ข้อควรรู้ของผู้สูงอายุ ก่อนฝึกโยคะ เพื่อความปลอดภัย ไม่อันตราย

ข้อควรรู้ของผู้สูงอายุ ก่อนฝึกโยคะ เพื่อความปลอดภัย ไม่อันตราย

ข้อควรรู้ของผู้สูงอายุ ก่อนฝึกโยคะ เพื่อความปลอดภัย ไม่อันตราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การออกกำลังกายด้วยท่าทางของโยคะที่เป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างร่างกาย อารมณ์ และสมาธิ ไม่ได้รับความนิยมจากกลุ่มของคนทำงานเพียงเท่านั้น แต่ในวัยผู้สูงอายุก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นการออกกำลังที่มีความปลอดภัย แต่ก่อนที่ผู้สูงอายุจะทำการฝึกโยคะ ควรรู้เรื่องดังต่อไปนี้


1.ฝึกอย่างปลอดภัย
การฝึกฝนโยคะในช่วงเริ่มต้นของผู้สูงอายุต้องเป็นไปอย่างปลอดภัย และจะต้องมีครูผู้ฝึกสอนท่าโยคะอยู่ใกล้ตัวเสมอ  เพราะจะช่วยให้คำแนะนำที่ถูกต้องและจัดท่าทางที่เหมาะสมต่อผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บต่าง ๆ


2.เลือกท่าที่เหมาะสม
เมื่อเริ่มฝึกฝนโยคะจนเกิดความชำนาญหรือสามารถที่จะออกกำลังกายได้ด้วยตัวเองแล้ว ควรเลือกท่าทางที่เหมาะสมต่อผู้สูงอายุเท่านั้น ไม่ควรเลือกท่าที่ผาดโผนหรือเสี่ยงต่ออันตรายมากจนเกินไป เพราะอาจจะส่งผลกระทบในเรื่องของกระดูกและข้อต่อต่าง ๆ โดยให้เลือกท่าที่สามารถเชื่อมโยงระหว่างร่างกายกับสมาธิได้เป็นอย่างดี


3.ถ้าเหนื่อยต้องพัก
เมื่อใดที่เริ่มฝึกโยคะแล้วรู้สึกเหนื่อยหอบผิดปกติ รวมไปถึงอาการเหนื่อยก่อนการเริ่มฝึก ควรหยุดการฝึกโยคะนั้นทันที ไม่ควรฝืนทำต่อไปเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาใหญ่ได้ เพราะโรคของผู้สูงอายุบางโรคอาจจะกำเริบขึ้นในระหว่างการออกกำลังกายได้เสมอ


4.ปรึกษาแพทย์ก่อนทำโยคะ
สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ โรคไต และโรคต่าง ๆ ที่จะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ต้องมีการกินยาอย่างต่อเนื่อง ก่อนการฝึกโยคะควรปรึกษากับแพทย์เฉพาะด้านหรือแพทย์ประจำโรคก่อน เพราะแพทย์จะรู้ดีว่าการออกกำลังกายในรูปแบบใดที่เหมาะสมต่อคนไข้ของตนเอง ไม่ควรรีบออกกำลังกายโดยไม่ปรึกษาแพทย์ ไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตได้


5.ทำอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อได้ท่าการออกโยคะที่เหมาะสม มีการปรึกษาแพทย์และได้รับอนุญาตให้ออกกำลังด้วยโยคะได้แล้ว เรื่องต่อมาที่ควรทำ คือ ควรออกกำลังด้วยโยคะเป็นประจำและมีความสม่ำเสมอ ด้วยการออกโยคะสัปดาห์ละประมาณ 3-5 วัน เพื่อเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ เพิ่มความคล่องตัว และทำให้สุขภาพมีความแข็งแรง นอกจากนี้ควรวอร์มร่างกายก่อน เพื่อทำให้เกิดความพร้อมต่อร่างกายในส่วนต่าง ๆ มากขึ้น สำหรับการวอร์มนั้นควรอยู่ที่ประมาณ 5-10 นาที เพื่อลดอาการบาดเจ็บและช่วยทำให้การออกท่าทางโยคะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้ว่าการทำโยคะจะมีความปลอดภัยต่อทุกเพศและทุกวัย แต่ทั้งนี้ผู้สูงอายุจะมีร่างกายที่ค่อนข้างอ่อนแอกว่าคนในวัยอื่น ๆ รวมไปถึงการมีโรคประจำตัว ดังนั้นจึงควรระมัดระวังการออกกำลังด้วยโยคะที่อาจจะก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บและส่งผลต่อสุขภาพได้ง่าย ทางที่ดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์และเลือกใช้บริการครูฝึกที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้สูงอายุมากขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook