ลดขนาดเต้านม และแก้ไขหน้าอกหย่อนยาน

สาว ๆ หลาย ๆ คนใฝ่ฝันจะมีหน้าอกใหญ่ ถ้าหากเดิมมีขนาดเล็กต้องเสาะหาวิธีสารพัดที่ทำให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม มีสาวหลาย ๆ คนทีเดียวที่เกิดมาพร้อมกับขนาดของเต้านมมโหฬาร จนบางครั้งเรียกว่าเกินความพอดี บางคนอาจจะรู้สึกอิจฉาคิดถามในใจว่า ทำบุญด้วยอะไรหนอจึงมีหน้าอกหน้าใจใหญ่โตขนาดนั้น แต่ถ้าลองได้ถามเจ้าของเต้านมที่มีขนาดใหญ่เกินความพอดีดูจริง ๆ แล้ว จะพบว่า คำตอบมักจะไม่ใช่สิ่งที่น่าดีใจอย่างที่คิดแต่อย่างใด แต่มันเป็นปัญหาอย่างใหญ่หลวงเสียด้วยซ้ำ จนเจ้าตัวอยากที่จะลดขนาดมันลงมา ในตอนนี้หมอจะเล่าถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ การผ่าตัดลดขนาดเต้านมให้ฟัง เพราะมีคนถามเหมือนกันว่า มีคนทำกันด้วยหรือ ? ไอ้การผ่าตัดลดขนาดเต้านมน่ะ เพราะเห็นมีแต่ต้องการใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ขอตอบว่า มีครับ และมีทำกันมากด้วย โดยเฉพาะในต่างประเทศเรื่องเต้าใหญ่เป็นเรื่องที่เป็นปัญหามากเสียด้วย ในบ้านเราก็มีมากพอสมควร ถึงแม้จะไม่มากเท่าในต่างประเทศ เพราะขนาดรูปร่างของคนไทยนั้นไม่ใหญ่โตเท่าฝรั่ง คราวนี้มาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพในกรณีที่มีเต้านมโตมาก ๆ นั้นว่ามีอะไรบ้าง พอจะสรุปได้ดังต่อไปนี้ครับ 1. มีผลต่อจิตใจ คนที่มีเต้านมโตมาก ๆ นั้น ไม่ใช่คนที่มีความสุขหรอกนะครับ จะเดินเหินไปไหนก็มักจะมีความลำบาก เนื่องจากใคร ๆ ก็คอยจะมองดู บางครั้งก็ชอบซุบซิบ บางคนก็ถึงกับปล่อยโฮออกมาเลย เสื้อผ้าก็มักจะต้องหาพวกที่ตัวใหญ่ ๆ คอยคลุมปิดบังไม่ให้ดูเด่นเกินหน้าเพื่อให้ดูดีขึ้น สายเดี่ยวเกาะอกไม่ต้องพูดถึง เวลาพบปะผู้คนก็มักจะไม่ค่อยมั่นใจ 2. มีผลต่อสุขภาพกาย การมีเต้านมโตนั้นมีผลต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมากพอดูครับ เริ่มต้นจากโครงสร้างของกระดูกสันหลังไล่จากคอลงมา การมีน้ำหนักถ่วงที่ด้านหน้านั้นทำให้เจ้าตัวต้องพยายามเกร็งตัวสู้ เพื่อทรงตัวให้ตรงให้ได้ตลอดเวลา กระดูกคอมักจะแอ่นมากกว่าปกติ กระดูกช่วงหลังจะมีการโค้งไปทางด้านหลังมากขึ้น สังเกตว่าเมื่อเจ้าตัวกลับถึงบ้านหลัง จากที่ออกไปทำงานทั้งวันแล้วจะมีอาการปวดคอ ปวดหลังเป็นอย่างมาก เรียกว่าเดี้ยงไปเลยก็มี และเป็นอย่างนี้ซ้ำซากทุกวัน ๆ จนบางครั้งกลายเป็นโรคกระดูกสันหลังเสื่อมไปเลย นอกจากนั้นเต้านมที่โตจะมีการดึงรั้งของแผงกล้ามเนื้อหน้าอก ทำให้เกิดการกดเบียดของเส้นประสาทที่เลี้ยงแขนและมือได้ ผลก็คือ มีอาการชาเกิดขึ้นที่บริเวณปลายมือ นิ้วก้อยได้ เต้านมที่ใหญ่ยังจะมีการถูไถของเนื้อหน้าอกส่วนที่อยู่ใต้ราวนม และเป็นเหตุให้เกิดอาการอับชื้นแฉะ และมีแผลถลอกเกิดขึ้นได้ บางครั้งมีการอักเสบเป็นเชื้อรา เวลาสวมเสื้อชั้นใน เพื่อประคองเต้านมขนาดโตนั้น สายของเสือชั้นในจะต้องรับน้ำหนักมาก จะเกิดร่องกดทับที่บริเวณบ่า บางครั้งเกิดแผลถลอก หรือแผลเป็น ๆ หาย ๆ ได้อีกด้วย จะเห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้เป็นเจ้าของเต้านมได้มากทีเดียว จึงเป็นเหตุให้ต้องมาหาหมอ เพื่อแก้ไขเต้านมนั้นให้มีขนาดเล็กลง และเหมาะสมกับขนาดของเจ้าตัวในที่สุด ทีนี้ เมื่อคนไข้มาหาหมอเพื่อให้แก้ไขขนาดเต้านมนั้นมีรายละเอียดอะไรบ้าง เรามาอ่านกันต่อครับ ก่อนอื่นต้อง แบ่ง กลุ่มอายุคร่าว ๆ ก่อน แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นกลุ่มวัยรุ่น ในกลุ่มแรกนี้เราจะ ๆ พบว่าขนาดเต้านมจะมีขนาดใหญ่ โดยเป็นเนื้อต่อมเต้านมล้วน ๆ มีลักษณะตั้ง เต้าได้รูปทรงผิวหนัง ไม่หย่อนยานมาก บางครั้งก็มีไขมันรอบเต้านมมากด้วย ซึ่งก็มักจะตุ้ยนุ้ยพอสมควร กลุ่มสอง เป็นวัยที่ผ่านการมีบุตรแล้ว และรวมถึงวัยสูงอายุ ในกลุ่มที่สองนี้จะมีขนาดเต้านมใหญ่ เนื้อเต้านมเหลวหย่อนยานและไม่เต่งตึง อาจจะเกิดจากอายุมากขึ้นหรือผ่านการมีบุตรมาหลายคน ทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นและคล้อยห้อยลงมากกว่าปกติ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณมีเต้านมใหญ่เกินไป? จริง ๆ ปริมาตรของเต้านมหากเทียบวัดคงจะชี้ชัดได้ยาก เนื่องจากต้องสัมพันธ์กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ส่วนสูง ขนาดลำตัว เชื้อชาติ เป็นต้น ดังนั้นการจะบอกว่าขนาดเต้านมใหญ่เกินไปหรือไม่ หมอขอแนะนำว่าให้ดูจากเพื่อนรุ่นเดียวกัน ประกอบกับการมีอาการร่วม ซึ่งเป็นผลจากการที่มีขนาดหนาอกใหญ่หรือหย่อนยานเกินไป ดังที่ได้กล่าวเกริ่นมาแล้วข้างต้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อช่วยตัดสินใจว่า มีเต้านมขนาดใหญ่ หรือหย่อนยานเกินไปสำหรับคุณหรือไม่ ถ้าดูแล้วคุณรู้สึกว่าชั้นก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร ก็ไม่มีปัญหาอะไร ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละครับแต่ถ้าดูแล้วรู้สึกว่ามันใหญ่เกินหน้าเกินตาเกินกว่าเพื่อนฝูงธรรมดา และยังสร้างปัญหาตามที่หมอได้บอกไว้ ก็ไม่ต้องตกอกตกใจไปนะครับ หมอมีวิธีรักษา มาปรึกษาหมอเถอะครับ การลดขนาดของเต้านม หรือเพื่อแก้ไขเต้านมที่หย่อนยานนั้นแพทย์จะใช้วิธีการผ่าตัดลดขนาดลง ส่วนวิธีการผ่าตัดที่นิยมในปัจจุบันนั้นมีหลายร้อยวิธีด้วยกันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ ความชำนาญรวมทั้งขนาดเต้านมของคนไข้เป็นหลักในการเลือกวิธีการผ่าตัดแต่ทั้งหมด ก็มักจะมีหลักการสำคัญ คล้ายๆ กันนั่นคือ 1. ต้องมีการตัดเต้านมส่วนเกินออก 2. มีการเลื่อนระดับหัวนมขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม 3. ต้องตัดแต่งผิวหนังและไขมันรอบเนื้อนมที่หย่อนยานออก เพื่อเย็บสร้างเต้านมให้มีรูปทรงและขนาดที่เหมาะสมสวยงามขึ้น รวมทั้งกระชับส่วนที่หย่อนยานด้วย จะเห็นได้ว่ากระบวนการดังกล่าวจะต้องมีแผลเย็บค่อนข้างจะมาก แต่ในกรณีที่ลดขนาดไม่มาก แพทย์อาจจะผ่าตัดเข้าเฉพาะที่ปานหัวนมอย่างเดียว ทำให้มีแผลเย็บเกิดขึ้นรอบปานนมเท่านั้นก็ได้ แต่ถ้าหากต้องลดขนาดมากแพทย์ก็จำเป็นต้องตัดเนื้อเต้านมออกไปมาก แผลเย็บจะต้องมีขนาดยาวและมาก เป็นรูปร่างคล้ายตัว T หัวกลับ หรือสมอเรือ ทั้งนี้ทั้งนั้นรูปทรงของเต้านมที่ได้อาจจะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ดังนั้นก่อนจะทำการผ่าตัดหมอขอแนะนำว่าคุณควรจะได้พูดคุยรายละเอียดเรื่องนี้กับแพทย์ให้ดี และสอบถามแพทย์ที่ปรึกษาให้ละเอียดด้วย ทางที่ดีหากมีสามีมาพูดคุยสอบถามด้วยก่อนการตัดสินใจ จะเป็นการดียิ่ง หมอเองเคยมีประสบการณ์เรื่องเล่าโดยอาจารย์ที่คอยเตือนให้ระวังการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกในคนไข้ ที่สามีไม่รับทราบรายละเอียดมาก่อน แล้วมาทำผ่าตัดลดขนาดหน้าอก ผลที่ตามมา คือ สามีอาจจะรับรอยแผลเป็นไม่ได้ มีปัญหาครอบครัวตามมามากมาย จึงต้องขอเน้นเป็นพิเศษสำหรับคนที่จะผ่าตัดแก้ไขปัญหานี้ ต้องคำนึงถึงแผลเป็นร่วมด้วยเสมอ เมื่อคุณปรึกษากับแพทย์ดีแล้วก็มาถึงรายละเอียดการผ่าตัดต่อนะครับ 1. คนไข้ทุกคนต้องได้รับการผ่าตัดโดยการดมยาสลบ และต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ระยะหนึ่ง ประมาณ 3-7 วัน แล้วแต่สภาพของแผลและคนไข้หลังการผ่าตัด 2. ก่อนการผ่าตัดต้องได้รับการตรวจสภาพร่างกาย ตรวจเต้านมหาความผิดปกติก่อนผ่าตัด โดยเฉพาะหากมีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัว อย่าลืมบอกแพทย์ด้วยทุกครั้ง เพราะเต้านมที่โตมากอาจจะต้องตรวจหาเนื้องอก โดยการทำแมมโมแกรมให้ละเอียดเสียก่อนผ่าตัดลดขนาดด้วย 3. แพทย์จะตรวจเลือดเพื่อตรวจหาโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการดมยาสลบ รวมทั้งตรวจเช็คหัวใจหรือปอด เมื่อไม่มีความผิดปกติแล้วจึงรับการผ่าตัดได้ 4. แพทย์จะทำการวัดและกำหนดจุดต่าง ๆ ที่สำคัญสำหรับการผ่าตัดที่หน้าอก เพื่อจะได้ทราบขนาดและตำแหน่งของหัวนมใหม่ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องตำแหน่งผิดพลาดและขนาดของเต้านมจะได้ใกล้เคียงกันมากที่สุด โดยเฉพาะในรายที่มีขนาดเต้านมไม่เท่ากันด้วยยิ่งยากขึ้นไปอีก การดูแลหลังการผ่าตัด การดูแลหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้นหลังการผ่าตัดโดยทั่วไป คุณต้องพักในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตดูอาการต่าง ๆ หลังการผ่าตัดจนปลอดภัย และกลับคืนเป็นปกติ และเมื่อแผลเรียบร้อยดีแล้ว จึงสามารถกลับบ้านดูแลได้ด้วยตนเอง ประมาณ 1-2 สัปดาห์แพทย์จะนัดมาตัดไหมออกและตรวจเต้านมอีกครั้ง คุณอาจมีอาการฟกช้ำที่หน้าอกบ้างรวมถึงอาการปวด แต่จะจางหายไปได้ในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ หากไม่มีอาการแทรกซ้อนใด ๆ แล้ว เต้านมใหม่จะมีรูปทรงที่เข้าที่ และสวยงามขึ้นใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ส่วนแผลการผ่าตัดจะจางหายไปในเวลาประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งหากมีแผลผ่าตัดที่ปูดนูนแพทย์อาจจะแนะนำวิธีการดูแลแผลเป็นต่อไปอีกระยะหนึ่ง เมื่อแผลเข้าที่เรียบร้อยแล้ว คุณควรจะใช้เสื้อชั้นในประคองเต้านมหลังการผ่าตัดตลอดเวลา เพื่อป้องกันมิให้แผลมีการแยกกว้าง หรือหน้าอกคล้อยยานใหม่ ส่วนขนาดของหน้าอกจะไม่โตขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากเนื้อของเต้านมถูกตัดออกไปตามปริมาณที่ต้องการ รวมทั้งผิวหนังและไขมันที่หน้าอกด้วย ยกเว้นแต่ปริมาณไขมันที่อาจจะเพิ่มพูนขึ้นได้ตามน้ำหนักตัวของคุณ และเมื่ออายุของผู้ป่วยมากขึ้นก็แน่นอนที่ความยืดหย่อนย่อมกลับมาเยือนได้เช่นเดียวกัน หมอจึงมักจะแนะนำให้คอยประคองทรงด้วยเสื้อชั้นในด้วย ไม่ควรจะโนบราบ่อยเกินไป เพราะมีโอกาสที่เต้านมจะหย่อนได้ ถึงแม้จะมีขนาดพอเหมาะแล้วก็ตาม ในการผ่าตัดทุกอย่างอาจจะมีอาการแทรกซ้อนได้ มากบ้าง น้อยบ้าง การผ่าตัดลดขนาดเต้านมนั้นเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างจะใหญ่พอสมควร และใช้เวลาผ่าตัดนานหลายชั่วโมง ข้อแทรกซ้อนจากการผ่าตัดก็สามารถเกิดขึ้นได้บ้าง เท่าที่ปรากฏพอจะรวบรวมได้ดังนี้ 1. แผลอักเสบ หรือแผลแยก ทั้งนี้เนื่องจากการลดขนาดเต้านม ต้องมีการตัดเนื้อเต้านมออกไปบางส่วน และมีแผลเกิดขึ้น ค่อนข้างมาก นอกจากนั้นยังต้องเย็บผิวหนังเพื่อสร้างเต้านมขึ้นมาใหม่ด้วยความตึงพอสมควรดังนั้นการแตก แยกของแผลเย็บจึงอาจจะเกิดขึ้นได้แต่ทั้งนี้หากดูแลได้อย่าง ใกล้ชิดและแก้ไขได้ทันท่วงทีก็สามารถรักษาแผลให้หายได้ไม่ยากนัก รวมทั้งสามารถเย็บแผลที่ แยกเข้าที่ใหม่ได้ 2. เกิดอาการหัวนมลอก ทั้งนี้เนื่องจากการลดขนาดเต้านมนั้นต้องมีการเลื่อนตำแหน่งของหัวนมขึ้นไปในตำแหน่งที่เหมาะสม และเส้นเลือดที่มาเลี้ยงหัวนมรวมทั้งปานหัวนมนั้น อาจจะมีจำนวนน้อยเกินไปทำให้ไม่เพียงพอต่อการคงอยู่ของหัวนม จึงอาจจะเกิดการลอกได้ ซึ่งเป็นผลแทรกซ้อนที่ค่อนข้างจะรุนแรง แต่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และแพทย์จะพยายามระวังมิให้เกิดขึ้น แต่ในกรณีที่เกิดเหตุดังกล่าว แพทย์อาจจะสร้างหัวนมและปานนมขึ้นใหม่ได้เมื่อแผลทั้งหมดหายสนิทแล้ว 3. อาการชาที่หัวนม ทั้งนี้เกิดขึ้นจากการกระทบกระเทือนต่อ เส้นประสาทของหัวนมในระหว่างการผ่าตัด และในการผ่าตัดบางวิธี อาจจะต้องตัดเนื้อเต้านมออกไปมาก จึงมีโอกาลเกิดอาการชาที่หัวนม และเต้านมได้ ซึ่งอาจจะเป็นเพียงชั่วคราวหรือถาวรก็ได้ 4. แผลเป็นปูดนูน หมอบอกได้เลยว่า ไม่มีแพทย์คนไหนกล้าบอกได้ว่า การผ่าตัดเต้านมคนไข้คนใดจะได้แผลสวย หรือไม่มีปัญหาจากแผลปูดนูนร้อยเปอร์เซนด์ ทั้งนี้ เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งเสริม การเกิดแผลปูดนูนและอยู่นอกเหนือการควบคุมของแพทย์ด้วย การตัดเย็บเต้านมที่ต้องมีความตึงค่อนข้างมาก เป็นอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดลักษณะนี้ได้ หากเกิดขึ้นจริง ๆ แล้วแพทย์จะทำการรักษาได้หลายวิธี เช่น การใช้ยาฉีดละลายแผลปูด การใช้แผ่นซิลิโคนเจลปิดปัองกัน การฉายแสงป้องกัน หรือสุดท้ายคือการตัดแต่งแผลเป็นใหม่ เป็นต้น 5. ขนาดเต้านมและระดับหัวนม ไม่เท่ากัน การลดขนาดเต้านมนั้น การที่เต้านมมีขนาดแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยนั้นอาจจะเกิดขึ้นได้เหมือนกัน แม้ว่าจะพยายามตัดให้ได้เต้านมที่ใกล้เคียงกันก็ตาม แต่เมื่อแผลหายสนิท แล้วอาจจะมีขนาดที่ต่างกันได้บ้างเล็กน้อย (คนปกติที่ไม่ได้รับการรักษาอะไรก็มีขนาดเต้านมที่ไม่เท่ากันอยู่แล้วละครับ) ดังนั้น หากมีขนาดที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ก็พอที่จะยอมรับได้ และคงไม่ต้องแก้ไขอะไร แต่หากต่างกันมากจริง ๆ แล้ว ก็คงต้องเป็นหน้าที่ของแพทย์ที่จะต้องแก้ไขให้ใหม่ จะเห็นได้ว่า ปัญหาเรื่องเต้านมใหญ่นั้น จัดว่าเป็นปัญหาหนักอกทั้งของผู้ป่วย และของหมอคนผ่าตัดเหมือนกันนะครับ เพราะเทคนิคการผ่าตัดรวมทั้งวิธีการผ่าตัด ก็มีหลากหลายให้เลือกใช้ แล้วแต่ความถนัดของหมอ และขนาดของเต้านม แต่ละวิธีก็มีข้อตีข้อด้อยแตกต่างกันบ้างพอสมควร แต่ผลการผ่าตัดนั้นส่วนมากมักจะได้ขนาดหน้าอกที่เล็กลงและมีรูปร่างที่ดูสวยงามมากขึ้น ทำให้สุขภาพทั้งทางกาย และทางใจของเจ้าของเต้านมดีขึ้นได้ แม้จะต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงหลายหมื่นบาท และแผลเป็นที่จัดได้ว่าค่อนข้างมากก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหานี้ก็อย่ารังเกียจที่จะปรึกษาศัลยแพทย์ ตกแต่งนะครับ ลองไปตรวจและพูดคุยกับคุณหมอดูก่อนสิครับ เพราะอย่างน้อยที่สุดคณจะได้รับรู้วิธีการผ่าตัดและการดูแลรักษาที่ถูกต้องต่อไป