"ช่างมันฉันไม่แคร์" ตรงๆ แรงๆ จากใจพลอย เฌอมาลย์

"ไปแคร์ทำไม แคร์งานดีกว่า งานกับความเป็นตัวเรา"

"พลอยไม่ได้ไปค้ายา ฆ่าคน ไม่ได้ข่มขืนเด็ก พลอยว่าพลอยโอเคนะ พลอยเป็นคนดีนะ" คือเสียงจาก พลอย เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์ ผู้หญิงวัย 32 ที่ถูกจัดให้อยู่ในข่าย "คนแรง"

ส่วนหนึ่งน่าจะติดตัวมาตั้งแต่ 20 ปีก่อนตอนเข้าวงการแรกๆ จากละครดราม่าเนื้อหารุนแรงที่เธอกระโจนเข้าใส่ เพราะมองว่าเป็นงาน ต่างจากเด็กวัยเดียวกันและคนทั่วไป ซึ่งมักคิดว่าในละครเป็นเช่นไร ตัวจริงย่อมเป็นเช่นนั้น

"นี่คือสิ่งที่คนเรามองคนแค่กรอบนอก ตัดสินคนแค่ 5 วิ หรือชั่ววูบที่เห็น"

ซึ่ง "พลอยไม่แคร์หรอกนะ ไม่ใช่พ่อ ใช่แม่"

"พลอยต้องการความชัดเจนว่านักแสดงก็คือนักแสดง พลอยเกิดมาอยากเป็นนักแสดง ไม่ได้อยากเป็นนางเอก ถ้าเป็นนางเอกไปที่อื่น อยากภาพลักษณ์ดีก็ไปทำอย่างอื่น"

ดังนั้นเมื่อไม่จำเป็นต้องสร้างภาพเป็นผู้หญิงหงิมๆ จึงกล้าพูดได้เลยว่า "เราเป็นเราชัดเจน ไม่เคยสูญเสียความเป็นตัวเราตั้งแต่เด็ก แล้วไม่มีอะไรมาทำร้ายเราได้"

"เพราะนี่คือจิตวิญญาณของพลอย"

จิตวิญญาณของผู้หญิงอ่อนไหว แต่มีความอดทนสูง เพราะทำงานมาแต่เด็กจนเข้าใจสถานะคนของประชาชน

"ในฐานะของเรานี่ หายใจก็ผิดแล้ว คนจะไม่มองหรอกว่าเราเจออะไรมา ทำอะไรมา เขาจะตัดสินอย่างเดียว"

ขณะเดียวกัน ก็เป็นคนเชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีความลับและทุกอย่างต้องมีเหตุมีผล

"เพราะทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป ถ้าคนไม่มีเหตุผลในการกระทำก็คือคนบ้า คนไม่มีสติ คนสิ้นคิด เหมือนกันถ้าคนที่ตัดสินคนในชั่ววูบพลอยก็ขอจัดให้เขาอยู่ในจำพวกของคนสิ้นคิด" สาวเจ้าว่าพลางขำ

ก่อนจะบอกถึงงานในวงการที่แม้จะผ่านมา 20 ปี แต่ "ยัง มันไม่มีสิ้นสุด มันไม่มีจบ"

เพราะนอกจากพรสวรรค์ที่เชื่อว่าทุกคนมีติดตัวและประสบการณ์แล้ว การเรียนรู้ก็เป็นสิ่งสำคัญมาก

"อยากพัฒนาตัวเองให้เก่งเหมือนดาราฮอลลีวู้ดที่เขาเก่งจริงๆ เขามีเวลาทำเรื่องนึงแล้วเขามีเวลาหยุดเพื่อที่จะไปเรียนไปเติม ทุกวันนี้บางทีรู้สึกว่าเราทำเหมือนทำขนส่ง คือเราต้องบังคับให้ตัวเราเองเป็นสินค้าให้ได้"

"เหนื่อยค่ะ มันไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ" คนสวยสารภาพถึงชีวิตในวงการ

ที่ไม่เพียงขึ้นอยู่กับความสามารถ ยังต้องพึ่งปัจจัยหลายอย่าง ทั้งนิสัย เจตนา และความตั้งใจดีที่จะไม่นำไปสู่หนทางที่ผิด

"พลอยบอกแล้วว่าพลอยตั้งใจจะเป็นนักแสดง ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นนางเอก ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นดาราหรือจะมารับอีเว้นท์ แต่ว่าสิ่งที่เราตั้งใจทั้งหมดนี้มันส่งผลพลอยได้ให้กับเรา"

"คือความโชคดีล้วนๆ" พลอยว่า

"โชคดีที่เขาซื้อความเป็นตัวเรา ภาพลักษณ์ อิมเมจ ผลงาน ความนิยม มันคือผลพลอยได้ล้วนๆ จากสิ่งที่เราตั้งใจทำ"

แต่กระนั้นก็ออกตัว "บางคนไม่อยากได้นะชีวิตแบบพลอย"

"หลายคนคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว" เพราะนอกจากข่าวที่เจอมาทุกรูปยกเว้น "ทำผู้ชายท้อง" ยังต้องแลกมากับอีกหลายสิ่ง

ไม่ว่าจะเวลาให้ครอบครัวซึ่งน้อยมาก ถึงขนาดเพิ่งมารู้เรื่องญาติผู้ใหญ่เสียชีวิตหลังอีกฝ่ายจากไปได้ราวปีครึ่ง

"เรามัวแต่ยุ่งเรื่องงานจนพลาดอะไรไปเยอะ"

ดังนั้น จึงตั้งใจว่าแม้จะไม่ทิ้งงานที่รักไป แต่ก็จะหาเวลาให้ครอบครัวเพิ่มขึ้น ด้วยรู้อยู่เต็มอก "พี่น้องก็เป็นอะไรที่เราต้องยึดไว้ เพราะว่าถ้าเราอายุมากขึ้นญาติพี่น้องเราก็จะคอยดูแล เราก็ต้องดูแลพี่น้องไว้บ้าง"

"ไม่ได้หมายความว่าจะรับงานน้อยลง แค่ขอที่จะมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น ต้องจัดสรร เพราะว่าเวลาไม่รอใคร งานก็ต้องทำให้ดี ญาติพี่น้อง เพื่อนก็เหมือนกัน ก็ต้องควรยึดไว้ ไม่อยากให้เขาตายขึ้นมาแล้วเราต้องมานั่งเสียใจว่าไม่เคยได้ทำอะไรให้เขาเลย"

ขณะเดียวกัน การเป็นนักแสดงยังทำให้เธอสูญเสียความเป็นส่วนตัวแทบทั้งชีวิต

ทว่า "เราเลือกแล้ว อย่าไปคิดว่าคุ้มไม่คุ้ม"

"เราก็ต้องมั่นคงกับสิ่งที่เราตัดสินใจ พลอยถึงสู้ไม่หยุดไง เพราะว่าเราเลือกแล้ว เราเลือกที่จะเป็นพลอย เฌอมาลย์แล้วอย่าเสียดาย ไม่มีการหันหลัง"

ซึ่งถ้าวันไหนรู้สึกเหนื่อยหนักเกินไปก็จะอาศัยนอนเอาแรง นอนแบบไม่รับโทรศัพท์ ไม่คุย ไม่ยุ่งกับใครไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือแฟน

โดยคนหลังเป็นหนุ่มลูกครึ่งจีน-อิตาลีนาม "จอห์น" ที่พอถามถึงเธอว่าพลางยิ้ม "ขอข้ามไปเลยแล้วกัน"

"ความรักก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจนะ ก็เหมือนคนอื่นทั่วไป"

ทว่าโดยรวมก็แฮปปี้ดีแต่ที่ไม่อยากพูดถึงเพราะอยากใช้เวลายาวๆ ในการศึกษาดูใจ

ขณะที่อนาคตเรื่องงาน "ก็เท่าที่คนจะให้โอกาส"

หากก็เข้าใจธรรมชาติ ที่พออายุมากขึ้นความนิยมย่อมลดลง

"มันคือสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ กับทุกคน แต่อย่างน้อยในยุคนึงเราได้ทำผลงานของตัวเองไว้แล้ว ได้ทำประวัติศาสตร์ไว้แล้ว เราแฮปปี้ ทุกคนมันมีขึ้นมีลง"

"พลอยก็มองๆ ไว้แล้วบ้างส่วนหนึ่งว่าพลอยจะแลนดิ้งยังไงให้สวยงาม"

"แต่ตอนนี้ยังสนุกกับงาน ยังมีแรงทำงานอยู่"

พลอย เฌอมาลย์ จึงต้องสู้ไม่ถอย