หมดยุคของยีนส์แบบสกินนี่ เพราะนี่คือช่วงเวลาของเดนิมสไตล์ทอมบอย

หมดยุคของยีนส์แบบสกินนี่ เพราะนี่คือช่วงเวลาของเดนิมสไตล์ทอมบอย

หมดยุคของยีนส์แบบสกินนี่ เพราะนี่คือช่วงเวลาของเดนิมสไตล์ทอมบอย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กางเกงยีนส์ทรงแข็งเนื้อผ้าค็อตตอนเดนิม 100% ชิ้นเบสิกสไตล์ทอมบอยของแท้และดั้งเดิมนี่แหละที่ถูกกองทิ้งไว้ในตู้ เมื่อสกินนี่ยีนส์ผ้ายืดยึดครองความนิยมนานนับทศวรรษ เจ้ากางเกงที่เนื้อผ้าทั้งบาง ทั้งยืด ดูผาดๆ คล้ายเดนิม แถมไม่ใช่ยีนส์จริงๆ ด้วยซ้ำไปนี้ ไฉนจึงกลายเป็นไอเท็มครองโลก ค่าที่มันมาสนองความปรารถนาอันปวกเปียกของเราที่อยากใส่ยีนส์นุ่มสบายเหมือนวัยรุ่น และช่วยพรางตาให้เรียวขาเพรียวยาวได้ทันตาเห็น ไปๆ มาๆ การใส่เลกกิ้งเดนิมหลอกๆ พร้อมหูเข็มขัดกับรอยขาดวิ่นปลอมๆ ช่วงหัวเข่าออกไปเดินนอกบ้านกลับกลายเป็นเรื่องรับได้ขึ้นมา แค่เพราะอยากให้ช่วงขาดูเรียว ความรักสบายก็เล่นบทสำคัญมิใช่น้อย



ฉันใช้คำว่า “เล่น” เพราะตอนนี้เราเลิกมอบบทเด่นให้ “ยีนส์” อัลตราสเตรตช์กันแล้วน่ะสิ ก็ในขณะที่เดนิมผ้าแข็งปั๋งสไตล์คาวเกิร์ล (แบบที่ Betty Grable ใส่) หรือยีนส์ Levi’s สุดรักสวมไปได้ตลอดกาลหลังผ่าน “พิธีกรรมแปรสภาพ 6 เดือน” โจนาทาน ชัง หัวหน้าฝ่ายออกแบบของลีวายส์และนักพยากรณ์เทรนด์ยีนส์ยืนยันว่าสกินนี่ยีนส์คือมิตรลวกๆ

อย่าเพิ่งเข้าใจผิด อย่างน้อยยังมีวัน (ก็ทุกวันอาทิตย์นั่นแหละ) ที่เราโหยหากางเกงเข้ารูปใส่สบายซึ่งมีเพียงผ้ายืดอิลาสเตนสีดำ (หรือออกเทา) ที่สามารถมอบสัมผัสนี้ให้เราได้ แต่นอกเหนือจากนี้แล้ว ต้องขอบคุณเหล่าดีไซเนอร์คลื่นลูกใหม่ที่จุดกระแสเดนิมแท้อีกครั้ง รวมทั้งแรงบันดาลใจจากวันวานที่ขุดมาโพสต์กันละลานตาในอินสตาแกรม ทำให้เราอยากจะดูเซ็กซี่มากกว่าสกินนี่ ดูอย่าง Chloë Sevigny ในบลูยีนส์กับเสื้อยืดขาวสิ โอ๊ย...เริด

ยีนส์ผ้าแข็งให้ทรงพอดีตัวสไตล์ย้อนยุคที่ไม่รัดรูปเกินซึ่งแผ่เสน่ห์ความเป็นออริจินัลในทุกอณู และเมื่อใดที่คุณสวมใส่มันจนชินแล้ว เจ้ายีนส์แข็งจะตอบแทนด้วยการ “ยกกระชับ” (ศัพท์เทคนิคในวงการยีนส์ ใช้เรียกบั้นท้ายกลมกลึง) จึงเป็นเหตุผลที่แท้จริงว่าเหตุใดยีนส์รุ่นเก๋าอย่างลีวายส์ 505 จึงเป็น “ความลับสุดยอดของเหล่านักสะสมยีนส์วินเทจ เพราะมันช่วยยกกระชับบั้นท้ายเมื่อใส่จนเข้าทรงแล้ว” โจนาทานอธิบาย แล้วยีนส์ที่ Debbie Harry ใส่ขึ้นเวทีช่วงยุค 1970 ล่ะ รุ่นนั้นคือลีวายส์ 505 “เอวสูงเข้ารูป” สาวๆ ยุคนี้ถวิลหายีนส์ที่ช่วยขับสรีระด้านหลังให้โดดเด่น (นึกภาพ Geena Davis ในหนัง Thelma & Louise)

ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่สวนทางกับสกินนี่ยีนส์ฟิตเปรี๊ยะเก็บบั้นท้ายเสียแบนแต๋ ซึ่งบัดนี้กลายเป็นลุคเบสิกที่แค่คิดจะใส่ก็เหนื่อยแล้ว เพราะภาพยีนส์ผ้าแข็งทรงพอดีตัวเป๊ะที่เห็นกันเกร่อตามเทศกาลต่างๆ ในซัมเมอร์ก่อน บวกกับภาพย้อนยุคที่โพสต์ในอินสตาแกรมของ Mr.Gazoline และ Janebirkindaily ช่วยโหมกระพือความนิยมยีนส์แท้ผ้าไม่ยืดได้ในระดับเมนสตรีม และยังเป็นอีกหนทางให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่วันเวลาเหมือนติดปีกบินในยุคสมัยใหม่ของเรามีความหมายมากขึ้น ผ่านภารกิจเสาะหาแบรนด์เก๋าเชื่อถือได้ตั้งแต่ Lee เรื่อยไปจนถึง Wrangler

ทรงกางเกงยีนส์ที่กำลังมาเวลานี้ต้องเอวสูงขากระบอก ความยาวเหนือข้อเท้านิดๆ ดูย้อนยุคพองาม แต่ไม่ดูเก่าถึงขั้นเรโทรอย่างยีนส์ขาสอบ แขวนยีนส์ตัวเก่าที่ใส่ไม่ยอมถอดหรือตัวใหม่ที่เพิ่งสอยมาจากร้านมือสองไว้ก่อน หันมาลองยีนส์ใหม่คัตติ้งเนี้ยบที่ช่วยให้ช่วงเอวสูงขึ้นมาอีกนิด เผยช่วงขาเพรียวยาว หรือกำจัดเนื้อผ้าส่วนเกินช่วงกระดุมออกไป หรือลองตัวเลือกเด็ด ReDone แบรนด์ยีนส์จากลอสแอนเจลิส ที่ผู้ก่อตั้งทั้งสอง Sean Barron และ Jamie Mazเur มองห็นช่องว่างทางการตลาด นำยีนส์วินเทจหายากมาแก้ทรงเป็นยีนส์ฟรีไซซ์ที่สอยมาใส่ได้ง่ายๆ

ทางออนไลน์ “ยีนส์เอวสูงฮิตมากจนในสต๊อกไม่มีเหลือ” ฌอนว่า ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะยีนส์แก้ทรงเท่เป๊ะของรีดันจำหน่ายไปได้ถึง 27 ประเทศทั่วโลก แถมมีแฟนพันธุ์แท้เป็นคนดังอย่าง Stella Maxwell, Lily Aldridge และ Kendall Jenner แต่ถ้าไม่อยากใส่ยีนส์มือสอง ลีวายส์อาสากำจัดอาการปวดใจที่หายีนส์ทรงสวยใส่ได้ยากเย็นด้วยบริการสั่งตัดยีนส์ตัวเดียวในโลก Lot No 1 ที่จะสรรค์สร้างยีนส์ตัวใหม่ฟิตพอดีตามรูปร่างคุณเท่านั้นในสนนราคาราวๆ 25,000 บาท

การปฏิวัติหันมาใส่ยีนส์ที่เป็นผ้าเดนิมแท้ในเวลานี้ไม่ใช่แค่การหยิบลุคเก่าๆ มาใส่ใหม่ หากแก่นแท้ความเท่ชนิดไม่ต้องพึ่งความพยายามใดๆ ของยีนส์ผ้าไม่ยืดเหล่านี้อยู่ในมือแบรนด์น้องใหม่ที่หยิบมรดกอันล้ำค่ามาตีความอีกครั้งได้อย่างเฉียบคม เมื่อช่วงแฟชั่นวีกในเดือนกันยายน บรรดาแฟชั่นเอดิเตอร์ต่างปวารณาตนใส่ลีวายส์ที่นำมาตัด ปะ แปะของ Vetements แม้ตัวเลขราว 40,000 บาทจะไม่ใช่ราคาปกติของลีวายส์ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคืองานตกแต่งแพตช์เวิร์กดีไอวายไม่ซ้ำใครที่ระเบิดความฮิตในแฟชั่นสตรีตสไตล์ในบัดดล

ส่วน Aries แบรนด์จากลอนดอนโดนใจสาวๆ วัยรุ่นที่ไม่เคยสัมผัสยีนส์แท้มาก่อนในชีวิตด้วยทรงเรียบแซมรอยปะสุดมัน โดยยีนส์รุ่น Lilly (ตัดเย็บจากเดนิมผ้าไม่ยืด 15 ออนซ์สุดคลาสสิก) ผลิตในโรงงานที่ยังคงใช้ก้อนหินฟอกสีอยู่ ส่วนในซีซั่นล่าสุดนี้ Katie Green ดีไซเนอร์สาวชาวอังกฤษผู้อยู่เบื้อง-หลังแบรนด์ Kéji เปิดตัวยีนส์คอลเล็กชั่นใหม่ที่นำเดนิมผลิตจากเครื่องทอยุค 1950 ในญี่ปุ่นมาตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน

แบรนด์ยีนส์ใหม่ล่ามาแรงเหล่านี้ยังตอกย้ำทัศนคติแนวร็อกแอนด์โรลไม่เสื่อมคลาย “เราต่างก็เอียนกับลุคสกินนี่ยีนส์ฟิตเปรี๊ยะกันเต็มทนแล้ว” Jess Morris แห่งแบรนด์ Rockins กล่าวอย่างหนัก-แน่นขณะยกมือเท้าขอบกางเกงยีนส์ฟิตพอดีตัวของเธอ “ฉันคนหนึ่งแหละที่เบื่อ กลับไปสู่สัมผัสสบาย แนบกระชับรูปร่างของยีนส์แท้ๆ กันดีกว่า” แบรนด์ยีนส์เอวสูงผ้าแข็งไม่ยืดของร็อกคินส์ส่งผ่านสไตล์ของ Cher, Gaye Advert และ Joan Jett ช่วงยุค 1970 และจะวางจำหน่ายช่วงต้นซัมเมอร์นี้

การทำตัวให้คุ้นชินกับยีนส์ทรงใหม่เนื้อผ้าแข็ง แนบกระชับรับช่วงสะโพก โอบรับรูปร่างไปจนถึงกระดุมเม็ดสุดท้ายนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนการปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลถนอมยีนส์แบบโบราณนั่นเป็นอีกเรื่อง เหล่าผู้รู้มีคำแนะนำหลากหลาย ตั้งแต่ใส่ยีนส์ไว้ในช่องฟรีซเพื่อฆ่าเชื้อโรคไว้คืนหนึ่งจนถึงห้ามซักยีนส์ตลอดอายุการใช้งาน ในทางเทคนิคแล้ว การ “ซัก” แบบเดียวที่พึงกระทำคือนำยีนส์ที่เพิ่งซื้อมาหมาดๆ ราดน้ำแล้วใส่ทั้งเปียกๆ เมื่อยีนส์แห้งก็จะได้รูปทรงตามรูปร่างเป๊ะ


แต่โจนาทานกูรูยีนส์ของฉันมีคำแนะนำไม่ดิบเท่านี้ว่า “ใส่ยีนส์ให้บ่อยที่สุด กลั้นใจไม่ซักให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนตลบตะเข็บออก นำไปซักในน้ำเย็น” แล้วคุณจะได้ยีนส์แท้เป็นตัวเก่งในครอบครองตลอดชีวิต รวมถึงริ้วขาดหรือรอยปะพิสดารซึ่งนับเป็นของหายากในแฟชั่นยุคใหม่เหล่านั้นด้วย เทรนด์ล่าสุดของการหันมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ที่ตัดเย็บให้สวมใส่ได้นานๆ และยิ่งเก่าก็ยิ่งเก๋านี้นับเป็นนิมิตหมายอันดีหากลำพังกระแสนี้ไม่อาจทำให้เดนิมแท้กลับมาฮิตได้อีกครั้ง ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังเกี่ยวกับการช็อปปิ้งเลียนแบบสไตล์ Gigi Hadid ร่วมด้วยเป็นแน่ อันนี้แค่เดา


ชมภาพที่เหลือได้ที่ http://www.vogue.co.th/fashion/article/no-more-skinny-jeans-its-tomboy-time

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook