ออกกำลังกายแบบไหนดี
ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบออกกำลังกายตั้งแต่ยังไม่ตั้งครรภ์ การออกกำลังจึงยิ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณ แม้ว่าคุณจะไม่ชอบออกกำลังกายเอาเสียเลย ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเริ่มต้นออกกำลังเสียแต่ตอนนี้ไม่ได้ สำหรับหญิงตั้งครรภ์กับการเริ่มต้นออกกำลังกาย สามารถทำได้สัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 15 20 นาที แต่คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าการออกกำลังแบบไหน เหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์อย่างคุณ
สิ่งที่ควรใส่ใจกับการออกกำลังกายในแบบต่างๆ
การเดิน
การออกกำลังกายด้วยการเดิน เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด และเป็นที่นิยมในหมู่หญิงตั้งครรภ์ส่วนมาก การเดินยังเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับหญิงที่ไม่เคยออกกำลังมาก่อน
แอโรบิคแบบง่าย
การเต้นแอโรบิคแบบง่ายๆ ไม่ว่าจะเต้นร่วมกับผู้อื่นในฟิตเนสเซ็นเตอร์ หรือจากวีดีโอเทป สามารถทำได้ในหญิงตั้งครรภ์ เพราะนอกจากสนุกแล้ว ยังช่วยบริหารหัวใจได้อีกด้วย
ว่ายน้ำ
การว่ายน้ำ เป็นที่นิยมไม่แพ้การเดินออกกำลังกาย เพราะทำให้คุณได้บริหารกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย น้ำจะช่วยทำให้น้ำหนักตัวเบาลง และง่ายต่อการเคลื่อนไหว คุณควรหาชุดว่ายน้ำตัวเก่า ที่ยืด และหลวมพอสมควร ไม่ควรใส่แบบรัดหน้าท้องให้เได้รูปเป็นอันขาด คุณสามารถว่ายน้ำได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ใหม่ จนใกล้คลอด
วิ่งจ๊อกกิ้ง
การวิ่งเหยาะๆ เบาๆ สามารถทำได้ แต่ไม่เป็นที่นิยมนัก เพราะหญิงตั้งครรภ์ไม่ต้องการเสี่ยงกับการสั่นสะเทือนมากๆ และโอกาสที่จะล้มมีมากกว่าการออกกำลังกายแบบอื่นๆ
การออกกำลังกายท่าไหนที่ควรหลีกเลี่ยง
การออกกำลังกายแบบที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ดำน้ำ ขี่ม้า เจ็ตสกี ล้วนเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับหญิงตั้งครรภ์ คุณจะสามารถทำได้เมื่อผ่านระยะคลอดบุตรมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 สัปดาห์ และที่สำคัญ คุณควรจะรอให้แพทย์อนุญาติเสียก่อน
สิ่งที่ควรระวัง
อย่าออกกำลังกายชนิดหักโหมโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นร่างกายจะขาดออกซิเจนได้ ระดับการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกายจะต้องไม่เกิน 140 ครั้งต่อนาที
ไม่ควรอดอาหารระหว่างตั้งครรภ์ จำไว้ว่าหญิงตั้งครรภ์ต้องการแคลอรีเพิ่ม 300 แคลอรีต่อวัน จากการรับประทานตามปกติ
หลังระยะตั้งครรภ์สามเดือนแรก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายแบบ Sit Up หรือการออกกำลังกายที่ต้องใช้ส่วนหลังนาบกับพื้น เพราะการออกกำลังแบบนี้จะทำให้ปริมาณการไหลเวียนของโลหิตลดลงได้
การยกเวทหรือการยืนออกกำลังกายอยู่กับที่นานๆ ก็มีส่วนทำให้ปริมาณการไหลเวียนของโลหิตลดลงได้เช่นกัน คุณควรจะขยับตัวเรื่อยๆ ด้วยการเดินหน้า ถอยหลัง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในท่าเดิมนานๆ ขณะออกกำลังกาย
สัญญาณแบบไหน ควรต้องหยุดออกกำลังกาย
หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ขณะออกกำลังกาย คุณควรหยุดออกกำลังกายทันที และไปพบแพทย์
อาการปวดในส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยเฉพาะส่วนหลัง หรือกระดูกเชิงกราน
อาการเหนื่อยนานเกินกว่าปกติ
เวียนศรีษะ หรือหน้ามืดกระทันหัน
หายใจไม่ออก หรือหายใจได้ไม่เต็มที่
รู้สึกเหมือนจะเป็นลม
มีเลือดไหลทางช่องคลอด
ลักษณะการเดินไม่ปกติ เดินลำบาก
เมื่อเกิดการเกร็งตามร่างกาย
เมื่อเด็กในครรภ์ไม่ดิ้นตามปกติ
อาการดังกล่าว เป็นสัญญาณอันตรายที่คุณควรหยุดออกกำลังกายทันที นอกจากอาการดังกล่าวเกิดขึ้นขณะออกกำลังกายแล้ว หากหัวใจของคุณเต้นแรงผิดปกติในขณะที่คุณกำลังพักผ่อน คุณควรจะพบแพทย์ในทันทีเช่นกัน