เช็กให้ชัวร์ก่อนหน้าพัง เครื่องสำอางหมดอายุหรือยัง?

เช็กให้ชัวร์ก่อนหน้าพัง เครื่องสำอางหมดอายุหรือยัง?

เช็กให้ชัวร์ก่อนหน้าพัง เครื่องสำอางหมดอายุหรือยัง?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เครื่องสำอาง เป็นสารที่ใช้เพิ่มเติมความสวยงามให้กับร่างกายมนุษย์ ซึ่งในปัจจุบันการใช้เครื่องสำอางมีอย่างแพร่หลาย ทั้งในกลุ่มผู้หญิงและผู้ชาย โดยการผลิตเครื่องสำอางในช่วงแรก ๆ นั้น ยังมีกรรมวิธีการผลิตที่ไม่แน่นอน เครื่องสำอางบางประเภทมีขายเฉพาะในร้านขายยา จนเมื่อเครื่องสำอางแต่ละชนิดมีเครื่องหมายการค้าที่ชัดเจน และมีกรรมวิธีในการผลิตที่แน่นอน ทำให้เครื่องสำอางมีคุณภาพที่สูงขึ้น

แต่ด้วยในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ผู้คนต่างต้องการสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง จนอาจจะไม่ได้สนใจถึงความปลอดภัย และคิดถึงเพียงคำโฆษณาชวนเชื่อกับราคาโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม บางคนซื้อเครื่องสำอางมามากมายหลายชิ้นแต่ไม่ได้ดูเลยว่า วันเดือนปีของผลิตภัณฑ์นั้นจะหมดอายุเมื่อไหร่ วันนี้ Tonkit360 จึงมีวิธีการตรวจสอบเครื่องสำอางหมดอายุดูยังไงมาฝากกัน

เครื่องสำอางหมดอายุรึยัง ดูยังไง?

1. ตรวจสอบจากผลิตภัณฑ์
หลักการง่าย ๆ ของการตรวจเช็กว่า เครื่องสำอางหมดอายุหรือยัง คือหากแบรนด์นั้นมีมาตรฐานอยู่แล้ว บนผลิตภัณฑ์จะต้องบอกรายละเอียดการผลิตชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ ที่อยู่ของบริษัทผู้ผลิต หรือบริษัทนำเข้า รวมถึงวันที่ผลิต และวันหมดอายุ หากไม่มีหรือระบุแบบกำกวม ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่าผลิตภัณฑ์นั้นอาจจะไม่ปลอดภัย และไม่ควรเลือกซื้อมาใช้งาน

2. นับจากวันที่เริ่มเปิดใช้งาน
อายุของเครื่องสำอางแต่ละชนิด สามารถนับจากวันที่เปิดใช้ครั้งแรกได้ ส่วนในกรณีการเลือกซื้อเครื่องสำอาง ควรเลือกซื้อเครื่องสำอางที่เพิ่งผลิตมาได้ไม่เกิน 6 เดือนถึงจะดีที่สุด ทริคสำหรับคนขี้ลืมให้ทำโน้ตเล็ก ๆ ติดแปะไว้ที่เครื่องสำอางเลยก็ได้ ว่าเราเปิดใช้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ครั้งแรกเมื่อวันที่เท่าไหร่ ส่วนคนที่ความจำดีก็กะเวลาเอาได้ว่าผลิตภัณฑ์น่าจะหมดอายุช่วงใด

3. ตรวจสอบจากเว็บไซต์
โดยปกติเครื่องสำอางจะมีโค้ด ที่เป็นตัวเลขหรือตัวหนังสือก็แล้วแต่ ปรากฏอยู่บนผลิตภัณฑ์แทบทุกยี่ห้อ หากเป็นแบบหลอดจะอยู่ตรงปลายหลอด ซึ่งสามารถนำรหัสไปตรวจสอบที่เว็บไซต์ของผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนั้น ๆ ได้เลย เท่านี้ก็จะทราบแล้วว่าเครื่องสำอางจะมีอายุการใช้งานได้กี่ปี ไม่ว่าจะเปิดใช้หรือไม่ก็ตาม อีกประการหนึ่งคือหลังจากเปิดใช้แล้ว จะมีอายุได้อีกเท่าไหร่ ให้ดูจากสัญลักษณ์ที่เป็นรูปกระปุกที่มีตัวเลขแจ้ง เช่น หากเป็น 24M เครื่องสำอางของเราใช้มาแล้ว 1 ปี หมายความว่าเราจะสามารถใช้ได้อีก 1 ปี เท่านั้น

Tip ยืดอายุการใช้งานเครื่องสำอาง : ปิดฝาให้สนิท ใช้คอตตอนบัดแทนการใช้นิ้วสัมผัส ในประเภทพวกครีมรองพื้น เลือกผลิตภัณฑ์ครีมแบบชนิดขวดปั๊ม เพื่อป้องกันอากาศและฝุ่นละออง หมั่นล้างทำความสะอาดพัฟ แปรงแต่งหน้าต่าง ๆ ให้เกลี้ยงและสะอาด เพราะความมันและแบคทีเรียจากผิวหน้า อาจปนเปื้อนทำให้เครื่องสำอางหมดอายุเร็วขึ้น

เครื่องสำอางแต่ละประเภท อยู่ได้นานเท่าไหร่?

  • รองพื้นแบบสูตรน้ำ หลังจากเปิดใช้จะมีอายุราว 1 ปี รองพื้นแบบสูตรน้ำมัน จะใช้ได้ 1 ปีครึ่ง ถ้าคุณสังเกตเห็นสีที่เปลี่ยนไป หรือมีกลิ่นไม่ดีก่อนเวลา ควรทิ้งแล้วซื้ออันใหม่

  • คอนซีลเลอร์ สามารถใช้ได้ 1 ปี แต่ถ้าเริ่มแห้งแข็งก็ควรเปลี่ยนใหม่

  • แป้งฝุ่นหรือแป้งพัฟ จะใช้ได้นานถึง 2 ปี ส่วนแป้งแข็งจะอยู่ได้ราว 1 ปี เพราะน้ำมันที่สะสมอยู่ในพัฟที่ใช้ จะทำให้มันเสียได้ง่ายกว่า

  • บลัชออน / อายแชโดว์ สามารถใช้ได้นานถึง 3 ปี แต่ถ้าหากมันมีสีซีดจางลง เนื้อแป้งเริ่มแตกร่อนหรือด้าน ทาแล้วเนื้อสีไม่ติดผิว ก็ควรทิ้งแล้วซื้อใหม่

  • อายไลเนอร์ อายุในการใช้งานไม่เกิน 1 ปีหรือปีครึ่ง หากเนื้อผลิตภัณฑ์ดูแห้ง และจับตัวเป็นก้อนให้เปลี่ยนอันใหม่ เพราะอายไลเนอร์เป็นเครื่องสำอางที่ใช้ใกล้บริเวณดวงตา ฉะนั้นต้องระมัดระวังวันหมดอายุ

  • มาสคาร่า ใช้ได้ราว 3-4 เดือน หากใช้นานกว่านั้นจะมีลักษณะแห้งแข็งและทาได้ยาก แนะนำว่าก่อนดึงแปรง ให้เขย่าขวดสัก 2-3 ครั้ง หลีกเลี่ยงการปาดแปรงที่ปากขวด เพราะมาสคาร่าจะแห้งติดทำให้ปิดฝาไม่สนิท

  • ดินสอเขียนขอบตา / ปาก อยู่ได้นาน 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา แนะนำว่าควรเหลาอยู่เสมอ เพื่อกำจัดเนื้อผลิตภัณฑ์เก่าออก หากเนื้อดินสอเริ่ม และเขียนไม่ติดให้ทิ้งแล้วซื้อใหม่ได้เลย

  • ลิปสติก อยู่ได้นาน 1-2 ปี วิธีที่ดีที่สุดที่จะตัดสินก็คือ ดมว่ามันมีกลิ่นค่อนข้างฉุนแปลกไปจากเดิมหรือเปล่า และยิ่งหากมีน้ำมันออกมาล่ะก็ให้เอาทิ้งได้เลย ส่วนลิปกลอสควรใช้พู่กันเกลี่ย เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกจากมือและริมฝีปากไปสะสมที่ลิป หากหมดอายุเนื้อเจลจะเหนียวขึ้นกว่าเดิม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook