ดวงตานั้นสำคัญไฉน

ดวงตานั้นสำคัญไฉน

ดวงตานั้นสำคัญไฉน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถนอมดวงตาคู่สวยให้ดูอ่อนเยาว์

นอกจากดวงตาจะเป็นหน้าต่างของหัวใจแล้ว ยังเป็นสัญญาณที่แสดงออกถึงความอ่อนล้าและความโรยราได้ชัดเจนที่สุด ดังนั้นเรามาถนอมดวงตาคู่สวยให้ดูอ่อนเยาว์เฉกเช่นเดียวกับการดูแลผิวกายและผิวหน้าให้สดใสกันดีกว่า

ดวงตาถือเป็นอวัยวะสำคัญที่มีบทบาทและมีคุณค่ามาก เรียกว่ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งที่เราเรียนรู้ในชีวิต ล้วนมาจากการมองเห็นทั้งสิ้น การมองเห็นที่ชัดเจนจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินชีวิต สายตาปกติเป็นผลของการที่แสงโฟกัสผ่านกระจกตา และเลนส์แก้วตา ลงพอดีที่จอประสาทตา แต่ถ้ากำลังการรวมแสงของตาไม่พอดีกับความยาวลูกตา จะเป็นผลทำให้การรวมแสงของตาตกไม่พอดีที่จอประสาทตา จึงเกิดภาวะสายตาผิดปกติได้

สาเหตุที่ทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตา

หลายสาเหตุในชีวิตประจำวันของเราส่งผลทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ จอโทรทัศน์ หรืออ่านหนังสือเป็นเวลานาน ทำให้ปวดตา เนื่องจากกล้ามเนื้อตาล้า หรือการเผชิญกับแสงแดดและแสงไฟจากอุปกรณ์ส่องสว่างมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคทางตาได้สูงกว่าปกติ เช่น โรคต้อเนื้อ ต้อกระจกบางชนิด และโรคจอประสาทตาเสื่อม

นอกจากนี้ หากดวงตาสัมผัสโดนสารปนเปื้อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควัน การใช้เครื่องสำอาง หรือสารเคมีในสระว่ายน้ำ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองตา และมีอาการพร่ามัวได้ เช่นเดียวกับการใส่คอนแทคเลนส์ที่สกปรก หรือใส่ขณะนอนหลับ จะทำให้กระจกตาได้รับออกซิเจนน้อยลง เนื่องจากเปลือกตาปิด ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ สูบบุหรี่จัด รวมถึงกรรมพันธุ์ ส่งผลต่อโรคทางดวงตาได้ทั้งสิ้น โดยผู้ที่ได้รับถ่ายทอดทางพันธุกรรมส่วนใหญ่มักจะแสดงอาการของโรคให้เห็นเมื่ออายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป

จะเห็นว่าหลายๆ ปัจจัยเสี่ยงเป็นสิ่งที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น เราจึงต้องรู้จักวิธีการดูแลรักษาและอยู่กับสิ่งเหล่านั้น โดยปลอดภัยต่อดวงตาของเรามากที่สุด

1. ควรพักสายตาจากการเพ่งมองหน้าจอต่างๆ ทุกๆ 20 นาที โดยหันไปมองสิ่งอื่น หรือที่ไกลๆซักประมาณ 20 วินาที จะช่วยป้องกันอาการปวดตา ตาล้า และตาแห้งได้ รวมทั้งการวางตำแหน่งคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ตรง 10-20 องศาใต้ระดับสายตา รวมทั้งจัดแสงไฟภายในห้องให้พอดี เพื่อลดแสงสะท้อนและความไม่สบายตา

2. หากต้องสัมผัสแสงแดดจ้า แนะนำให้ใส่แว่นกันแดดทุกครั้ง โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00-14.00 น. เนื่องจากเป็น ช่วงที่รังสีอัลตราไวโอเลตมีความรุนแรงมากที่สุด ซึ่งเลนส์แว่นกันแดดต้องสามารถป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้ โดยเลนส์สีเทาจะทำให้เห็นภาพได้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด

3. พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้ดวงตาระคายเคือง แต่หากสัมผัสไปโดน ควรล้างตาในน้ำสะอาด ไม่ควรใช้น้ำยา ล้างตา เนื่องจากดวงตาของเราผลิตน้ำตาตามธรรมชาติ เพื่อป้องกันและชะล้างสิ่งเหล่านี้ออกอยู่แล้ว หากใช้น้ำยาล้างตาอย่างต่อเนื่องจะทำให้ดวงตาสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไป

4. พักผ่อนให้เพียงพอ และทานผักผลไม้ที่เป็นประโยชน์ เน้นอาหารที่มีวิตามินเอ หรืออาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระประเภทลูทีน ซีแซนทีน จากพืชผักผลไม้ที่มีสีเขียวเข้มและสีเหลืองเช่น ผักคะน้า ผักปวยเล้ง ผักโขมและข้าวโพด ผลบลูเบอร์รี่ ซึ่งจะช่วยลดอันตรายจากอนุมูลอิสระในแสงแดดที่ทำลายจอตา และช่วยลดปัญหาตาบอดจากจอประสาทตาเสื่อมได้

สิ่งสุดท้ายที่สำคัญ แต่หลายๆคนอาจมองข้าม นั่นคือ การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ซึ่งจะช่วยรักษาความชุมชื้นให้ดวงตา อาจเลือกน้ำแร่ธรรมชาติ 100 เปอร์เซนต์ที่ผ่านการกรองทางธรรมชาติ ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติที่มีประโยชน์หลายชนิด ที่สำคัญอย่าลืมไปตรวจสุขภาพตาทุกปี เพื่อถนอมดวงตาคู่สวยให้อยู่กับเราไปยาวนาน


Cr. goodfoodgoodlife
ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.istockphoto.com/

ติดตามคอลัมน์อื่นๆ เพิ่มเติม ดาวน์โหลดนิตยสารในเครือจีเอ็มได้แล้วที่  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook