ทำงานสายถูกเลิกจ้าง...ได้ค่าชดเชยไหม ?

ทำงานสายถูกเลิกจ้าง...ได้ค่าชดเชยไหม ?

ทำงานสายถูกเลิกจ้าง...ได้ค่าชดเชยไหม ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คอลัมน์ เอชอาร์คอร์เนอร์
โดย ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์ http://tamrongsakk.blogspot.com

เรื่องที่เอามาแชร์ในวันนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้เสมอ แต่เรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเราเพียงแต่รักษา "วินัย" เบื้องต้นในการทำงานให้ดี

ปัญหา คือนางสาววันดี (นามสมมติ) มาทำงานสายเป็นประจำ หัวหน้างานก็เรียกมาเตือนด้วยวาจาแล้วก็ยังมาสาย จนกระทั่งถูกตักเตือนเป็นหนังสือตามระเบียบของบริษัท แต่วันดีก็ยังมาทำงานสายอยู่เหมือนเดิม โดยสายครั้งละ 10-15 นาที (ไม่รู้แกติดธุระอะไรสิน่า) แถมวันดียังเถียงหัวหน้าอีกว่า ทีคนอื่นมาสาย ทำไมหัวหน้าไม่เห็นออกหนังสือเตือนบ้างเลย

จนกระทั่งครั้งล่าสุด วันดีถูกเรียกมารับทราบการตักเตือนเรื่องมาสายเป็นครั้งสุดท้าย แล้วหัวหน้าก็ยื่นสำเนาหนังสือตักเตือน โดยในหนังสือตักเตือนมีใจความดังนี้

14 สิงหาคม 2557
เรื่อง ตักเตือน
เรียน คุณวันดี สายเสมอ

เนื่องจากท่านได้ประพฤติตนฝ่าฝืนระเบียบและข้อบังคับของบริษัท กล่าวคือ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ท่านมาเข้าทำงานเวลา 08.45 น. ซึ่งตามระเบียบของบริษัทกำหนดให้พนักงานจะต้องเข้าทำงานภายในเวลา 8.30 น.โดยการลงเวลามาทำงานไว้เป็นหลักฐาน บริษัทจึงถือว่าท่านมาทำงานสายในวันดังกล่าว

ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้เคยเชิญท่านมารับทราบการตักเตือนในเรื่องการมาทำงานสายมาแล้ว 2 ครั้ง ตามหนังสือตักเตือนลงวันที่ 18 มิถุนายน 2557 และวันที่ 16 กรกฎาคม 2557 ซึ่งท่านก็รับทราบการตักเตือนของบริษัทแล้ว แต่ก็ยังมาทำงานสายอีกในครั้งนี้

บริษัทได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำของท่านดังกล่าว เป็นการประพฤติปฏิบัติตนฝ่าฝืนต่อระเบียบและข้อบังคับของบริษัท บทที่ 9 เรื่อง วินัย และการลงโทษทางวินัย ข้อ 14 การมาทำงานของพนักงาน

ดังนั้น โดยหนังสือฉบับนี้ บริษัทจึงขอตักเตือนท่านเป็นลายลักษณ์อักษร มิให้ประพฤติปฏิบัติตนเช่นนี้อีก และให้ท่านปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามระเบียบและข้อบังคับของบริษัทโดยเคร่งครัด และหากท่านยังประพฤติฝ่าฝืนและมาทำงานสายอีก บริษัทจะพิจารณาเลิกจ้างท่านโดยไม่จ่ายค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้าใด ๆ

ลงชื่อ..............................................
ผู้แจ้งการตักเตือน
( )
วันที่............................................
ลงชื่อ..............................................
ผู้รับทราบการตักเตือน
( )
วันที่............................................
ลงชื่อ..............................................พยาน
( )
วันที่............................................
ลงชื่อ..............................................พยาน
( )
วันที่............................................

แล้ววันดีก็มาสายอีก หลังจากถูกหนังสือตักเตือนฉบับนี้ บริษัทจึงเลิกจ้างวันดีตามที่ได้เคยเตือนไว้แล้ว

ประเด็น คือวันดีจะได้ค่าชดเชยตามอายุงานหรือไม่ เพราะวันดีทำงานมา 3 ปีเศษ ๆ ถ้าวันดีมีสิทธิได้รับค่าชดเชยเนื่องจากถูกเลิกจ้าง เธอจะได้รับค่าชดเชยตามมาตรา 118 ของกฎหมายแรงงาน คือค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่าได้ค่าชดเชย 6 เดือนนั่นแหละครับ

ตรงนี้ผมทิ้งให้ท่านลองคิดดูสักแป๊บหนึ่ง

นะครับ ติ๊กต็อก..ติ๊กต็อก..ติ๊กต็อก.....

ปิ๊ง...หมดเวลาครับ

คำตอบ คือวันดีไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน เพราะ..."มาตรา ๕๘๓ ถ้าลูกจ้างจงใจขัดคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายก็ดี หรือละเลยไม่นำพาต่อคำสั่งเช่นว่านั้นเป็นอาจิณก็ดี ละทิ้งการงานไปเสียก็ดี กระทำความผิดอย่างร้ายแรงก็ดี หรือทำประการอื่นอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตก็ดี ท่านว่านายจ้างจะไล่ออกโดยมิพักต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือให้สินไหมทดแทนก็ได้" (จากประมวลกฎหมายแพ่ง) และ...มาตรา ๑๑๙ นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่งเลิกจ้างในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้

"...(๔) ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือระเบียบหรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีที่ร้ายแรง นายจ้างไม่จำเป็นต้องตักเตือน หนังสือเตือนให้มีผลบังคับได้ไม่เกินหนึ่งปี นับแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำผิด..." (จากบางส่วนของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน)

เรียกว่ากรณีนี้ คุณวันดีทำผิดสองเด้งเลยก็ว่าได้ คือผิดทั้งประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา ๕๘๓ และผิดกฎหมายแรงงาน มาตรา ๑๑๙ !!

และถ้าหากคุณวันดียังไม่ปรับปรุงตัวเอง และยังขาดวินัยหรือมีพฤติกรรมอย่างนี้ในที่ทำงานใหม่อีกล่ะก็ คงไม่แคล้วถูกเขาเลิกจ้างอีกเหมือนเดิมแหละครับ

ผมว่าคุณวันดียังไม่ต้องไปมองคนอื่นหรอกนะครับ ว่าเขามาสายแล้วทำไม

ถึงไม่ถูกหัวหน้าตักเตือน หรือไม่ถูกเลิกจ้าง แต่คุณวันดีควรจะหันกลับมาปรับปรุงตัวเองให้มาทำงานตรงเวลาเสียก่อนจะดีกว่า เพราะใครเขาจะมาทำงานสายหรือไม่ มันก็เรื่องของคนนั้น ถ้าเราไม่มาสายเราก็คงไม่ถูกเลิกจ้างแบบนี้หรอก จริงไหมครับ

ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.istockphoto.com/

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook