ประสบการณ์ไม่เหมือนใคร ลดน้ำหนักจาก 46.5 กิโลเป็น 47 กิโล อ๊ะ!!!

ประสบการณ์ไม่เหมือนใคร ลดน้ำหนักจาก 46.5 กิโลเป็น 47 กิโล อ๊ะ!!!

ประสบการณ์ไม่เหมือนใคร ลดน้ำหนักจาก 46.5 กิโลเป็น 47 กิโล อ๊ะ!!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลายเป็นกระทู้สร้างแรงบันดาลใจให้สาวๆ หลายคนที่อยากลดความอ้วนได้ดีจริงๆ สำหรับ กระทู้ฮอตจากคุณนัท สมาชิกหมายเลข 1960426 สมาชิกจาก http://pantip.com/ แนะนำวิธีการออกกำลังกาย เปลี่ยนพุงน้อยๆ ให้กลายเป็นกล้ามหน้าท้องยังกับนางแบบวิคตอเรียซีเคร็ท จากเอว 28 ลดเหลือ 24 นิ้ว แถมยังมีก้นเด้งชวนมอง เอวเป็นเอว ก้นเป็นก้น ดั่งฝันของสาวๆ ว่าแต่จะต้องออกกำลังการด้วยวิธีอะไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลยจ้า

เลิกสนใจตัวเลขบนตาชั่งกันได้แล้ว ให้ส่องกระจกดูเอาค่ะ

สวัสดีค่ะ นัทมีประสบการณ์ดีๆมาเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่นต้องแนะนำตัวว่า นัท อายุ 35 สูง 158 ตอนนี้หนัก 47 กิโล แต่ก่อนตอนที่นัทเริ่มอ้วน นัทน้ำหนัก 46.5 ค่ะ คือนัทไม่ได้เป็นคนที่อ้วนมากแต่กำลังจะเริ่มอ้วน คือเป็นคนที่รูปร่างผอมมาตลอด แต่พออายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญของคนเรามันทำงานแย่ลงค่ะ แล้วที่นัทอ้วนขึ้น นัทรู้ไม่ได้โดยการชั่งน้ำหนักนะคะ แต่โดยการสังเกตตัวเองคือ ยูนิฟอร์มที่ใส่ทำงานทุกวันๆเริ่มใส่ไม่ได้ค่ะ คับ ต้องเอาไปแก้ ... ร้องไห้เบาๆแต่นาน

แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองอ้วนเท่าไหร่ เพราะแต่ก่อนเคยเป็นคนผอม น้ำหนักขึ้นยาก แล้วพอน้ำหนักขึ้นมาก็รู้สึกว่าดีใจที่ตัวเองอ้วนขึ้นนิดนึง 555 แต่จุดพีคที่สุดที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเริ่มอ้วนขึ้นมากก็คือ ตอนนั้นไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ ใส่ชุดบิกินีแล้วเห็นพุงแบบเต็มๆเลย แขม่วเท่าไหร่ก็ยังยื่นอยู่ รู้สึกรับตัวเองไม่ได้จริงๆ ตอนนั้น โชคดีมีพี่ที่ไปด้วยเค้าออกกำลังกายเข้าฟิตเนส เค้าก็เลยอธิบายเรื่องการลดความอ้วนด้วยการออกกำลังกายและคุมอาหารให้ฟัง

จริงๆคือตอนนั้นนัทก็ไม่ค่อยเชื่อหรอกว่านัทจะทำได้ เพราะพี่เค้าบอกว่ามันต้องใช้เวลาและอาศัยความสม่ำเสมอ แต่นัทเป็นคนขี้เกียจ แค่ทำงานกลับบ้านมาก็เหนื่อยแล้ว ถ้าจะให้ไปออกกำลังกายด้วยคงจะยาก แต่ก็คิดในใจกับตัวเองว่า เอาวะ ลองดูสักตั้ง อยากรู้เหมือนกันว่าออกกำลังกายแล้วมันจะทำให้คนผอมได้จริงๆเหรอ แล้วก็อยากพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าฉันทำได้

แรทแคนดู หนูทำได้

คราวนี้มาดูวิธีการว่านัททำยังไงบ้าง

สิ่งที่นัทก็ทำคือเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่แล้วค่ะ ซึ่งก็คือคาร์ดิโอ+เวทเทรนนิ่ง+คุมอาหาร

คาร์ดิโอ คือ การลด หรือการกำจัดไขมันออกจากร่างกายเราค่ะ ซึ่งก็จะได้แก่การออกกำลังกายประเภทวิ่ง เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอโรบิก ตีแบด ตีเทนนิส ตีปิงปอง หรือการทำอะไรก็ตามที่ให้ heart rate ของเราเพิ่มขึ้นเป็นเวลาต่อเนื่องตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไปคือการคาร์ดิโอหมดค่ะ

เวทเทรนนิ่ง คือ การเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อกระชับเป็นรูปเป็นร่างสวยงาม หรือขั้นกว่าคือการเพิ่มกล้ามเนื้อค่ะ แต่สำหรับผู้หญิง ไม่ต้องกลัวนะคะว่าเล่นเวทแล้วจะล่ำ กล้ามใหญ่เป็นกล้ามปูอะไรอย่างงิ อยากบอกว่ามันยากมากกกกกกค่ะ (ยากมาก ก.ไก่ล้านตัว ขนาดผู้ชายยังยากเลยค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวนะคะ ดูนัทเป็นตัวอย่าง นัทก็เล่นเวทเยอะ ไม่เห็นจะล่ำเลย)

การคุมอาหาร คือ การกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย eat right ไม่ใช่ eat less กินให้ถูกต้อง ไม่ใช่กินให้น้อยลง หรือปัจจุบันที่เค้าเรียกกันว่า eat clean นั่นแหละค่ะ ใครที่ลดน้ำหนักด้วยการกินให้น้อยที่สุด นั่นคือการลดน้ำหนักที่ผิดวิธีนะคะ เพราะสิ่งที่ลดลงไปนั่นคือน้ำในร่างกายและมวลกล้ามเนื้อบางส่วน ไม่ใช่ไขมันค่ะ ไขมันยังอยู่เหมือนเดิม เซลลูไลต์ก็ไม่หายไปไหน และก็เห็นชัดขึ้นด้วยค่ะ

ช่วง 1 ถึง 5 เดือนแรก นัทออกกำลังกายเองที่บ้านค่ะโดยดูตาม YouTube หรือถามผู้รู้และเอามาปฏิบัติเองที่บ้าน ลองผิดลองถูกมาสารพัดเพราะแต่ก่อนการออกกำลังกายยังไม่ฮิตขนาดนี้ ไม่ค่อยมีใครให้ถาม โดยนัทจะเน้นคาร์ดิโอค่ะ ช่วงแรกๆ เพราะเป้าหมายของนัทตอนนั้นคืออยากกำจัดไขมัน และตอนนั้นนัทก็ไม่รู้ว่าเวทเทรนนิ่งก็ช่วยกำจัดไขมันได้ นัทมาแบบสายโหดนะคะ ช่วง 1-6 เดือนแรก

ตอนนั้นนัทคาร์ดิโอสัปดาห์ละ 4 ถึง 6 วัน วันละประมาณ 40 ถึง 60 นาทีค่ะ ส่วนเรื่องกินนัทก็เน้นกินโปรตีนค่ะ (โปรตีนก็จะเน้นพวกไก่กับปลาค่ะ) คือมื้อเช้าจะจัดเต็ม มื้อกลางวันจะน้อยลง เน้นโปรตีนค่ะ หมูหมากาไก่ กินเข้าไป คาร์โบไฮเดรตกินน้อยลงกว่าเดิมนิดนึง จาก 2 ทัพพีเป็น 1 ทัพพีอะไรประมาณนั้น ส่วนมื้อเย็นนัทไม่ทานคาร์โบไฮเดรตเลยค่ะ ทานแต่โปรตีนกับผัก บอกแล้วว่าตอนนั้นัทสายโหด ส่วนเวททรนนิ่งก็เล่นบ้างนิดหน่อยตามคลิปใน YouTube

ถ้าทำได้อย่างนี้นะคะ 2 เดือนเราก็จะรู้เลยว่าเราผอมลงและ 3 เดือนก็จะมีคนทักเลยค่ะว่านัทไปทำอะไรมา ดูผอมลง อ่ะ ดูรูปตอนที่นัทออกกำลังกายได้ 3 เดือน

ผอมเหมือนเดิมแล้ว กล้ามท้องมาเบาๆ

พอนัทรู้สึกว่าผอมลง นัทก็เลยเริ่มหันมาสนใจเวทเทรนนิ่งมากขึ้น เพราะเท่าที่ศึกษามาก็รู้ว่า การเล่นเวททำให้กล้ามเนื้อมันกระชับและเป็นรูปร่างสวยงามมากขึ้น นัทอยากมีหุ่นที่เฟิร์มแลดูกระชับสวยงามค่ะ ไม่ได้อยากได้หุ่นแบบผอมแห้ง นัทก็เลยเพิ่มเวทเทรนนิ่งมากขึ้นและลดคาร์ดิโอลง คราวนี้เล่นเวทสัปดาห์ละ 5 วันเลยค่ะ โดยใช้บอดี้เวทเล่นเองที่บ้าน ยังไม่ได้เข้าฟิตเนส ส่วนคาร์ดิโอลดลงเหลืออาทิตย์ละประมาณ 2 ถึง 3 วันค่ะ ดูรูปนัทประมาณ 5 เดือนหลังจากที่เริ่มออกกำลังกายได้

5 เดือนแล้ว ร่างกายเริ่มสวยงามขึ้น เพราะเล่นเวท

พอเข้าเดือนที่ 6 นัทเริ่มเข้าฟิตเนสและจ้างเทรนเนอร์ค่ะ เพราะเป้าหมายของนัทคืออยากมีกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น อยากมีช่วงบนที่สมส่วนและก้นเด้งดึ๋งๆ เหมือนฝรั่ง 555

ตั้งแต่เดือนที่ 6 จนถึงปัจจุบัน นัทก็ออกกำลังกายด้วยการมีเทรนเนอร์ หรือบางทีเทรนเนอร์ว่างไม่ตรงกับนัท นัทก็ออกเอง ออกมาอย่างสม่ำเสมอค่ะ อาทิตย์นึงนัทจะออกกำลังกายอย่างน้อย 2 วัน แต่บางทีไม่สบายก็ไม่ได้ออกเป็นอาทิตย์ๆก็มีนะคะ แต่สำหรับคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมาตลอดและควบคุมอาหารดีๆนั้น การขาดออกไปอาทิตย์นึง มันไม่เป็นปัญหาเลยค่ะ

เข้ายิมแล้วอุปกรณ์เยอะ ออกได้มากขึ้น ผลที่ได้ก็ดีขึ้นค่ะ

นัทเป็นสายโหดคือออกกำลังกายเยอะมาก กินคลีนมาก ได้ 6 เดือน หลังจาก 6 เดือน นัทก็ค้นพบสัจธรรมค่ะ คือจะทำอะไรต้องเลือกเดินทางสายกลางดีที่สุด ไม่ตึงหรือไม่หย่อนเกินไป ตอนที่นัทตึงมากๆ ชีวิตมันเครียดค่ะ วันไหนไม่ได้ออกกำลังกายก็เครียด วันไหนกินไม่ดีหน่อยก็เครียด กลัวจะกลับไปอ้วนเหมือนเดิม ใช้ชีวิตลำบากมาก ไปกินข้าวกับใครก็ไม่ค่อยได้ แต่ตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้วค่ะ ออกกำลังกายแบบพอดีๆ กินคลีนบ้างไม่คลีนบ้างปนๆกันไป แต่ก็ไม่ได้กินอะไรที่มันแย่มากนะคะ เลือกเอาที่มันดู healthy หน่อย เพราะถ้าเรากินแย่ ถึงแม้เราจะออกกำลังกายเยอะ แต่มันจะเห็นผลช้ามากค่ะ เราคงจะท้อใจไปก่อนที่จะสำเร็จ

สุดท้ายนี้อยากให้กำลังใจทุกคนที่หันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและลดความอ้วนนะคะ นัทอยากบอกว่าวิธีลดความอ้วนลดน้ำหนักที่ดีที่สุดก็คือการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ให้เราเลือกทำในแบบที่จะทำไปได้นานๆ ไม่ใช้ตึงเกิน เหมือนคนมาบังคับ อันนั้นมันจะทำได้แป๊บเดียว แล้วก็ไม่ใช่หย่อนเกิน กินตามใจปาก ออกกำลังกายตามอารมณ์ อันนี้กว่าจะผอมคงจะแก่ก่อน 555

ขอย้ำอีกครั้งนะคะว่า อยากได้หุ่นสวยสุขภาพดีมันไม่มีทางลัดค่ะ good things take time

การลดน้ำหนักลดความอ้วนด้วยวิธีออกกำลังกายและคุมอาหารคือวิธีที่ดีที่สุด แต่มันยาก ต้องใช้แรงใจอย่างมาก และเห็นผลช้า ไม่ทันใจ คนเลยล้มเลิกความตั้งใจ หันไปหาวิธีที่เห็นผลเร็วๆกัน แต่วิธีแบบนั้นมันทำให้สวยแบบชั่วคราว และสุขภาพจะเสียอย่างแน่นอนค่ะ

หน้าท้องแบน ก้นเด้ง ถ้าเอาจริงๆ มันก็ทำได้ค่ะ ถ้าจะให้ก้นเป็นแบบนี้ต้องเน้นการกินโปรตีน ถ้าอยู่ในช่วงกินน้อยๆ เพื่อลดน้ำหนัก มันจะไม่ได้ผลค่ะ เพราะสารอาหารมันไม่พอที่จะเข้าไปสร้างกล้ามเนื้อก้นของเรา เวลาเล่นก็ต้องเล่นท่าให้ถูก ให้โดน บางคนใช้น้ำหนักในการเล่นเยอะ แต่ทำท่าไม่ถูก ไม่โดน เสียแรงเปล่าค่ะ 

ท่าที่นัทเล่นบ่อยๆ คือ squat ,lunge ,glute bridge ,hip thrust ,donkey kick ,hip abduction ทุกท่าใส่น้ำหนักเพิ่มค่ะ

หุ่นในฝันของใครหลายๆคน แต่ตอนนี้คือหุ่นเรา ไม่รู้จะบรรยายยังไงว่ามันมีความสุขแค่ไหน

กว่าจะได้มา บางครั้งก็เจียนตายเหมือนกันค่ะ บางทีก็เช็ดทั้งเหงื่อและน้ำตาในคราเดียวกัน

ออกกำลังกายสวยชาตินี้จ้าาา

ติดตามนัทได้ทาง Facebook fan page : train hard look hot by Nattie มีอะไรถามได้เลยค่ะ นัทไม่คิดตังค์ 555 ให้เม้นท์มาใต้รูปได้เลยนะคะ ว่างๆนัทจะเข้าไปตอบ อย่าพึ่งเข้าไปถามในอินบ็อกซ์เพราะตอนนี้นัทตอบอินบ็อกซ์ไม่ทันแล้วค่ะ แต่ก่อนถามรบกวนคลิกเข้าไปดูในแต่ละรูปนะคะ ส่วนใหญ่นัทจะเขียนข้อมูลต่างๆ ที่เพื่อนๆอยากรู้ไว้หมดแล้วค่ะ หรือเข้าไปหาแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายที่ Facebook ของนัทได้ค่ะ ชื่อ Nattie Surapayanon ถ้าเป็นเรื่องออกกำลังกาย นัทจะเปิดเป็น public ไว้ค่ะ เข้าไปดู จะได้มีแรงฮึด ส่วนคลิปออกกำลังกายก็เข้าไปดูได้ที่ YouTube นัทนะคะ ลงไว้เยอะพอสมควร พิมพ์ nattie trainhard ได้เลยค่ะ

อย่าอ้างว่าไม่มีเวลา เพราะนัทก็เป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเหมือนกัน นัททำงานหลายอย่าง ไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆ แต่นัทก็จัดเวลาในการออกกำลังกายค่ะ เพราะนัทรู้ว่ามันดีต่อเรายังไง ถ้าเรามีใจ มันก็มีทางแน่นอนค่ะ


สำหรับการออกกำลังเปลี่ยนอะไรชีวิตนัทบ้าง

มีสุขภาพจิตดีขึ้น มีสมาธิและมีวินัยมากขึ้นค่ะ อีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เรื่องสุขภาพ ก่อนหน้านี้นัทเป็นโรคความดันต่ำ ตอนนี้สุขภาพแข็งแรง มีความสุขที่ได้เห็นหุ่นของตัวเองค่ะ


อยากฝากอะไรถึงสาวๆ Sanook! Women ที่กำลังจะเริ่มออกกำลังกายแต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร 

ถ้าไม่ได้อ้วนมาก เพียงแค่ต้องการมีกล้ามหน้าท้อง นัทแนะนำให้เล่นเวท หรือถ้าครั้งแรกที่ไปจะเล่นลู่วิ่งก่อนก็ได้ ไม่ต้องกลัวว่าการยกเวทจะทำให้แขนคุณใหญ่มากกว่าเดิม ให้ยกเวทที่มีน้ำหนักกำลังพอดี ไม่มากจนยกไม่ไหว ถ้าคุณสาวๆ ได้ลองหันมาออกกำลังกายจนได้รูปร่างที่พอใจ จะใส่ชุดไหนแบบไหนก็มั่นใจตลอดเวลาค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook