รีวิวกันแบบจัดเต็มกับ 3 ภัตตาคารชื่อดัง @ Thanya Park

หากจะพูดถึงศูนย์การค้าย่านศรีนครินทร์ เชื่อว่าทุกคนคงคุ้นหูกับชื่อ “Thanya Park” หรือ “ธัญญา พาร์ค” ในแง่มุมของการเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ บนเนื้อที่กว้างขวาง แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าที่นี่มีภัตตาคารเด่นๆ อยู่มากมาย ดังนั้นวันนี้ Chicministry เลยขออาสาพาทุกท่านมารีวิวอาหารจากภัตตาคารชื่อดังอย่าง “เชียงการีลา โกลด์” “มหาสมุทร ซีฟู้ด” และ “หงเปา” กันแบบทีละเมนูเลยทีเดียว พร้อมกันหรือยังคะ? ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาเลยค่ะ....

เริ่มกันที่“ภัตตาคารเชียงการีลา โกลด์” ภัตตาคารนี้มีความโดดเด่นตรงที่มีการวัตถุดิบแปลกใหม่มาผสมผสานกับเทคนิคการปรุงอันหลากหลาย แต่ยังชูรสชาติของวัตถุดิบหลักไว้ได้อย่างดีเยี่ยม งานนี้เมนูแรกเลยขอลองเมนูปราบเซียนอย่าง “เป็ดปักกิ่งซะเลย”ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยแผ่นแป้งที่บางนุ่มกำลังดีมาห่อกับหนังเป็ดปักกิ่งที่มีความกรอบ และหอมเครื่องปรุง พร้อมเครื่องเคียงอย่างผัก ก่อนที่จะราดด้วยน้ำซอสรสนุ่มสูตรต้นตำรับของทางร้าน แค่เคี้ยวเค้าไปคำแล้วก็ได้ทั้งรสชาติขอหนังเป็ดที่ผสานกับน้ำซอสได้อย่างลงตัว พร้อมความสดชื่นจากผักแล้วค่ะ

เมนูต่อมาที่เราชิมกัน คือ “เป็ดกระเทียม”เมนูนี้ได้จากการนำเนื้อเป็ดไปแล่ ลวกน้ำร้อน แล้วหมักด้วยกระเทียมพริกไทยจนซึมเข้าเนื้อ จากนั้นจึงนำไปทอดร้อนๆ จนหอมชวนน่าทาน เวลาทานเข้าไปจะรับรู้ได้ถึงความนุ่มของเนื้อเป็ด และความหอมของกระเทียม และพริกไทยที่เข้ากันได้อย่าลงตัว ใครสั่งเมนูนี้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

ผ่านไป 2 เมนูแล้ว ยังอิ่มไม่จุใจ เลยต่อด้วย “ก๋วยเตี๋ยวคั่วสูตรดั้งเดิม”เมนูนี้ถือว่าทำได้ดีดีเลยทีเดียว เพราะคงความมีเสน่ห์ของก๋วยเตี๋ยวคั่วไว้ได้อย่างดี นั่นคือ เวลาทานเข้าไปแล้วเส้นจะมีกลิ่นหอมไหม้กระทะนิดๆ ทานพร้อมกับเหล่าซีฟู๊ดที่ผัดลงไปพร้อมกัน งานนี้ขอบอกว่าจานเดียวไม่พอแน่นอนค่ะ

จัดหนักกันไปแล้วขอปรับโหมดมาอิ่มอร่อยๆ เบาๆ กับติ่มซำกันบ้าง ซึ่ง “ภัตตาคารเชียงการีลา โกลด์” มีให้เลือกถึง 30 เมนูกันเลยทีเดียว จะรีวิวทั้งหมดคงไม่ไหว เลยเลือกอันเด่นๆ โดนๆ มาให้ได้ดูกัน

เริ่มที่ “ขนมผักกาด” และ “เผือกทอด”ขนมผักกาดของที่นี่แป้งนุ่มกำลังดี ส่วนไส้ก็ทำได้เริ่ดไม่แพ้กัน ราดน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้านลงไปนิดหน่อย อร่อยเด็ดอย่าบอกใครเลยค่ะ ส่วนเผือกทอดก็เด็ดไม่แพ้ใคร เพราะเค้านำเผื่อมาปรุงรส แล้วนำไปชุบด้วยแป้งก่อนนำไปทอดให้เป็นสีทองเหลืองอร่ามดูน่าทาน เวลาทานจึงมีทั้งความกรอบของแป้งและรสชาติกลมกล่อมจากไส้เผือกที่ซ่อนอยู่ภายใน

ส่วน “ขนมจีบปู”ของที่นี่จัดว่าเด็ดอย่าบอกใคร เพราะมีเนื้อปูแน่ๆ เน้นๆ เต็มคำห่อด้วยแป้งบางกำลังดี ทำให้ทานแล้วได้รสชาติและกลิ่นของเนื้อปูมากกว่าแป้ง ใครที่ชอบทานขนมจีบ ถือเป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

มาถึง “ขนมจีบกุ้ง” กันบ้าง ด้วยเนื้อกุ้งสดๆ ที่มาแบบจัดเต็มในแป้งที่กำลังดี ทำให้รสชาติและสัมผัสของเนื้อกุ้งออกมาได้อย่างเต็มที่ งานนี้ไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้มก็อร่อยลืม...แล้วค่ะ

นอกจากนี้ยังมี “ซี่โครงหมูนึ่งเต้าซี่” ถือเป็นอีกเมนูที่เริ่ดเว่อร์มากๆ เพราะเวลาทานจะสัมผัสได้ถึงเนื้อของซี่โครงหมูที่นำไปนึ่งจนแทบละลายในปาก พร้อมความหวานของน้ำจากซี่โครงหมูที่ออกมาผสมผสานกับเครื่องปรุงของทางร้านได้อย่างพอดี บอกได้คำเดียวว่าอร่อยอ่ะ

มาถึงตรงนี้หากมีคนถามว่าอิ่มหรือยัง นักชิมสายแข็งอย่างเราบอกได้คำเดียวเลยค่ะว่า “ยังไม่อิ่ม” ดังนั้นจึงมารีวิวกันต่อที่ภัตตาคารที่ 2 ที่มีชื่อว่า “มหาสมุทร ซีฟู้ด”

ร้านนี้ขอบอกว่ามีความเริ่ดอยู่ตรงที่เป็นสาขาเดียวในกรุงเทพฯ ฉะนั้นหากใครอยากลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ น้ำจิ้มรสเด็ดล่ะก็ต้องมาที่ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ที่เดียวเท่านั้น! แถมบรรยากาศในร้านยังให้กลิ่นอายของท้องทะเลเหมือนกำลังนั่งรับประทานอาหารใต้ร่มผ้าใบขนาดใหญ่ริมชายหาดอีกด้วย มาถึงตรงนี้อยากรู้กันแล้วใช่มั้ยคะว่าจะมีเมนูเด็ดๆ อะไรบ้าง ถ้าอย่างนั้นมาดูกันเลยค่ะ....

ประเดิมจานแรกด้วย “สลัดกุ้งมังกร”จานนี้เสิร์ฟพร้อมสลัดผลไม้อย่างองุ่น มะเขือเทศ แอปเปิ้ล ฝรั่ง แคนตาลูป คลุกเคล้ากับน้ำสลัดสูตรลับเฉพาะของทางร้าน เนื้อกุ้งหั่นมาพอดีคำเวลาทานจะได้ทั้งเนื้อสัมผัสของกุ้งที่เหนียมนุ่มกำลังดีพร้อมๆ กับความสดชื่นที่มาจากผลไม้ แค่คำแรกก็อดใจไม่ไหวที่จะมีคำต่อๆ ไปแน่นอน!

อร่อยสดชื่นกับ “สลัดกุ้งมักกร” กันแล้ว ก็มาต่อกันด้วยเมนู “กั้งทอดกระเทียม” โดยกั้งของที่นี่ใช้กั้งแก้วตัวโต เนื้อแน่กำลังดี แล้วนำไปทอดกับกระเทียมพริกไทย ปรุงรสด้วยส่วนผสมพิเศษของทางร้าน ทานเข้าไปแล้วจะได้รสของความเค็ม ความหวานหวานที่กลมกล่อมเข้ากันได้ดีกับเนื้อกั้ง และมีกลิ่นหอมของกระเทียม

ตามมาด้วยเมนู “หอยหวานเผา”ด้วยความสดของหอยที่เหมือนเพิ่งนำขึ้นมาจากทะเล จึงทำให้เราสัมผัสได้ถึงความหวานกรุบกรอบ เด้งดึ๋งของเนื้อหอยที่อยู่ภายใน ยิ่งได้จิ้มกับน้ำจิ้มของทางร้านด้วยแล้ว อร่อยลงตัวสุดๆ ค่ะ

ส่วนใครที่ชอบทานอาหารทะเลแบบรสจัด เผ็ดร้อน ต้องนี่เลยค่ะ “หอยตลับผัดน้ำพริกเผา”หอยตลับสดๆ นำไปผัดกับพริกแกงรสจัดจ้าน โรยหน้าด้วยใบโหระพาเพิ่มความร้อนแรง และต้นหอม เพื่อเพิ่มความหอม เวลาทานเข้าไปจึงได้ทั้งรสจัดจ้านของพริกแกงผสานกับความหยุ่น ของเนื้อหอย และความหอมจากต้นหอม เป็นอะไรที่ขอบอกว่าฟินาเล่มากๆ ค่ะ

“ต้มยำปลาคัง”นี่ก็ถือเป็นอีกจานที่เด็ดสุดๆ ด้วยน้ำต้มยำที่รสชาติจัดจ้านถึงใจ ครบเครื่องทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด เมื่อมาผสานกับความนุ่มของเนื้อปลาคังที่ทำได้อย่างดีจนไม่มีกลิ่นคาว ทานเข้าไปแล้วบอกได้คำเดียวว่า ฟินเว่อร์!

ต่อกันที่เมนู “หมึกผัดไข่เค็ม”เชื่อว่าเห็นรูปก็อยากทานกันแล้วใช่มั้ยล่ะ แต่ขอบอกว่าหากได้ทานจะต้อง Very Happy แน่นอน ก็เนื่อปลาหมึกที่เหนียมนุ่มกำลังดี หั่นมาชิ้นพอคำ ตัดกับความเค็มนิดๆ ของไข่เค็ม และความมันของไข่แดง บอกได้เลยว่าดี๊ดีอ่ะ

เพิ่มความแซ่บอีกนิดด้วย “ส้มตำปูม้า”ขอบอกว่าส้มตำปูม้าของที่นี่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัยจริงๆ เพราะรสไม่จัดมาก แต่เน้นที่ความสดความสดใหม่ของปูที่นำมาตำ และความกรอบของมะละกอ งานนี้คนรักส้มตำมีขอเพิ่มอีกจานแน่นอนค่ะ

ตามมาด้วย “ข้าวผัดปู”จานนี้ต้องถูกปาก ถูกใจทุกคนอย่างแน่นอน เพราะข้าวที่นำมาผัดสวยกำลังดี ทำให้เวลาที่ทานไม่รู้สึกว่าไม่ได้รสสัมผัสของเนื้อข้าว หรือแข็งจนกลืนไม่ลง เมื่อนำมาคลุกเคล้ากับเนื้อปู และเครื่องปรุงรสแล้ว จึงออกมาได้รสอร่อย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ จุใจกันหรือยัง ถ้ายังมาต่อกันที่ภัตตาคารที่ 3 ที่มีชื่อว่า “หงเปา” กันเลยค่ะ

ร้านนี้ขอบอกว่าเป็นภัตตาคารอาหารจีนต้นตำรับโดยมาสเตอร์เชฟจากฮ่องกงเลยทีเดียว จึงไม่ต้องสงสัยว่าเมนูเด็ดของร้านนี้จะอร่อยขนาดไหน ว่าแต่มีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลยค่ะ

เมนูแรก คือ “หมูกรอบหงเปา”จานนี้เชฟเค้าเลือกใช้ส่วนที่ดีที่สุดของท้องหมูมาปรุงจนหนังกรอบไร้ไขมันส่วนเกิน เวลาทานจะได้ทั้งความกรอบของหนังเนื้อหมูนุ่มๆ และความมันที่หยุ่นกำลังดี ทานแล้วฟินเว่อร์ค่ะ

ตามมาด้วย “กุ้งผัดพริกเกลือ”เมนูนี้เค้านำกุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่ๆ เนื้อแน่น เต็มคำมาทอด และปรุงรสจนกรอบนอกนุ่มใน พร้อมความแซ่บจากพริกเกลือที่จี๊ดโดนใจสุดๆ

เมนูต่อมา คือ “ไก่ซอสสามถ้วยหม้อดิน”เนื้อไก่ที่นำไปปรุงจนนุ่มแทบละลายในปาก กับซอสรสกลมกล่อมของทางร้านที่ซึมเข้าไปถึงเนื้อไก่ แถมมีกลิ่นหอมจากโหระพาที่โรยหน้ามาด้วย จึงขอบอกว่าเมนูนี้ขอบอกว่าไม่ควรพลาดอย่างแรงค่ะ

ต่อกันที่ “ข้าวเหนียวทอด”ฟังดูธรรมด๊า ธรรมดา แต่หน้าตาของเมนูนี้ที่ร้าน “หงเปา” น่ารักอย่าบอกใครเลยค่ะ เพราะเค้านำข้าวเหนียวมาปั้นเป็นรูปแครอทได้อย่างน่ารักก่อนนำไปทอด หากครอบครัวไหนมีคุณหนูๆ ล่ะก็ รับรองว่าต้องชื่นชอบ และตื่นเต้นกับเมนูนี้แน่อนอน

จัดหนัก จัดเต็มกันไป 4 เมนูแล้ว เลยขอพักเบรคสบายๆ ด้วยติ่มซ่ำซะหน่อย ซึ่งขอบอกว่าติ่มซำที่ร้าน “หงเปา” อร่อย และสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร เห็นได้จากเมนู “ซาลาเปาไข่เค็มลาวา”ด้วยแป้งที่นำมานวดจนได้เนื้อซาลาเปานุ่มๆ แล้วนำมาสอดไส้ด้วยไข่เค็มเข้ากันได้เป็นอย่างดี พร้อมตกแต่งหน้าซาลาเปาด้วยลายเส้นสีสันสดใสอย่างสีส้ม ที่ไม่มีที่ไหนมาก่อน เมนูนี้จึงเป็นซิกเนเจอร์ของร้านที่ทุกคนต้องสั่งเมื่อมาถึงเลยทีเดียวค่ะ

นอกจากนี้ยังมีเมนู “ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งกรอบ” ความเก๋ของเมนูนี้อยู่ที่แป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดที่บางนุ่มไม่เหมือนใคร พร้อมกับไส้ที่มีกุ้งเป็นส่วนผสมหลักซึ่งผ่านการปรุงรสมาเป็นอย่างดี ทานเข้าไปคำแรกแล้วอร่อยแบบไม่อยากแบ่งใครเลยทีเดียวค่ะ

มาภัตตาคารจีนทั้งที ถ้าจะไม่มีขนมจีบก็ดูกะไรอยู่ เลยขอจัด “ขนมจีบกุ้ง”ปิดท้ายซะเลย แม้จะเป็นเมนูที่หาทานได้ง่ายๆ แต่หาที่อร่อยได้อยากจริงๆ มาเจอกับที่นี่เข้าต้องยอมรับเลยค่ะว่าอร่อยมากๆ ด้วยเนื้อแป้งที่กำลังดี ไม่บางหรือหนาจนเกินไป และเนื้อกุ้งที่สดใหม่ จัดมาแบบเต็มๆ คำ ไม่มีอั้น ทำให้เมนูนี้สามารถลิ้มรสของเนื้อกุ้งและแป้งขนมจีบได้อย่างสบายๆ แม้ไม่จิ้มน้ำจิ้มเลยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เต็มอิ่มจุใจกันหรือเปล่ากับการพารีวิว 3 ภัตตาคารชื่อดังในวันนี้ หากสนใจอยากไปลองด้วยตนเอง วันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์นี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการพาครอบครัวมาทานอาหารอร่อยๆ นะคะ ส่วนครั้งหน้าจะไปซอกแซก รีวิวหาร้านอร่อยๆ ที่ไหนมาให้ได้ชมกันนั้นต้องรอติดตามค่ะ

ติดตามทุกเทรนด์ก่อนใครและอัพเดทข่าวชิคๆ
ได้ที่ www.chicministry.com, Facebook Fanpage : facebook.com/chicministry
Twitter : twitter.com/ChicMinistry, IG : instagram.com/chicministryofficial, Line ID : chicministryofficial