเก่าแห่งนี้ ยังดำรงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งคุณๆ จะสังเกตได้จาก สภาพตึกรามบ้านช่อง ถนนหนทาง ซอกซอย ที่หลายๆ แห่งในเมืองนี้ เหมือนจะยังอยู่ในยุคสักร้อยปีก่อนได้ ไม่นับรวมสาวๆ เกอิชา ที่ยังเดินจ่ายตลาดในชุดกิโมโน ก็ยังมีให้เห็นอยู่ทั่วไป วกกลับเข้ามาเรื่องของเรา ที่ยังไม่อยากเลี้ยวเข้าโรงน้ำชา หรือโรงอาบน้ำที่ไหน แต่จะชวนคู่รักชิคฯ ไปเดินจูงมือชมซากุระในสวนดอกไม้ของเกียวโต (Kyoto Botanical Garden) กันต่างหาก

สวนดอกไม้แห่งเกียวโต (Kyoto Botanical Garden หรือ Kyoto Prefectural Botanical Garden) เป็นสวนดอกไม้และพฤกษชาติหลักของเมือง ซึ่งภายในสวนนั้นมีทั้งเรือนกระจกขนาดใหญ่ และแบ่งแยกเป็นการจัดสวนโซนต่างๆ ประมาณเดินทั้งวันก็ไม่หมด สวนดอกไม้แห่งเกียวโตนี้ เขาเปิดให้เข้าชมทุกวันค่ะ และค่าเข้าก็ฟรี เหมาะมากสำหรับคู่รักงบกระจุ๋มกระจิ๋ม

มากไปกว่านั้น สวนดอกไม้แห่งเกียวโตนี้ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 ของสถานที่ๆ โรแมนติคที่สุดในโลก ประมาณว่าเป็นสวนแห่งความรัก ไม่ว่าจะมาเดินจีบกัน จะมาขอแต่งงานแบบมีแบคกราวน์สวยๆ หรือจะมาฮันนีมูน สวนแห่งนี้นับเป็นตัวเลือกที่ดีของทุกโอกาสที่กล่าวมา หากคุณกลัวว่า จะเดินชนกับคู่รักคู่อื่น อย่าได้กังวลไปค่ะ เพราะความกว้างใหญ่ขนาด 240,000 ตรม.ประมาณเนื้อที่ตำบลย่อมๆ ได้เลย รับรองได้ว่ามีมุมเดินให้คู่รักแต่ละคู่ เลี้ยวหลบไม่ชนกันได้เป็นอย่างดี สบายใจ หายห่วงว่าไม่มีการแย่งซีน แบ่งซีน ขโมยซีนกันแน่นอน

หากยังเดินชมสวนไม่พอ คุณๆ ก็สามารถเดินเลยต่อไปชมแม่น้ำคาโม (Kamo River) หรือจะไปสาบานรักกันที่วัดคินคากุจิ (Kinkaku-ji Temple) ก็ยังได้ เพราะอยู่ติดๆ กันกับอาณาเขตของสวนแห่งนี้ เพียงแต่ว่าจะเดินกันไหวหรือเปล่าเท่านั้นหละค่ะ

Have a romantic trip, chicster!