ปล่อยลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง จุดเริ่มต้นช่วยลูกเปลี่ยนโลกทั้งใบ

ปล่อยลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง จุดเริ่มต้นช่วยลูกเปลี่ยนโลกทั้งใบ

ปล่อยลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง จุดเริ่มต้นช่วยลูกเปลี่ยนโลกทั้งใบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปล่อยลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง จุดเริ่มต้นช่วยลูกเปลี่ยนโลกทั้งใบ

คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าองค์ประกอบสำคัญอย่าง พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม และโภชนาการที่ดี เป็นปัจจัยหลักในการสร้างลูกให้เป็นเด็กฉลาด หัวไว ซึ่งสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูกในที่นี้ก็หมายความรวมไปถึงการเลี้ยงดู และโอกาสในการเรียนรู้ที่เด็กจะได้รับจากพ่อแม่ และเมื่อนำมาประกอบกับโภชนาการที่ดีแล้ว ก็จะมีผลอย่างยิ่งต่อพัฒนาการที่ดีของเด็ก

แนวทางการเลี้ยงดูลูก ถือได้ว่าเป็นสิ่งแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อตัวเด็กอย่างมาก
ซึ่งจะเห็นกันได้มากมายหลายครอบครัวเลยที่พ่อแม่เคี่ยวเข็ญให้เด็กใช้เวลาในห้องเรียนเยอะๆ จริงจังกับการเรียนมากเกินไป มีการบังคับให้ท่องจำตัวหนังสือแม้ว่าในบางครั้งลูกอาจจะไม่เข้าใจเลยก็ตาม หรือแม้กระทั่งส่งลูกไปเรียนกวดวิชา ทั้งๆ ที่เด็กยังเรียนอยู่แค่ชั้นอนุบาลเท่านั้น โดยเข้าใจว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้จะสามารถทำให้ลูกเป็นเด็กฉลาดกว่าคนอื่น

นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่บางท่านยังไม่ปล่อยให้ลูกคิดต่างหรือมีความเห็นเป็นของตัวเอง หลายคนขีดเส้นให้ลูกเดินตามกรอบที่ตัวเองกำหนดไว้ว่าดีงาม ถูกต้องตามแบบที่ตัวเองว่าไว้เท่านั้น โดยมักใช้คำว่า ห้าม! อย่า! หยุด! ไม่! เมื่อเห็นว่าสิ่งที่ลูกทำเป็นสิ่งที่พ่อแม่คิดว่าไม่ถูกต้อง หรือผิดจากแนวความคิดที่คนทั่วไปเค้าทำกัน การทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการการวางกรอบให้ลูกมากเกินไป แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นการหวังดี แต่ก็แฝงไปด้วยการปิดกั้นโอกาสในการเรียนรู้ของลูกด้วยเช่นกัน

คุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้และลองผิดลองถูกกับสิ่งใหม่ๆ ด้วยตัวเอง ลูกจะมีโอกาสได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำนั่นก็คือ การพูดคุยโดยชี้ให้ลูกเห็นถึงข้อดีข้อเสียในสิ่งที่ลูกกำลังจะลงมือทำ ลูกจะได้ลองคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจลงมือแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ควรให้อิสระลูกในการคิดและตัดสินใจ ไม่ควรบังคับชี้นำให้ลูกทำตามความฝันของพ่อแม่ เพื่อมาเติมเต็มในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ
ในปัจจุบัน ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง อังกฤษ อเมริกา และญี่ปุ่น มีแนวทางการเลี้ยงลูกแบบใหม่ซึ่งเหมาะสมกับเด็กวัย 1-3 ปี ซึ่งเป็นวัยที่เปิดรับประสบการณ์ต่างๆ รอบตัว คุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ทุกสิ่งรอบตัวอย่างเต็มที่ ให้ลูกได้เรียนรู้และลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยให้คำแนะนำอยู่ห่างๆ โดยการเรียนรู้ในห้องเรียนกลายเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ของลูกเท่านั้น

จากการวิจัย ระบุว่ายิ่งเด็กมีการใช้สมองเพื่อการเรียนรู้และการคิดมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เซลล์สมองสร้างเครือข่ายเส้นใยสมองใหม่ๆ แตกแขนงเชื่อมติดต่อกันมากยิ่งขึ้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรเปลี่ยนจากผู้บังคับ ผู้ห้าม มาเป็นผู้ให้การสนับสนุน โดยเปิดโอกาสให้ลูกได้เลือกในสิ่งที่เค้าต้องการ แต่ก็อย่าลืมให้คำแนะนำเมื่อลูกเริ่มทำเกินขอบเขต การปล่อยให้ลูกเรียนรู้ และคิดด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ เป็นจุดเริ่มต้นของพัฒนาการทางสมองที่ดีของลูกน้อยเลยล่ะ

นอกจากนี้การปล่อยให้ลูกได้เล่นกับสิ่งของต่างๆ รอบตัวอย่างมีอิสระ ยังถือเป็นการฝึกการเรียนรู้และพัฒนาการด้านร่างกาย ความคิด อารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์และการเข้าสังคม ซึ่งการเรียนรู้แบบนี้ไม่ใช่การสอนและสั่งให้ทำโดยพ่อแม่ แต่เป็นการทำโดยด้วยความสนใจของตัวเด็กเอง ทุกๆ สิ่งที่เด็กได้เล่นและลองทำเองจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนารอบด้านในระยะยาวของตัวเด็กเอง

จากผลสำรวจที่ผ่านมายืนยันได้เลยว่าสิ่งที่เด็กคิดค้น เรียนรู้ และลงมือทำเอง จะทำให้เด็กเข้าใจและจดจำได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยให้พ่อแม่สังเกตุเห็นสิ่งที่ลูกสนใจได้อย่างชัดเจนในขณะที่ปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ เพราะการเล่นของเด็กคือความสนุกสนานที่เด็กจะได้รับพร้อมกับเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากมาย และยังทำให้เด็กได้ฝึกประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ การสังเกตุ (ตา), การฟัง (หู), การได้กลิ่น (จมูก), การชิมรสชาติ (ลิ้น) และ การสัมผัส (ผิวหนัง) อีกด้วย

การปล่อยให้ลูกเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวนี้จะนำไปสู่พัฒนาการที่ดีของเด็ก แถมยังสร้างความตื่นเต้น อยากรู้อยากลอง อยากค้นคว้า รู้จักการวางแผน และการตัดสินใจที่ดีให้กับลูกน้อยของคุณ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของอนาคตของชาติในวันข้างหน้า ที่จะเติบโตมาเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพในการช่วยพัฒนาประเทศชาติ เริ่มต้นที่เด็กวันนี้อาจช่วยเปลี่ยนโลกใบนี้ได้ในวันข้างหน้า

“ต้องการรายละเอียด ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่  www.s-momclub.com
ขอบคุณภาพประกอบ: http://pinterest.com

 

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook