จากบุคคลธรรมดาก้าวทะยานสู่ตำแหน่ง CEO เจ้าของธุรกิจ SMEs แบรนด์ Grace “

จากบุคคลธรรมดาก้าวทะยานสู่ตำแหน่ง CEO เจ้าของธุรกิจ SMEs แบรนด์ Grace “

จากบุคคลธรรมดาก้าวทะยานสู่ตำแหน่ง CEO เจ้าของธุรกิจ SMEs แบรนด์ Grace “
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
จากบุคคลธรรมดาก้าวทะยานสู่ตำแหน่ง CEO เจ้าของธุรกิจ SMEs แบรนด์ Grace “ชลีทิพย์ ทิพเนตร”  
 
 
การสร้างธุรกิจ ไม่ว่าเล็ก หรือใหญ่ เราจำเป็นต้องใช้ความมุ่งมั่น และ ตั้งใจเป็นอย่างมาก และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือความพร้อมในการทำ รวมทั้งแรงบันดานใจต่างๆ ยิ่งธุรกิจที่เริ่มต้นด้วยตัวเองจากศูนย์แล้วยิ่งต้องเพิ่มความมุ่งมั่น หรือจะพูดได้ว่าต้องเพิ่มความพยายามในการบากบั่น และอดทนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 
และจากความมุ่งมั่น อดทน เริ่มต้นทำโดยใช้แนวคิดว่าอยากให้ผลิตภันฑ์ที่ทำออกมาดี จึงเลือกใช้แต่ส่วนผสมที่ดีที่สุด เรียกได้ว่าผลิตภันฑ์เหล่านี้ทำออกมาจากใจของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการมอบสิ่งดีๆ ให้กับทุกคนได้ใช้ และด้วยแรงกระตุ้นของความเป็นแม่ที่กลัวลูกลำบาก จึงทำให้เราได้มีโอกาสได้รู้จักแบรนด์ชื่อว่าGrace ที่มีผลิตภัณฑ์กว่า 12 ตัว อีกทั้งแต่ละตัวยังมีจุดเด่น และ ความแตกต่างกันอย่างลงตัว 
 
ด้วยความสำเร็จของแบรนด์ Graceที่ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ “เปิดใจ” + “ปากต่อปาก”  หัวใจหลักคือเน้นใช้ได้ในชีวิตประจำวัน  กลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัยและทุกคนภายในครอบครัว แม้กระทั่งเด็กเล็ก และผู้หญิงตั้งครรภ์ปลอดภัย 100 % ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่เอาความพอใจ เชื่อใจของลูกค้าเป็นที่ตั้ง ดังนั้นแน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ต้องดีจริงจึงเกิดการบอกต่อ และซื้อซ้ำกันอย่างต่อเนื่อง
Graceเป็นชื่อแบรนด์ที่มีชื่อเดียวกันกับเจ้าของธุรกิจ คุณเกรซ (ชลีทิพย์ ทิพเนตร) ตั้งขึ้นเพื่อให้ง่าย และสะท้อนความเป็นผู้หญิง ความเป็นมาของแบรนด์นี้เริ่มจากความต้องการให้นมลูกเองเลี้ยงลูกเองของคุณแม่วัย 27 ปี รวมกับการเป็นคนที่ชอบช้อปปิ้งเสื้อผ้า และจากผู้ซื้อ จึงกลายเป็นผู้ขาย โดยเอากำไรไม่มาก เน้นความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งกิจการก็ดำเนินไปได้ด้วยดี รวมทั้งยังทำงานเป็นโบร็กเกอร์ควบคู่ไปด้วย จึงสามารถส่งให้ลูกเรียนโรงเรียนอนุบาลดีมีชื่อเสียงได้และยังสามามารถเลี้ยงคุณตาคุณยาย ได้อย่างสบาย
จนมาถึงปี 2554 น้ำท่วมหนัก คุณเกรซ มีจิตอาสาซื้อของบริจาคด้วยเงินของตัวเอง 2 – 3 แสนบาท เพราะคิดว่าช่วยคนไทยด้วยกัน เงินแค่นี้ไม่ตายก็หาใหม่ได้ แต่พอมาปี 2555 เกิดวิกฤตกับชีวิตล้มลุกอยู่ 2 ปี เริ่มทำงานหลายอย่าง ทั้งขายเสื้อผ้า เป็นโบร็กเกอร์ ทำน้ำพริก ขนม หมูทอดขายนอนตี 3 ตื่น ตี 4เหนื่อยมากแต่ก็ยังไม่มีคำว่าท้อ จนถึงตอนนี้ น้ำพริก และ ขนมก็ยังขายอยู่ สามารถสั่งได้ที่ @gracezappbygraceey
ขึ้นปี 2558
ปีนี้งานโบร็กเกอร์เริ่มกลับมาทำกำไรหุ้นให้ลูกค้าได้พอตัว และด้วยความคิด ความเชื่อมั่นว่าเรามีความสามารถทางด้านการทำผลิตภัณฑ์ความสวยความงามแบบธรรมชาติได้ จึงตัดสินใจชวนลูกค้าหุ้นลงทุน เริ่มทดลองผลิตภัณฑ์ตั้งแต่มกราคม คิดสูตรงเอง ลองใช้ทุกอย่างด้วยตัวเองจนได้สูตรสมบูรณ์ที่สุด จึงเอาฤกษ์ดีปีใหม่ไทย เปิดแบรนด์ Graceด้วยสบู่แอปเปิ้ล วันที่ 16 เมย. เปิดตัวและเป็นที่น่ายินดีอย่างมากเพราะเพียง 1 สัปดาห์ ขายสบู่หมด2,000ก้อน 
นับได้ว่าเป็นนักธุรกิจสาวอีกคนที่เก่งทั้งความสามารถ มีความจริงใจในการสร้างผลิตภัณฑ์ เป็นอย่างมากจึงทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดีซึ่งสามารถการันตีได้จากการที่แบรนด์สบู่ “Grace”เปิดตลาดมาได้เพียงระยะเวลา  2 เดือนในกลุ่มผลิตภัณฑ์สบู่มียอดขายอยู่ที่10,000 ก้อน และด้วยเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังขยับตัวขึ้นทางแบรนด์จึงคาดว่ายอดขายของสิ้นปีนี้จะสามารถทำได้ถึง100,000 ก้อน
และยังคาดหวังส่วนแบ่งการตลาด 1 % จากตลาดโดยรวมของสบู่ก้อนพร้อมยังได้วางแผนขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ขานรับ AEC เปิดดังนั้นทางบริษัทฯ มีวางผลิตภัณฑ์ภายในประเทศลาว และประเทศมาเลเซียสเต็ปต่อไปพร้อมลุยสื่อออนไลน์เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็มีการวางแผนการตลาดส่งออกสินค้าวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดมินิมาร์ทในประเทศจีนและ พม่า ในลำดับต่อไป
เจ้าของธุรกิจคุณเกรซ ทั้งสวย ทั้งเก่ง และ ผลิตภัณฑ์ยังมีการการันตีจากคนใช้ว่าดีขนาดนี้ หากคุณกำลังอยากเปลี่ยนหรืออยากดูแลตัวเองและอยากสนับสนุนแบรนด์คนไทยที่เป็นเกรดพรีเมี่ยมคุณภาพส่งออกให้นึกถึงแบรนด์ GRACE กันนะคะ
สนใจผลิตภัณฑ์สั่งซื้อได้ที่ Fanpage : Graccy Grace หรือ ID Line : graccygooddyและ IG : Grace_officialthailandสามารถสอบถามหรือสมัครตัวแทนจำหน่ายที่ Call Center : 083-023-0543 และมีวางจำหน่ายที่ร้านอีฟแอนด์บาย 3 สาขา คือ สยามสแควร์ ขอนแก่นในเมือง และสาขาอโศก ภายในเดือนพฤศจิกายน 2558 นี้เป็นต้นไป
 
[Advertorial]
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook