5 อาชีพสุดคูลของหนุ่มๆ Cleo Bachelor 2015

5 อาชีพสุดคูลของหนุ่มๆ Cleo Bachelor 2015

5 อาชีพสุดคูลของหนุ่มๆ Cleo Bachelor 2015
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้เราจะพามาดูหนุ่มๆ ในสายอาชีพสุดคูลกันบ้าง 5 คน 5 อาชีพ ที่รับรองเลยว่าความเท่ห์นี่กินกันไม่ลง

นิธิวุฒิ (เฟม) โรจน์ประสิทธิ์พร, 26 ปี นักบิน

“AIRPLANE เป็นศัพท์อังกฤษคำแรกที่เราสะกดได้”

ผู้ชายหลายคนอาจอยากเป็นนักบินเพราะเท่ห์ ดูดี สาวกรี๊ด แต่ไม่ใช่สำหรับเขาคนนี้

เฟมบอกว่าวินาทีแรกที่ขึ้นเครื่องบินไปเรียนต่อสิงคโปร์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก ก็รู้สึกอยากเป็นนักบินตั้งแต่ตอนนั้นเลย “สำหรับเรามันคืออาชีพที่ใฝ่ฝัน และแพชชั่น”

เฟมบอกคลีโอว่า การเป็นนักบินนี้ คืออาชีพที่อยากทำไปเรื่อยๆ ยังไม่มีความคิดว่าจะหยุดเลย

“ได้เที่ยวรอบโลก ได้ไปเจออะไรแปลกใหม่ตลอดเวลา ถึงจะเป็นท้องฟ้าเดิม แต่อากาศก็ไม่เหมือนเดิม ทุกเที่ยวบินที่กำลังจะบิน มันคือครั้งแรกเสมอ ไฟลท์วันนี้ ก็ไม่ใช่ไฟลท์พรุ่งนี้ มันคือการท้าทายทุกครั้งที่บิน”

อาชีพนี้ทำให้เฟมต้องเตรียมตัวอย่างดีทุกครั้ง เพราะเจอเรื่องท้าทายได้ตลอดเวลา ต้องแก้ปัญหาให้ได้ถูกและรวดเร็ว ถ้าเกิดมีปัญหาขัดข้องบนเครื่องตอนนั้น มีเวลาจำกัด เครื่องอยู่บนฟ้า พักจอดก็ไม่ได้ หยุดไม่ได้ ต้องแก้เดี๋ยวนั้นเลย

“มันคือความภูมิใจ เหมือนเราขนคน 300-400คน ไปอีกเมืองนึง ทั้งๆที่เขาไม่เคยรู้จักเรามาก่อน เขายังไว้ใจเราได้ขนาดนี้”

เขาทิ้งท้ายแบบคูลๆของเสน่ห์นักบินให้เราได้คิดตาม “มันคือการเริ่มจากเมืองนี้ ใช้เวลาและไปจบอีกเมืองนึง เรากินข้าวเช้าที่กรุงเทพ แต่วันนั้นเราอาจได้กินข้าวเย็นที่ฝรั่งเศสก็ได้”

เฟรดดดดดดเฟ่!




ธนกฤต (คริส) แสงวณิช, 22 ปี เชฟ

“ไม่คูลกว่าอาชีพอื่นหรอก แต่เรารักในอาชีพนี้”

หนุ่มคริสเล่าให้ฟังถึงความหลงใหลในการเป็นเชฟและได้ทำงานร่วมกับน้องชายของเขาตลอดเวลา “มันก็ดีที่ได้แชร์ความคิด มีคนเป็นเพื่อนกิน น้องชายผมกินได้ทุกอย่าง ไม่เลือก ทำให้เราอยากลองทุกอย่างมากขึ้น กินได้หมดตั้งแต่อาหารในภัตตาคารหรูๆ ไปจนถึงนั่งกินกันในร้านข้างถนน เทสของเราก็พัฒนา เวลาเจออะไรใหม่ๆ ก็เอาจากเทคนิคที่เราเรียนมาบวกกับของที่เพิ่งลองใหม่ มาปรับใช้ในแบบของเรา”

“เหมือนน้องชายเป็นผู้ช่วย แต่ก็เป็นแรงกดดันให้เราต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆอ่ะครับ” หนุ่มกวนของเราจบประโยคแบบซึ้งๆ

ถ้าจะให้อธิบายความเป็นอาชีพนี้ คริสบอกว่า “มันเหมือนงานอิสระ คืออิสระทางความคิด แต่มันก็เป็นงานประจำ ที่ต้องเข้าเป็นเวลา นำประสบการณ์ที่เราเคยเจอมา เอามาประยุกต์ใช้ เช่นเวลาไปเที่ยว งานอาร์ตต่างๆ ลองอาหารพื้นเมืองแล้วเอามาปรับให้เข้ากับวัตถุดิบไทย”

อาหารที่เขาชอบที่สุด ถ้าเป็นอาหารไทยก็ คะน้าหมูกรอบ แต่ถ้าทั่วโลกแล้วต้องนี่เลย ทาโก้แม็กซิกัน!!

“เอาเศษเนื้อเศษอะไรมาใส่ทำให้อร่อย คือถ้าอร่อยมันก็คือจบ” พร้อมรำลึกความหลังให้ฟังว่า “ตอนอยู่นิวยอร์ค มันมีร้าน Maxican แถวนั้น ไส้ทาโก้จะไม่เหมือนของเมืองไทย มันหลากหลายมาก ซาลซ่าก็เยอะกว่า เจ๋งตรงมันมีทาโก้กระบองเพชร คือเอากระบองเพชรไปต้ม ตามแบบแม็กซิกัน ต้มให้นานจนเปื่อยแล้วเอามาสับรวมกัน เป็นไส้ทาโก้ที่เจ็งมาก”

โอ้โห นี้เราฟังจนอิน แอบคิดอยากให้งาน Cleo Bachelors ของเรามีทำอาหารโชว์ละเนี่ย!!



วฤธ (ท็อป) ใต้ฟ้ายงวิจิตร, 23 ปี สต็อคเทรเดอร์

“เงินมีให้เราทำได้มหาศาล ไม่มีลิมิต แค่ต้องดูให้เป็นและเข้าให้เป็น”

ท้อปเล่าถึงอาชีพเขาในตลาดหุ้นให้ฟัง หลายคนอาจจะมองว่าเครียด หัวระเบิดแน่ๆ แต่เขากลับพบว่ามันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและท้าทาย กล้าได้กล้าเสี่ยง เหมือนเล่นไพ่ Poker นั่นแหละ เขาชอบอยู่แล้ว อารมณ์นี้!

“หน้าที่เรา คือการหาเงิน ไม่มีการหาลูกค้า ไม่ต้องบริการหรือเอาใจใคร นั่งมองจอข้างหน้าซึ่งคือตลาดเงิน ทุกวันเราดีลกับ เงิน” หนุ่มท้อป พยายามอธิบายอาชีพของเขาให้สาวๆอย่างเราเข้าใจ “มันคือการซื้อมา ขายไป หวังว่าเราจะซื้อของถูกแล้วมาขายในราคาแพง ต้องนั่งเทรดทุกวัน บางครั้งซื้อมา แต่อีกสิบวิก็ขายแล้ว ถึงหุ้นจะขึ้นแค่สองสตางค์ แต่เราก็ได้กำไรเป็นหมื่นๆได้ มันคือการเล่นกับความเสี่ยง ยิ่งเสี่ยงเยอะก็ได้เยอะ แต่บางทียิ่งได้เยอะ ก็เสียเยอะเหมือนกัน”

แค่ฟังเราก็ปวดหัวเอามือกุมขมับแทนแล้ว แต่ท้อปก็บอกว่าถึงจะเครียด แต่ข้อดีที่สบายๆของมันก็มี “ไม่มีงานที่ต้องห่อกลับไปทำที่บ้าน ไม่มีการบ้าน เราแค่เตรียมตัว เช็คว่าตัวไหนน่าเล่น ศึกษาตลาดหุ้นไปเรื่อยๆ เวลาทำงานก็ตามตลาดหุ้นเปิดเลย นั่งอยู่หน้าจอ 10โมงเช้าถึงเที่ยงครึ่ง แล้วก็อีกที 2.30-4.30 เครียดจริงๆ ก็มีแค่สี่ชั่วโมงครึ่งเนี่ยแหละ เริ่มงานช้าหน่อย บางทีมาถึงที่ทำงานก่อนก็ดี ก็อ่านหนังสือพิมพ์ ตามข่าวไปเรื่อย ดูว่าตัวไหนน่าเล่น ตอนเที่ยงก็ได้พักนาน มีเวลาทำอะไรของเรา เหมือนเล่นเกมส์สมอง คิดว่า ทำไมคนเขาถึงทำแบบนี้ จุดไหนที่คนเขาจะกลัวแล้วอยากขายให้เรา”
ว่าแล้ว ท้อปก็ขอทิ้งท้ายอย่างเท่ห์ๆว่า “งานอย่างอื่น ถ้าเราไม่มีลูกค้า ก็ไม่ได้เงิน แต่นี่เราแค่นั่งอยู่กับตัวเลข ถ้าเรามาถูกทาง ก็เงินทั้งนั้น”



พิษณุ (เบนซ์) ศีลนำกิจ, 28 ปี กราฟฟิกดีไซเนอร์

“กราฟฟิกไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่หน้าคอมทั้งวัน เราต้องออกไปหา inspiration ข้างนอกด้วย”

พูดถึงหนุ่มอาชีพนี้ แว๊บแรกเราคิดว่าเขาต้องมีความติสท์อยู่พอตัว ดูแล้วน่าจะเข้าถึงยาก แต่พอได้ยกหูคุยกับเบนซ์ 1 ใน 50 หนุ่มคลีโอของเราแล้ว ถึงรู้ว่าสิ่งที่เราคิดมันไม่ใช่เลยอ่ะ “ส่วนใหญ่คนจะชอบคิดว่าคนเป็นกราฟฟิกจะต้องติสท์ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ แต่จริงๆ เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่แล้วนะ กราฟฟิก ไม่จำเป็นต้องเนิร์ด หรือเซอร์ เราก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่จำเป็นต้องอยู่หน้าคอมทั้งวัน มันต้องมีเวลาออกไปข้างนอกบ้าง ต้องหา inspiration”

และวิธีการหา Inspiration หนุ่มคนนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดานะ จริงจังเลยล่ะ “ขึ้นอยู่ว่าตอนนั้นทำงานเกี่ยวกับอะไรอยู่ อย่างตอนนี้ทำเรื่องเวย์โปรตีน ก็ไปทำรีเสิร์ชที่ยิม หาข้อมูล มีถามจากคนอื่นบ้าง ดูฟีดแบก ความคิดเห็นของเขา เพื่อเอามาพัฒนางานของเรา”

แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นกราฟฟิกจะต้องยุ่งไปซะหมด เบนซ์บอกว่าถ้าเราเมเนจเวลาดีๆ เราก็ใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไปนั่นแหละ แค่เวลามีแฟน ก็ต้องจัดแบ่งเวลาให้ดีๆ เท่านั้นเอง

เบนซ์แอบทิ้งทิปส์ดีๆ ไว้ด้วยว่า “การเป็นกราฟิกที่ดี เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ต้องคิดอะไรที่แตกต่าง คิดนอกกรอบ” อ่อ อีกอย่างนึงเบนซ์บอกว่าเราต้องขยันที่จะอัพสกิลตัวเอง “ต้องเรียนรู้เรื่อยๆ วิธีการคิดมันอาจจะเหมือนเดิม แต่วิธีการใช้มันต้องอัพเดทตลอด เราต้องตามให้ทัน”

ธนบัตร (ทอมมี่) กายเออร์, 27 ปี ช่างภาพ

“การถ่ายภาพเป็นวิธีเดียวที่เราจะหยุดโม้เมนท์นั้นไว้ได้ มันเป็นเหมือนภาพประวัติศาสตร์”

หนุ่มช่างภาพคนนี้มีดีกรีรางวัลถ่ายภาพการันตีฝีมือ เขาเล่าให้ฟังว่าเริ่มหลงรักอาชีพนี้ตั้งแต่ตอนเรียนนิเทศฯ ที่มหาวิทยาลัย “ตอนนั้นเรียนกล้องฟิล์ม ชอบมาก หลังจากนั้นก็ได้มาถ่ายภาพเด็กก่อน ถ้าเป็นเบบี๋จะไม่ยากมาก พอน้องคลานได้ก็แอบเพิ่มเลเวลขึ้นมานิดนึง แต่พอวิ่งได้ 555 สนุกเลย เราต้องควบคุมให้ได้ อย่าไปเร่ง ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ด้วย”

หลังจากนั้นทอมมี่ก็มีโอกาสได้เป็นพิธีกรรายการสอนถ่ายภาพ ตอนนี้ก็เรียกได้ว่า เขาถ่ายได้ทุกแนว ทั้งพรีเวดดิ้ง แฟชั่น Portrait แต่แนวที่ดูจะอินที่สุดตอนนี้จะเป็นแนวหลังสุดนี่แหละ “มันคือการดึงคนหนึ่งคนออกมา ดึงอารมณ์ ความเป็นตัวเขาออกมาให้ได้”

และมุมดีๆ ที่ทำให้ทอมมี่ตกหลุมรักอาชีพนี้ ก็คือ “พอเราได้ถ่ายคนมากขึ้น ก็รู้จักคนมากขึ้น มีคอนเนคชั่นมากขึ้น และทำยังไงก็ได้ให้เขาประทับใจมากที่สุด จริงๆ แล้ว การถ่ายภาพก็คือการเสริมสร้างความมั่นใจ”

เทคนิคการเป็นช่างภาพที่ดี ทอมมี่บอกว่า “ต้องมีบุคลิกที่ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เอาใจใส่ลูกค้า และตรงต่อเวลา” อีกหนึ่งทริคที่เราขอยกให้เป็นซิกเนเจอร์เด็ดของเขาเลยก็คือ “เวลาถ่ายภาพ ในฐานะช่างภาพเรามักจะมีภาพอยู่ในหัว แต่บางทีคนที่เราจะถ่ายเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น เราก็อย่าไปคาดคั้นเอาสิ่งในหัวเราไปยัดใส่เขา ” ทอมมี่เลือกที่จะนัดคุยหรือกินข้าว เพื่อที่จะได้พูดคุยกันก่อน จะได้รู้จักไลฟ์สไตล์ เพื่อให้งานออกมาตรงใจเขามากที่สุด เห้ย ชอบอ่ะ


Source: cleothailand

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook