เคล็ดลับการนำพริกหยวกมารับประทานให้อร่อยและไม่ขม

เคล็ดลับการนำพริกหยวกมารับประทานให้อร่อยและไม่ขม

เคล็ดลับการนำพริกหยวกมารับประทานให้อร่อยและไม่ขม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผักต่างๆ มีคุณค่าสารอาหารมากมายที่ดีต่อสุขภาพกาย ความงาม และระบบขับถ่าย พริกหยวกเป็นหนึ่งในผักที่มีราคาถูกและมีประโยชน์ต่อร่างกายที่คนญี่ปุ่นนิยมเลือกซื้อมาปรุงอาหาร แม้จะมีคุณค่าทางสารอาหารสูงแต่เด็กญี่ปุ่นจำนวนมากกลับไม่ชอบกลิ่นเหม็นเขียวและรสขมของพริกหยวก มาดูกันนะคะว่าคนญี่ปุ่นมีวิธีนำพริกหยวกมารับประทานให้อร่อยได้อย่างไร

ทำไมคนญี่ปุ่นจึงนิยมรับประทานพริกหยวก
คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานพริกหยวกเพราะเป็นผักที่มีราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายตลอดทั้งปี แม้ว่าฤดูกาลของพริกหยวกจะเป็นช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคมก็ตาม พริกหยวกสีเขียวเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินซีในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน

โดยวิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงและทำให้ผิวพรรณสวยงาม มีวิตามินพีซึ่งช่วยปกป้องวิตามินซี ไม่ให้ถูกทำลายโดยความร้อนและช่วยให้การดูดซึมของวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายได้ดี บีต้า แคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยให้ผิวพรรณสวยงาม เสริมสร้างความแข็งแรงของสุขภาพตาและช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น หัวใจและความดันโลหิตสูง เป็นต้น วิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันไม่ให้แก่ก่อนวัย และเควอซิติน (Quercitrin) ซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งที่ช่วยป้องกันความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นต้น

 

เคล็ดลับการนำพริกหยวกมารับประทานให้อร่อยแบบไม่เหม็นเขียวและไม่ขม

การหั่นพริกหยวกตามยาวผล
พริกหยวกมีการเรียงตัวของเส้นใยตามความยาวของผล การหั่นพริกหยวกตามความยาวผลจะไม่ทำลายเส้นใย ทำให้พริกหยวกมีความกรอบและไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว การหั่นตามขวางจะไปทำลายเส้นใบพริกหยวกและทำให้กลิ่นเหม็นเขียวระเหยออกมา



การทอดหรือลวกพริกหยวกในน้ำมัน
พริกหยวกมีส่วนประกอบของสารที่ทำให้เกิดรสขมได้แก่ เควอซิตินและสารที่ให้กลิ่นเหม็นเขียว การนำพริกหยวกมาทอดในน้ำมันหรือลวกในน้ำมันก่อนนำมาผัดจะช่วยลดความขมของพริกหยวกได้ เพราะเควอซิตินและสารที่ให้กลิ่นเหม็นเขียว เป็นสารที่มีคุณสมบัติละลายในน้ำมันและละลายออกสู่น้ำมันในระหว่างการทอดหรือการลวก

 

การเลือกใช้พริกหยวกปรับปรุงพันธุ์
ปัจจุบันมีพริกหยวกที่ผ่านการปรับปรุงพันธุ์เพื่อลดกลิ่นเหม็นเขียวและมีรสขมน้อยวางจำหน่ายในชื่อโคะโดะโมะ พีมัง (こどもピーマン) เพื่อให้คนญี่ปุ่นเลือกซื้อนำไปปรุงเป็นอาหารให้เด็กรับประทานได้

 

ทั้งนี้หากชอบกลิ่นและรสขมของพริกหยวก รวมถึงชอบพริกหยวกรสสัมผัสนิ่มก็แนะนำให้หั่นตามขวางและนำไปปรุงอาหารตามชอบ โดยทั่วไปคนญี่ปุ่นมีวิธีการนำพริกหยวกที่หั่นตามขวางมารับประทานง่ายๆ โดยการนำเข้าไมโครเวฟที่ 600 วัตต์ เป็นเวลา 2 นาที แล้วนำมารับประทานกับซอสปรุงรสหรือซอสเปรี้ยว

 

ผู้เขียนเองไม่เคยชอบพริกหยวกมาก่อน แต่เมื่อมาอยู่ญี่ปุ่นได้ยินเพื่อนญี่ปุ่นชอบนำพริกหยวกมาเป็นประเด็นในการพูดเพื่อจะให้ลูกของตนกินพริกหยวกให้ได้ ก็รู้สึกว่าน่าสนใจดี ตอนนี้พริกหยวกกลายเป็นผักประจำบ้านไปแล้วเพราะวิธีการปรุงแบบไม่ให้ขมถูกใจลูกๆ ผู้เขียนมากค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook