รู้แล้วเลี่ยงด่วน 7 อาหารทำลายสุขภาพที่แม่ท้องไม่ควรทาน

รู้แล้วเลี่ยงด่วน 7 อาหารทำลายสุขภาพที่แม่ท้องไม่ควรทาน

รู้แล้วเลี่ยงด่วน 7 อาหารทำลายสุขภาพที่แม่ท้องไม่ควรทาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การทานอาหารของคุณแม่ตั้งครรภ์ควรผ่านการใส่ใจในเรื่องสารอาหารและความสะอาดเป็นหลัก เพราะอาหารที่คุณแม่ทานเข้าไปย่อมส่งผลไปยังลูกน้อยในครรภ์เสมอ ดังนั้นหากต้องการให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่มีภูมิต้านทานที่ดี คุณแม่ควรเริ่มบำรุงตัวเองด้วยอาหารดีมีประโยชน์ตั้งแต่เริ่มรู้ว่ามีตัวน้อย ในขณะเดียวกันก็ต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของคุณแม่และลูกในครรภ์ด้วย มาดูกันค่ะว่ามีอาหารชนิดใดบ้างที่คุณแม่ไม่ควรทาน


1.ปลาดิบ
เหตุผลที่คุณแม่ไม่ควรทานปลาดิบในขณะตั้งครรภ์ เพราะหากปลาดิบที่ทานเข้าไปไม่มีความสดมากพอ จะมีเหล่าพยาธิหรือปรสิตที่ส่งผลร้ายต่อลูกในครรภ์ ดังนั้นแนะนำให้ทานปลาที่ผ่านการปรุงสุกเพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า แต่ในกรณีที่คุณแม่อยากทานปลาดิบมากๆ จนอาจส่งผลทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดได้ง่าย แนะนำให้เลือกร้านที่มีปลาที่สดและสะอาดจริงๆ


2.ชีสสด
บรรดาชีสที่มีลักษณะเป็นชีสสด เช่น มอสซาเรล่า รีคอตต่า เฟต่า และชีสนมแพะ แม้จะเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและวิตามินหลายชนิด แต่ก็เป็นอาหารที่มีโอกาสเป็นที่อยู่ของเชื้ออีโคลายและลิสเทอริโอซิส ซึ่งเชื้อโรคทั้งสองชนิดนี้เป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์และตัวคุณแม่เอง


3.เนื้อสัตว์แปรรูป
เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก โบโลน่า แฮม รวมถึงอาหารกระป๋องและอาหารสำเร็จรูปทั้งหลาย ล้วนเป็นอาหารที่มีการใส่สารกันเสีย แต่งสี และกลิ่นสังเคราะห์ค่อนข้างมาก ซึ่งสารเหล่านี้ก่อให้เกิดผลเสียต่อการตั้งครรภ์ของคุณแม่สูงมาก ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในขณะตั้งครรภ์ คุณแม่ควรทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หากทำกินเองที่บ้านได้ก็จะยิ่งดี เพราะมั่นใจในสารอาหารที่จะได้รับครบถ้วน และยังมั่นใจในความปลอดภัยจากสารปนเปื้อนอีกด้วย


4.สลัดตามร้านอาหาร
แม้ว่าสลัดจะเป็นอาหารที่ให้ประโยชน์แก่สุขภาพร่างกายของคนท้อง แต่สลัดตามร้านอาหารก็ถือเป็นอาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากคุณแม่ไม่สามารถมั่นใจในความสะอาดของผักได้เลย อีกทั้งยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงสลัดที่ผ่านการปรุงนานเกินไป  ซึ่งก็ถือเป็นกระบวนการที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่อย่างมาก เพราะในสลัดอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อลิสเทอริโอซิส เป็นเชื้อที่มีโอกาสทำให้แท้งได้


5.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์คือเครื่องดื่มต้องห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะแอลกอฮอล์ที่เข้าไปในร่างกายจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว และจะไหลเข้าสู่ตัวลูกน้อยในครรภ์ผ่านทางสายสะดือ เสี่ยงต่อการทำให้ลูกน้อยในครรภ์มีโอกาสคลอดก่อนกำหนด และบางรายถึงขั้นพิการแต่กำเนิด ร่างกายไม่เจริญเติบโต และศีรษะมีขนาดเล็กกว่าปกติ


6.เครื่องดื่มประเภทคาเฟอีน
คาเฟอีนจากเครื่องดื่มชา กาแฟ หรือช็อกโกแลต สามารถดูดซึมจากร่างกายผ่านสายสะดือไปสู่ลูกน้อยในครรภ์ได้ และยังมีโอกาสทำให้คุณแม่ท้องผูกได้ง่าย รวมทั้งสารแทนนินที่อยู่ในชายังคอยขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก ที่สำคัญคุณแม่ไม่ควรดื่มชาดอกคำฝอยเป็นอันขาด เพราะมีฤทธิ์ทำให้มดลูกบีบตัว ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่อย่างมาก


7.อาหารที่คุณแม่ทานแล้วแพ้
ในขณะตั้งครรภ์ คุณแม่อาจมีความรู้สึกอยากทานอาหารหลากชนิด และอาจรวมถึงอาหารที่คุณแม่แพ้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นต่อให้คุณแม่ต้องการทานอาหารที่ตัวเองแพ้มากแค่ไหนก็ตาม ควรยับยั้งและอดทนให้ได้มากที่สุด เพราะการทานอาหารที่ตัวเองแพ้อาจทำให้ลูกในครรภ์มีโอกาสแพ้เพิ่มมากถึง 60% เลยทีเดียว

ทราบอย่างนี้คุณแม่ตั้งครรภ์อาจจะเน้นในเรื่องอาหารที่มีประโยชน์อย่างเดียวไม่ได้แล้ว เพราะร่างกายของคุณแม่แต่ละคนอาจมีประวัติแพ้อาหารที่แตกต่างกัน ซึ่งบางคนอาจแพ้แม้กระทั่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ในเรื่องอาหารการกินที่เหมาะสำหรับตัวเอง เพื่อให้เกิดผลดีต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์เองด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook