ว้าว...เทรนด์ใหม่ เบบี้ Foot แย่งซีนเบบี้ Face

ว้าว...เทรนด์ใหม่ เบบี้ Foot แย่งซีนเบบี้ Face

ว้าว...เทรนด์ใหม่ เบบี้ Foot แย่งซีนเบบี้ Face
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เรื่อง ความสวยความงาม สำหรับผู้หญิงนี่ เป็นอะไรที่ต้อง สวยตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า จริงๆ ล่าสุด เธอ เธอ เธอ กำลังฮิต เทรนด์ เท้าเนียนเด้ง น่าสัมผัส ดุจดั่ง...เท้าเด็ก!! BABY FOOT บำรุงเท้า แช่เท้า นวดเท้าเทรนด์นี้ เริ่มมาจากประเทศญี่ปุ่น ที่ประดิษฐ์คิดค้นนวัตกรรมใหม่ "ชุดผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพฝ่าเท้า" หรือ "เบบี้ ฟุต" (baby foot) ในการดูแลผิวเท้าในรูปแบบของ "ถุงเท้า" ที่จะเปลี่ยนผิวหนังอัน "หยาบกร้าน ด้าน แตก" ให้ "ใส เนียนนุ่ม" ทันตาเห็น!! จากนั้น กระแสฮิตก็เข้ามาในกลุ่มสาวไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา มีโฆษณาลงตามนิตยสารวัยรุ่น และนิตยสารผู้หญิงทั่วไป ระยะเวลาเพียง 2-3 เดือน "เบบี้ ฟุต" "ฮ็อต" ชนิดฉุดไม่อยู่ จากการไปตระเวนสำรวจร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายเบบี้ ฟุต ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว เภสัชกรสาวสวยผู้มีหน้าที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามต่างๆ บอกว่า เบบี้ ฟุต กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มนักศึกษา และสาววัยทำงาน ขณะนี้ สินค้ากำลังเป็นที่ต้องการมาก และกำลังขาดตลาด ซึ่งทางร้านต้องเปิดให้ลูกค้าสั่งจอง โดยเขียนชื่อและเบอร์โทรศัพท์ เพื่อจะติดต่อกลับไปเมื่อสินค้ามาถึงร้าน และไม่ใช่เพียงที่ร้านเท่านั้นที่สินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ร้านสาขาต่างๆ หลายร้านก็ประสบปัญหาแบบเดียวกัน "ลูกค้าเป็นผู้หญิงที่ประสบปัญหาผิวหนังบริเวณเท้าหยาบกร้าน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการสวมใส่รองเท้าคับหรือรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานานๆ พวกเธอบอกว่า ไม่ชอบผิวที่แตกและหยาบกร้าน เพราะทำให้เสียบุคลิก" เภสัชกรกล่าว แม้ราคาของ "เบบี้ ฟุต" จะค่อนข้างแพง กล่องละ 790 บาท แต่สาวๆ ก็ "สู้ราคา" BABY FOOT บำรุงเท้า แช่เท้า นวดเท้าอีกทั้ง...เมื่อเปิดกล่องออกมา นอกจากจะมีถุงเท้าเบบี้ ฟุต แล้ว ยังมีขั้นตอนการทำ โดยสวมเท้าลงไปในถุงเท้าที่มีเจลสกัดจากผลไม้ 17 ชนิด เป็นเวลา 2 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด กรดผลไม้จะทำปฏิกิริยากับผิวหนังหยาบกร้านในหลุดลอกออกไป โดยระยะเวลาการหลุดลอกแล้วแต่อาการของแต่ละคน เรียกว่า...สวยในพริบตา "พิมพ์" สาวแบงก์วัย 25 ปี ผู้นำแฟชั่นทดลองเบบี้ ฟุต มาแล้ว 2 เดือน บอกเหตุผลที่ใช้ว่า เป็นคนที่มีปัญหาเรื่องเท้าแตก ทุกครั้งที่เดินนานๆ จะเจ็บซึ่งเป็นความเจ็บปวดที่รักษาไม่หาย เพราะเคยแก้ปัญหามาสารพัดวิธีแล้ว ทั้งทาครีม ใช้หินขัด รวมทั้งเข้าร้านเสริมสวยให้ร้านตัดหนังที่แข็งออกไป แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น ไม่นานก็กลับมาเป็นอีก อีกหนึ่งสาวที่ไม่ยอมตกเทรนด์ "ครีม" สาวนักการตลาด บริษัทแห่งหนึ่ง วัย 27 ปี บอกว่า เธอสนใจเบบี้ ฟุต เพราะปัญหาที่ไม่ต่างจากพิมพ์ แต่จะใช้แค่ครั้งเดียว เพราะราคาค่อนข้างแพง "หลายคนอาจคิดว่า เว่อร์ ที่แม้แต่เท้าก็ยังต้องสวย แต่ถ้าใครมีปัญหาฝ่าเท้าหยาบกร้าน หรือส้นเท้าแตกอย่างรุนแรง จะเข้าใจว่า มันเป็นส่วนที่ต้องให้ความสำคัญเหมือนกัน เพราะเท้าเป็นอวัยวะที่รองรับน้ำหนักของตัวเรา เป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เหมือนกับส่วนอื่นๆ ในร่างกาย" อย่างไรก็ตาม ครีมบอกว่า หากใครไม่มีปัญหาเท้าแตก และกร้านสุดสุดเหมือนเธอ ก็ไม่แนะนำให้ซื้อมาใช้ เพราะราคาแพง และใช้เพียงครั้งเดียวต้องทิ้ง เพียงแค่ซื้อครีมสำหรับเท้ามาใช้ และหมั่นดูแลสุขภาพเท้าให้ดีอยู่เสมอก็เพียงพอแล้ว เทรนด์ใหม่ของสาวๆ ที่ไม่ได้มีแค่ เบบี้ เฟซ หากสมัยนี้ต้อง เบบี้ ฟุต ด้วย ถูกๆ (เท้า) ก็สวยได้ BABY FOOT บำรุงเท้า แช่เท้า นวดเท้าพญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคผิวหนัง รมย์รวินท์คลินิก บอกว่า ยุคนี้คนจะให้ความสำคัญกับผิว โดยผิวบริเวณเท้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา การใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งเท้าที่หนาเกินไป หรือส้นเท้าแตก นอกจากจะทำให้ดูไม่ดีแล้ว ยังอาจทำให้เกิดการเจ็บปวดบริเวณนั้นๆ ได้ อีกทั้งยังอาจแตกเป็นแผล หรือมีเชื้อโรคเข้าไปได้ การดูแลฝ่าเท้าจึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน "ผิวหนังที่หยาบกร้านสามารถขจัดออกไปได้ แต่ไม่ควรมากเกินไป เพราะจะต้องใช้เป็นปราการปกป้องผิว เนื่องจากเท้าเป็นส่วนที่ต้องมีการเสียดสี หากผิวหนังเท้าไม่หนา จะเสียดสีกับรองเท้า หรือพื้นไม่ได้ อีกทั้งยังทำให้เจ็บ เชื้อโรคเข้าไปได้ง่าย และรับน้ำหนักตัวได้ไม่ดี" พญ.ฐานิสรย้ำว่า การจะมีผิวเท้าที่นุ่มนวล ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง แค่ดูแลด้วยการสวมถุงเท้าเป็นประจำ ทาครีมบำรุงผิวให้ความชุ่มชื่น อาจใช้หินขัดถูกหรือลอกส่วนที่หนาออกไปบ้างเป็นบางครั้ง หรือทาครีมช่วยลอกฝ่าเท้า ที่มีส่วนผสมของกรดยูเรีย กรดซาลิไซลิค หรือกรดผลไม้ ก็จะช่วยทำให้นุ่มนวลไม่หยาบกร้านได้

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ ว้าว...เทรนด์ใหม่ เบบี้ Foot แย่งซีนเบบี้ Face

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook