อีสุกอีใส... กับรอยแผลเป็น
คุณ ๆ ที่เพิ่งจะเป็น "อีสุกอีใส" ตอนช่วยวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ คงจะต้องลำบากใจสักเล็กน้อย เพราะมักจะมีอาการรุนแรงกว่าคนที่เป็นในช่วงวัยเด็ก และถ้าแกะเกาก็มีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นรอยดำตามมาให้ได้กลุ้มใจกันมากขึ้นอีก แต่ตอนนี้ก็มีแนวทางการรักษาแบบใหม่ ๆ แล้วนะคะ เดี๋ยวจะค่อย ๆ เล่าสู่กันฟังค่ะ
โรคอีสุกอีใส เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ติดต่อได้ด้วยการไอ จามหายใจรดกัน หรือโดยการสัมผัส ตลอดจนการใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วย
มีระยะฟักตัวประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วจะเริ่มมีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ
ถ้าผู้ใหญ่มักมีไข้สูง แล้วจะมีผื่นขึ้นตามมา เป็นผื่นแดงราบก่อนแล้วกลายเป็นตุ่มนูน มีน้ำใส ๆ อยู่ข้างใน และมีอาการคัน ต่อมาก็จะแห้งตกสะเก็ดและหลุดไปเองใน 1-2 สัปดาห์
บางคนมีตุ่มในช่องปากจะเกิดอาการเจ็บคอร่วมด้วย แต่โรคนี้ก็มักจะเป็นเพียงครั้งเดียวหลังจากนั้นร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นทำให้ไม่เป็นซ้ำอีก
โดยทั่วไป ผื่นจะหายโดยไม่มีแผลเป็นยกเว้นมีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนทำให้กลายเป็นหนอง หรือในผู้ป่วยที่กังวล ชอบแกะเกาสะเก็ด จะทำให้เกิดรอยดำและรอยแผลเป็นตามมา
รอยดำที่เกิดขึ้นสามารถทำให้จางได้ด้วยการหลบแสงแดด ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ทายา และทำทรีทเมนต์เพิ่มเติม เช่น ไอออนโต หรือการกรอผลัดผิดด้วยเครื่อง MD ค่ะ
ส่วนถ้าเกิดเป็นแผลเป็นหลุม ก็สามารถทำการรักษาด้วยการกรอผลัดผิดด้วยเครื่อง MD หรือการใช้เครื่องเลเซอร์ "Aramis" ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของเลเซอร์ที่อาศัยหลักการให้แสงเลเซอร์ผ่านลงไปในชั้นหนังแท้เพื่อไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนเพิ่มขึ้นช่วยให้แผลเป็นตื้นขึ้น
และขณะเดียวกันก็มีการกระจายความเย็นลงมาสู่ผิวหนังชั้นบนด้วย ทำให้ไม่มีอาการเจ็บขณะทำเลเซอร์ และผิวหนังชั้นบนไม่ได้รับความร้อนจากเลเซอร์ ผิวหนังจะไม่มีแผลหลังทำเลเซอร์ จึงไม่ต้องมีการดูแลแผลเป็นพิเศษสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติทันทีค่ะ
เมื่อคุณทราบว่ามีวิธีการใหม่ ๆ ในการดูแลรักษาแผลเป็นจากอีสุกอีกใสแล้ว ก็อย่ามัวรอช้านะคะ รีบมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังกันดีกว่าค่ะ จะได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง