ตัวช่วยสำหรับผู้หญิงมีบุตรยาก

ตัวช่วยสำหรับผู้หญิงมีบุตรยาก

ตัวช่วยสำหรับผู้หญิงมีบุตรยาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณรู้ไหมว่ามีคู่สามีภรรยาทั่วโลกที่ประสบปัญหามีบุตรยาก ถึงร้อยละ 15 ในประเทศไทยเองมีอัตราการเกิดของประชากรลดลงจากเด็ก 4.9 คนต่อผู้หญิง 1 คน (ค.ศ. 1975) เป็นเด็ก 1.6 คนต่อผู้หญิง 1 คน (ค.ศ. 2013) ซึ่งถือว่าต่ำกว่าระดับที่ยอมรับกันโดยทั่วไป คือเด็ก 2.1 คนต่อผู้หญิง 1 คน เพื่อรักษาระดับจำนวนประชากรในปัจจุบัน

ภาวะมีบุตรยาก (Infertility) เป็นโรคที่บั่นทอนความสามารถของร่างกายในการทำหน้าที่พื้นฐานด้านการสืบพันธุ์ โดยเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งรวมถึงปัญหาเกี่ยวกับการสร้างสเปิร์มหรือตกไข่ ปัญหาความผิดปกติของท่อรังไข่หรือมดลูก ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) การแท้งลูกบ่อย ตลอดจนความผิดปกติของฮอร์โมนและโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune) ในทั้งชายและหญิง

เอ็มเอสดี (MSD) เป็นบริษัทที่พัฒนาโซลูชั่นด้านการปฏิสนธินอกร่างกายหรือการทำเด็กหลอดแก้ว (In Vitro Fertilization : IVF) เผยทางเลือกใหม่ในการรักษาผู้มีบุตรยาก ช่วยให้ความหวังกับผู้หญิงจำนวนมากที่ประสบความเครียดทางอารมณ์และร่างกายจากภาวะมีบุตรยาก โดยการให้ฟอลลิเคิล สติมิวเลติง ฮอร์โมน (Follicle stimulating hormone : FSH) ชนิดออกฤทธิ์นาน นับเป็นครั้งแรกของวงการ ประโยชน์ที่สำคัญในการรักษาด้วยวิธีนี้คือ มีขั้นตอนการรักษาน้อย ปัจจุบันผู้ที่เลือกรับการรักษาด้วยวิธี IVF ต้องได้รับการฉีด FSH ใต้ผิวหนังทุกวัน แต่วิธีใหม่นี้ผู้ป่วยได้รับการฉีด FSH เพียงสัปดาห์ละครั้ง

‘นพ.สมเจตน์ มณีปาลวิรัตน์' ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อในระบบสืบพันธุ์และภาวะมีบุตรยากอธิบายว่า "วิธีการรักษาใหม่นี้ถือเป็นยุคใหม่ของความหวังสำหรับผู้ป่วยของเรา ภาวะมีบุตรยากเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วโลกและในประเทศไทย การรักษาที่มีนวัตกรรมล้ำหน้าเช่นนี้ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับความสะดวกและแพทย์ทำงานง่ายขึ้น โซลูชั่น ดังกล่าวเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นในการลดภาระของผู้หญิงที่ประสบปัญหาในการตั้งครรภ์ที่ต้องฉีดฮอร์โมนทุกวัน"

มีวิธีการรักษาบางอย่างที่ใช้รักษาผู้มีบุตรยาก ซึ่งรวมถึงการผ่าตัด รักษาด้วยฮอร์โมน ผสมเทียม และการปฏิสนธินอกร่างกาย (IVF) แต่วิธีการรักษาที่ผ่านมาใช้เวลานานและสร้างความเจ็บปวด แต่วิธีการรักษาใหม่นี้มีประสิทธิภาพ สะดวก และมุ่งเน้นดูแลผู้ป่วยเป็นสำคัญ ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้เป็นการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นฟอลลิเคิลชนิดออกฤทธิ์นาน (Sustained Release) ตัวแรก ด้วยความสามารถในการกระตุ้น และรักษาอัตราการเติบโตของรังไข่ (Follicular Growth) ในหลายระยะตลอดทั้งสัปดาห์ การฉีดฮอร์โมนในปริมาณที่แนะนำ 1 ครั้งอาจใช้แทนการฉีดฮอร์โมน FSH แบบเดิม ซึ่งฉีดใต้รูขุมขนเพื่อกระตุ้นรังไข่ภายใต้การควบคุม (Controlled ovarian stimulation : COS) ทุกวันต่อเนื่อง 7 วันแรก

มีนวัตกรรมดีๆ แบบนี้ สามีภรรยาคู่ไหนที่กำลังเผชิญปัญหาการมีบุตรยาก คงทำให้หายเครียดและมีกำลังใจในการสร้างโซ่ทองคล้องใจ เพื่อเป็นพยานรักกันต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook