5 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตอย่างไรให้รวดเร็วทันใจ

5 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตอย่างไรให้รวดเร็วทันใจ

5 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตอย่างไรให้รวดเร็วทันใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“เป็นหนี้บัตรเครดิต!” พอได้ยินคำนี้ก็รู้สึกเสียวสันหลังว้าบบบเลยใช่ไหมคะ คงไม่มีใครอยากได้ชื่อว่าเป็นหนี้บัตรเครดิตหรอก มันดูไม่ค่อยน่าพิสมัยเสียเท่าไหร่ แต่ก็ในเมื่อรูดปรื๊ดดดมันสบายกว่าจับจ่ายด้วยเงินสด หรือรูดก่อนค่อยจ่ายทีหลังสะดวกกว่า แต่รูดไปรูดมาแล้วเกิดบัตรเต็มวงเงิน แถมรูดไปก็สี่ห้าใบแล้ว บวกกับได้รับใบแจ้งหนี้จากธนาคารหรือมีโทรศัพท์ตาม บอกเลยว่าแอบรำคาญเนอะ แต่…ในเมื่อเราใช้เงินเขาแล้วก็ต้องรับผิดชอบ แต่จะมีวิธีรับมือและปลดหนี้บัตรเครดิตอย่างไร?! ChicMinistry ขอนำเสนอ 5 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตแบบทันใจมาฝากกันค่ะ เริ่มจาก…

1.เพิ่มช่องทางรายรับ และจับจ่ายให้น้อย พอรู้ตัวว่าถึงคราวจะต้องปลดหนี้บัตรเครดิตแล้วล่ะก็ คุณจะต้องหาเงินมาโปะ แต่เงินเดือนที่ได้รับดูเหมือนจะน้อยนิดเหลือเกิน แนะนำว่าหาช่องทางรายรับเพิ่มด่วนเลยค่ะ จะเป็นฟรีแลนซ์ ทำงานล่วงเวลาหรือทำงานพิเศษเพิ่มก็ได้เพื่อให้เงินสะพัดเข้ากระเป๋าสำหรับแบ่งเบาภาระหนี้ของคุณได้บ้าง และที่สำคัญคุณจะต้องรู้จัก ‘ประหยัด และรู้จักประมาณตน’ ท่องไว้ว่าจับจ่ายให้น้อย อะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไปซะ! เท่านี้ก็ช่วยได้แล้วค่ะ

2.อย่าเพิ่มภาระหนี้กับกู้นอกระบบ สำหรับบางคนเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะใช้ช่องทางการหาเงินรูปแบบไหนมาโปะหนี้บัตรเครดิต ก็หันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบ บอกเลยว่านอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังคิดดดอกเบี้ยสูงด้วย ไม่อยากเป็นหนี้ซ้ำซ้อนและขยายวงกว้างบอกเลยว่าตัด Choice นี้ทิ้งแบบด่วนๆเลยค่ะ! แล้วลองหันไปปรึกษาธนาคารเพื่อผ่อนผันการชำระเงินน่าจะดีเสียกว่าอีก

3.เจรจาขอผ่อนผันการชำระหนี้ อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณปลดหนี้บัตรเครดิตได้อย่างรวดเร็วและสบายใจ คือ การขอคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่เพื่อผ่อนผันการชำระหนี้หรือการมองหาทางออกร่วมกัน ซึ่งคุณอาจจะต้องแจ้งกับทางธนาคารไปเลยว่าคุณสะดวกชำระหนี้ในวงเงินเท่าไหร่ แต่แนะนำว่าอย่าเงียบหรือหายตัวไปนะคะ เดี๋ยวจะเสียเครดิตติด Black List เปล่าๆ

4.มีวินัย รู้จักคำว่า ‘รับผิดชอบ’ ความมีวินัยและรู้จักรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการชำระหนี้เลยค่ะ การชำระเงินตรงตามที่ธนาคารกำหนดจะช่วยลดความกังวลและลดความเครียดจากการได้ยินเสียงโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่นะคะ เอาเป็นว่าชำระเงินตรงตามเวลาที่เขากำหนดเนี่ยแหละเวิร์คสุดแล้ว!

5.แปลงรถเป็นเงินสด สำหรับใครที่หมดหนทางแล้วล่ะก็ แนะนำว่าหากมีรถยนต์ที่ปลอดภาระ อย่าเสียดาย! นำรถมาเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อกับธนาคารได้ค่ะ โดยอัตราการขอสินเชื่อประเภทนี้จะต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยวงเงินบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิตนะคะ ไว้การเงินมั่นคงแล้วค่อยรีไฟแนนซ์ใหม่ก็ไม่สาย แต่ต้องรู้จักจัดการเงินของตัวเองให้ดีๆค่ะ

ยังไง ChicMinistry ก็ขอเอาใจช่วยทุกคนที่กำลังมีภาระอยู่นะคะ สู้กับทุกปัญหาเชื่อว่าจะต้องผ่านไปได้ และสำหรับที่อยากจะทำบัตรเครดิตล่ะก็ ยังไงก็ไตร่ตรองให้ดีก่อนและถามตัวเองเสียก่อนว่าพร้อมแล้วสำหรับการมีภาระทางการเงินหรือยัง จะได้ไม่เป็นยภาระหนักหัวใจภายหลังค่ะ

Cr.Photo : Siempre889.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook