8 พฤติกรรม “ทรมานผิวยามล้างหน้า” ที่สาวไทยชอบทำ

8 พฤติกรรม “ทรมานผิวยามล้างหน้า” ที่สาวไทยชอบทำ

8 พฤติกรรม “ทรมานผิวยามล้างหน้า” ที่สาวไทยชอบทำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การล้างหน้าถือว่าเป็นกิจวัติประจำวันของสาวๆทุกคนอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นล้างหน้าตอนเช้าหรือตอนเย็น ซึ่งถ้าดูเผินๆก็เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆธรรมดาที่ไม่เห็นจะต้องดูแลอะไรใช่มั้ยล่ะ? แต่ใครจะรู้บ้างว่าในแต่ละขั้นตอนของการล้างหน้าแบบผิดๆนั้นคือการทรมานผิวหน้าตัวเองอยู่



ไหนมาดูสิว่ามีพฤติกรรมแบบไหนกันบ้างนะ

ล้างมือไม่สะอาดก่อนล้างหน้า ต่อให้ล้างหน้าสะอาดแค่ไหนแต่ทำไมยังเป็นสิวอยู่
เรื่องง่ายๆที่หลายคนมองข้าม ใครจะไปคิดว่ามือที่เราหยิบจับอะไรมาทั้งวันจะมีเชื้อโรคอยู่มากมายแค่ไหน และลองคิดดูถ้าเจ้าเชื้อโรคมากมายพวกนั้นมาอยู่บนใบหน้าเรา จากที่เคยคิดว่าหน้าจะสะอาดกลับกลายเป็นยิ่งเพิ่มความสกปรกให้กับผิวหน้า…น่าสะพรึงมากใช่มั้ยล่ะ!

ล้างหน้าจนรู้สึกกว่าหน้าตึง นี่สิ…สะอาดแน่
ยอมรับมาซะดีๆว่าหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าการล้างหน้ายิ่งหน้าตึงเท่าไหร่ยิ่งสะอาดเท่านั้น ส่วนใหญ่เลยเลือกใช้โฟมล้างหน้าหรือสบู่ล้างหน้าเพราะเชื่อว่าทำความสะอาดได้ดี แต่ขอบอกเลยว่าคิดผิดนะจ๊ะ! เพราะว่าในโฟมล้างหน้าหรือสบู่เนี่ยมีกรดที่ล้างความมันออกไปมากจนพลอยล้างเอาน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวออกไปด้วย ทำให้ผิวเสียสมดุลง่ายและยิ่งผลิตน้ำมันออกมาทดแทนมากขึ้นจ้า

ถูหน้าแรงๆ ยิ่งแรงยิ่งสะอาด
หยุดความคิดนี้ได้เลยนะคะสาวๆ จำไว้เลยว่าผิวหน้าของคนเรานั้นถือว่าเป็นอะไรที่บอบบางมากๆ ดังนั้นถ้าหากถูแรงๆ บ่อยๆ รับรองเลยว่าใบหน้าของเราจะเกิดริ้วรอยก่อนวัยอย่างแน่นอน

ขัดหน้าบ่อยๆ สครับผิวทุกวัน ผิวใสแน่นอน
จริงอยู่ว่าการสครับผิวเป็นเรื่องดี ผลัดเซลล์ผิว หน้าใส ถูกเข้าไป ขัดแรงๆ ยิ่งถูมากและรุนแรงยิ่งทำให้รูขุมขนสะอาดมากขึ้น สิ่งที่ทำมาทั้งหมดบอกเลยค่ะว่าผิด ยิ่งขัดผิวมากยิ่งทำให้ผิวระคายเคือง ยิ่งเป็นการรบกวนผิว ฉะนั้น สครับผิวแต่พอดี สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็ถือว่าเพียงพอล่ะ

ใช้โทนเนอร์แรงๆจนรู้สึกแสบ แต่ก็ทน เพราะกลัวหน้าไม่สะอาด
เอาจริงๆนั้น ใบหน้าของเราเป็นผิวที่บอบบางมากกว่าที่อื่น ฉะนั้น การที่ใช้โทนเนอร์แรงๆแบบที่ว่าพอเช็ดปุ๊ปจะรู้สึกยุบยิบเหมือนโดนกัดแล้วล่ะก็บอกเลยว่าผลิตภัณฑ์นั้นรุนแรงเกินไปสำหรับผิวของเราแล้วล่ะ การรุนแรงนี้จะทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง และสุดท้ายก็คือเป็นสิวมากขึ้นได้

แต่งหน้าหนัก non-stop แต่ใช้แค่โฟมล้างหน้า
บ่อยครั้งที่ทำงานเหนื่อยๆกลับมาถึงก็หมดแรงอยากล้มตัวลงนอนแล้ว บอกเลยนะคะ ว่าการไม่ล้างหน้าก่อนนอนหรือล้างแบบลวกๆใช้แค่โฟม โดยไม่ใช้ Cleansing เนี่ย เป็นการทำร้ายผิวไปอีกเป็นอาทิตย์ๆเชียวนะ เพราะเมคอัพทั้งมวลจะไปกระจุกตัวในรูขุมขน ยิ่งทำแบบนี้บ่อยแค่ไหน วงจรผิวก็ยิ่งเสียสมดุล หน้าพังแน่นอน

ใช้ Oil ล้างหน้าใช่ว่าจะดีเสมอไป
เพราะสาวๆที่ใช้ Oil ล้างหน้า จะทำให้เกิดสิวอุดตัน และใช้สูตรน้ำล้างหน้า เป็นสารเคมีล้วนๆทรมานผิวที่สุด ทำให้ผิวหน้าแห้งกร้านและหน้าแก่ก่อนวัย เรียกว่าล้างหน้าสะอาดแค่ไหนก็ยังเป็นสิวแถมหน้าแก่อีกด้วย

ไม่บำรุงผิวหลังล้างหน้า
ล้างหน้าจนแห้งตึงแล้วถ้าไม่บำรุงผิวหน้าอีก คุณจะเป็นคนที่ทำร้ายหน้าตัวเองอย่าสมบูรณ์เลยล่ะ ฉะนั้น สิ่งสุดท้ายหลังล้างหน้าคือการทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือทาผลิตภัณฑ์เหล่านี้คือตอนกลางคืนเพราะเป็นช่วงเวลาพักผ่อนของผิวค่ะ

แล้วสาวๆล่ะคะ เคยชินกับพฤติกรรมผิดๆแบบไหนบ้าง? ที่นอกจะเป็นการทำร้ายผิวหน้าทางอ้อมแล้วยังใช้เวลานานเหลือเกินกว่าจะเสร็จแต่ละขั้นตอน แต่จะดีกว่านี้มั้ยนะ…ถ้าเรามีตัวช่วยที่ง่าย ไม่ทำลายผิวหน้า แถมประหยัดเวลาอีกด้วย!

เอาล่ะ…ถึงเวลาบอกลาคลีนซิ่งแรงๆ สบู่หรือโฟมล้างหน้าทั่วไป มาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทั้งทำความสะอาดและดูแลผิวหน้าในขั้นตอนเดียวกันดีกว่า อยากบอกว่าตอนนี้มีหลายผลิตภัณฑ์ด้วยกันที่ตอบโจทย์ความต้องการสาวๆแล้วนะ อย่าง “SNAILWHITE CLEANSING” ที่เป็นทั้ง Cleanser และ Make Up Remover ในตัวเดียว รวมถึงยังช่วยบำรุงผิวหน้าด้วยสารสกัดเมือกหอยทากทำให้หน้าคงความชุ่มชื่น เรียกว่าต่อให้ขี้เกียจล้างหรือบำรุงหน้าแค่ไหน หน้าก็สะอาดใส เนียนเด้ง ง่ายๆ ภายในขั้นตอนเดียวเลยล่ะ

สาวๆคนไหนที่อยากมีผิวหน้าที่สวยและสุขภาพดี นอกจากจะใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่ดีเหมาะสมกับสภาพหน้าของเราแล้ว ยังต้องมีวินัยในการดูแลตัวเองด้วยนะ ถึงจะเรียกว่าสวยครบสูตรของจริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook