สาวๆ ที่กำลังรอคอยที่จะอัพเดทเทรนด์การ
แต่งหน้าจาก M.A.C ในซีซั่นล่าสุด
Fall / Winter 2004 ต้องถูกใจแน่ๆ กับ
Tease me... Tempt Me... ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการร่วมงานกับสุดยอด
แฟชั่นโชว์ทั่วโลกของ ทีมงาน
M.A.C PRO ถ่ายทอดออกมาเป็นเทรนด์การแต่งหน้าที่เน้นรายละเอียดทุกส่วนอย่างประณีต โดยแบ่งเป็น 5 ลุคด้วยกัน
SCULPTURE IN THE RAW
The Look :
ความงามที่สมบูรณ์แบบในตัวของตัวเอง เป็น look ที่ดูเป็นธรรมชาติมากๆ แต่เกิดจากการแต่งหน้าแบบตั้งอกตั้งใจ โดยใช้เทคนิคทั้งหลายเข้ามาช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติ
เป็นการใช้ palette ของแป้งที่มีส่วนผสมของแร่ธรรมชาติในการสร้างโครงหน้าด้วยโทนสีกลาง, สีอบอุ่นที่ดูเป็นธรรมชาติ เปรียบใบหน้าได้กับพื้นผิวที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของเครื่องสำอาง, เส้นโครงหน้า, แสงเงา, รูปทรงหลากหลายที่ผสมผสานหล่อหลอมให้ใบหน้าดูมีเค้าโครงและมิติ, โหนกแก้มถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีน้ำตาลอมชมพู ส่วนดวงตา ใช้ลูกเล่นของแสงและเงาเข้ามาช่วย เน้นผิวสวยที่เหมือนว่าเพิ่งได้รับการดูแลออกมาจากสปา ซึ่งล้วนเกิดจากการใช้เทคนิคทั้งหมดที่มี โทนสีหลักจะเป็นสีน้ำตาลอมชมพู และสีแทน
Tip : เตรียมผิวให้ชุ่มชื้นด้วย Fix+ จากนั้นใช้แปรง #190 เกลี่ย Studio Stick Foundation รองพื้นเนื้อครีมแบบแท่งบนผิว ที่จะทำให้ผิวดูชุ่มชื้น เนียนสวยสม่ำเสมอด้วยการปกปิดแบบปานกลาง สวยแบบที่ไม่ดูจัดจ้านด้วยการประโคมเครื่องสำอางบนใบหน้ามากจนเกินไป
Power points
The Look : ฤดูกาลนี้ เสน่ห์เย้ายวนใจของหญิงสาว เป็นดั่งรูปแบบของนางเอกฮอลลีวูดจากหนังขาวดำในยุค 40's ความมืดและแสงเงาที่ช่วยเน้นให้ใบหน้าโดดเด่น และหรูหราดูสงบนิ่ง เฉกเช่นคุณนายที่บรรจงพิถีพิถันกับเรียวปากอันงดงาม โหนกแก้มอันกลมกลึง และผิวสวยไร้ที่ติมากพอๆ กับสายตาอันทรงพลังคู่นั้นของเธอ ที่ผสมผสานเป็นความงามที่ลงตัว "ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความตั้งใจ ใส่ใจ ไม่ใช่ความบังเอิญ" Tom Pecheux กล่าว ลุคสำหรับกลางวันให้คุณลองแต่งเปลือกตาด้วยอายแชโดว์สีเข้มเนื้อ Matte เติมทับด้วย gloss สีควันบุหรี่ ให้เปลือกตาดูเหลือบวาววับด้วยความมันวาว ไปกันได้ดีกับโทนสีธรรมชาติ เช่น ปากสีนู้ด หากแต่ยามค่ำคืนคิดอยากจะแปลงโฉมเป็นจิ้งจอกสาวพรวเสน่ห์ ไปยังงานปาร์ตี้สุดฮอต คุณก็สามารถเติมริมฝีปากให้โดดเด่นด้วยสีเบอร์กันดีให้ดูเอิบอิ่มเข้าไปอีก
Tip : ใช้ Eye Khol วาดเส้นขอบตาก่อนที่จะลงสีบนเปลือกตา และถ้าหากต้องการให้ได้ลุคที่ดูเปรี้ยวและดูจัดจ้านยิ่งขึ้น ให้ลองเลือกใช้
ลิปสติกในโทนสีเข้ม และต้องไม่ลืมที่จะวาดเส้นขอบปากก่อนด้วย M.A.C lip pencil แล้วค่อยลงลิปสติกตามอีกครั้ง
The Contemporary Royal
The Look : รูปแบบของการแต่งหน้าแบบสาวน้อย หวานใสไร้เดียงสาด้วยริมฝีปากสีเบอร์รี่กับแก้มสีแดงระเรื่อไม่อินในฤดูกาลนี้ แต่กลับกลายเป็นสาวรุ่นที่ดูมีความคิด ฉลาดและไม่หวานจนเลี่ยนแต่เป็นแบบที่ดูอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงมากกว่า เฉกเช่นเจ้าหญิงแห่งโลกสมัยใหม่ที่ดูเพียบพร้อมโดยไม่ต้องพยายามจนเกินไป มีระดับ แต่ไม่ดูน่าหมั่นไส้ จึงเป็นลุคที่ไม่เน้นเฉดสีหวานหรือชิมเมอร์ระยิบระยับ เปรียบได้กับความโนแมนติคแบบที่ดูมีคลาสก็ว่าได้ Tom Pecheux กล่าวว่า "เราพิถีพิถันกับทุกตารางนิ้วบนใบหน้า" เมคอัพอาร์ทติสจะให้ความสำคัญกับรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมผิวให้เนียนสวยสม่ำเสมอแบบไร้ที่ติ ด้วยขั้นตอนการลงรองพื้นก่อน แล้วค่อยบรรจงเติมสีปากให้สวยดั่งภาพวาดด้วยการผสมผสานคอนซีลเลอร์กับลิปคอนดิชันเนอร์เข้าด้วยกัน "เปรียบได้กับความหรูหราที่ไม่ต้องพึ่งพาแบรนด์เนม" Lucinda Chambers โชว์สไตล์ลิสต์กล่าว
Tip : พวงแก้มสีสวยระเรื่อด้วย Sheertone Blush สี Pink Swoon สีชมพูอ่อนปัดบางๆ ที่โหนกแก้มที่เรียกว่าแอปเปิ้ลก็เพียงพอที่จะให้คุณสวยดั่งเจ้าหญิงผู้แสนน่าจะทะนุถนอม
sub - zero
The Look : ความสวยดั่งหิมะที่พัดพาเทพธิดาแห่งเมืองนอร์ดิค หรือนางพญาหิมะที่สวยงามแต่แฝงไว้ซึ่งความเย็นยะเยือกมาพร้อมกับริมฝีปากสีซีด และ palette ของสีขาว และสีกลางในโทนเย็นที่มารวมกัน เพื่อสร้างลุคที่มาแรงของฤดูกาลนี้ ที่เล่นกับการนำโทนสีซีดมาเล่นกับส่วนต่างๆ บนใบหน้า ริมฝีปากสีโทนขาวหรือเนื้อที่ถูกวาดเส้นขอบปากด้วยโทนสีน้ำตาลอมชมพู (แทนที่จะใช้สีโทนชมพูกุหลาบ) เปลือกตาสว่างด้วยโทนสีขาว ให้ดวงตาดูกลมโตแบบมีมิติ เพื่อเป็นการเพิ่มไฮไลท์อีกขั้นโดยไม่ต้องปัดมาสคาร่า ละอองฝุ่นสีขาวดั่งประกายเพชรช่วยให้โทนสีเข้มกลับดูเปล่งประกายเจิดจรัสได้อย่างไม่น่าเชื่อ เหลือไว้เพียงแค่สิ่งที่ไม่จำเป็น สีสันยังมีบทบาทที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา
Tip : จากรันเวย์สู่โลกแห่งความเป็นจริง Diane Kendall's จาก Catherine Malandrino แอบเผยว่า "คุณสามารถจะแต่งแต้มริมฝีปาก ด้วยเฉดสีขาวเย็นดั่งน้ำแข็งได้โดยไม่ดูซีด เหมือนวิญญาณด้วยการเติมสีสันโทนแดงให้กับพวงแก้มของคุณ" และให้ผิวดูสะอาดสดใส จากการปกปิดแบบบางเบาของรองพื้น มาสคาร่าไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับลุคนี้
THE NEW-D PARADOX
The Look : ศิลปะของการแต่งหน้าได้เข้ามามีบทบาทอย่างสูงสุด เทคนิคและลูกเล่นต่างๆ แบบมืออาชีพถูกนำมาใช้ เป็นความชำนาญที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี อย่างเช่น การนำพิกเมนต์มาใช้เพื่อสร้าง Texture และรูปแบบของ effect ที่แตกต่าง แทนที่จะใช้พิกเมนต์เพื่อให้เกิดสีสันที่แตกต่างเพียงเท่านั้น เมคอัพอาร์ทิสต์ได้ลองผสมผสานสิ่งที่น่าจะไปด้วยกันได้ อย่างเช่น รูปทรง, สีสัน และ finish ที่แตกต่างเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นความก้าวหน้าของศิลปะการแต่งหน้าที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดอย่างแท้จริง
Tip : "การใช้สีสดใสอย่างเช่นสีแดงที่เป็น gloss สามารถกลายเป็นสีกลางๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะ texture ที่บางใส" อย่างเช่นที่ Terry Barber ได้ทำให้กับโชว์ของห้องเสื้อ Just Cavalli
ได้อัพเดทเทรนด์ใหม่ล่าสุด Tease me... Tempt Me... จาก M.A.C
กันแล้ว สาวๆ คนไหนอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ก็ไปได้เลยค่ะที่ เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง M.A.C
สาวๆ ที่กำลังรอคอยที่จะอัพเดทเทรนด์การแต่งหน้าจาก M.A.C ในซีซั่นล่าสุด Fall / Winter 2004 ต้องถูกใจแน่ๆ กับ Tease me... Tempt Me... ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการร่วมงานกับสุดยอดแฟชั่นโชว์ทั่วโลกของ ทีมงาน M.A.C PRO ถ่ายทอดออกมาเป็นเทรนด์การแต่งหน้าที่เน้นรายละเอียดทุกส่วนอย่างประณีต โดยแบ่งเป็น 5 ลุคด้วยกัน
SCULPTURE IN THE RAW
The Look : ความงามที่สมบูรณ์แบบในตัวของตัวเอง เป็น look ที่ดูเป็นธรรมชาติมากๆ แต่เกิดจากการแต่งหน้าแบบตั้งอกตั้งใจ โดยใช้เทคนิคทั้งหลายเข้ามาช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติ
เป็นการใช้ palette ของแป้งที่มีส่วนผสมของแร่ธรรมชาติในการสร้างโครงหน้าด้วยโทนสีกลาง, สีอบอุ่นที่ดูเป็นธรรมชาติ เปรียบใบหน้าได้กับพื้นผิวที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของเครื่องสำอาง, เส้นโครงหน้า, แสงเงา, รูปทรงหลากหลายที่ผสมผสานหล่อหลอมให้ใบหน้าดูมีเค้าโครงและมิติ, โหนกแก้มถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีน้ำตาลอมชมพู ส่วนดวงตา ใช้ลูกเล่นของแสงและเงาเข้ามาช่วย เน้นผิวสวยที่เหมือนว่าเพิ่งได้รับการดูแลออกมาจากสปา ซึ่งล้วนเกิดจากการใช้เทคนิคทั้งหมดที่มี โทนสีหลักจะเป็นสีน้ำตาลอมชมพู และสีแทน
Tip : เตรียมผิวให้ชุ่มชื้นด้วย Fix+ จากนั้นใช้แปรง #190 เกลี่ย Studio Stick Foundation รองพื้นเนื้อครีมแบบแท่งบนผิว ที่จะทำให้ผิวดูชุ่มชื้น เนียนสวยสม่ำเสมอด้วยการปกปิดแบบปานกลาง สวยแบบที่ไม่ดูจัดจ้านด้วยการประโคมเครื่องสำอางบนใบหน้ามากจนเกินไป
Power points
The Look : ฤดูกาลนี้ เสน่ห์เย้ายวนใจของหญิงสาว เป็นดั่งรูปแบบของนางเอกฮอลลีวูดจากหนังขาวดำในยุค 40's ความมืดและแสงเงาที่ช่วยเน้นให้ใบหน้าโดดเด่น และหรูหราดูสงบนิ่ง เฉกเช่นคุณนายที่บรรจงพิถีพิถันกับเรียวปากอันงดงาม โหนกแก้มอันกลมกลึง และผิวสวยไร้ที่ติมากพอๆ กับสายตาอันทรงพลังคู่นั้นของเธอ ที่ผสมผสานเป็นความงามที่ลงตัว "ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความตั้งใจ ใส่ใจ ไม่ใช่ความบังเอิญ" Tom Pecheux กล่าว ลุคสำหรับกลางวันให้คุณลองแต่งเปลือกตาด้วยอายแชโดว์สีเข้มเนื้อ Matte เติมทับด้วย gloss สีควันบุหรี่ ให้เปลือกตาดูเหลือบวาววับด้วยความมันวาว ไปกันได้ดีกับโทนสีธรรมชาติ เช่น ปากสีนู้ด หากแต่ยามค่ำคืนคิดอยากจะแปลงโฉมเป็นจิ้งจอกสาวพรวเสน่ห์ ไปยังงานปาร์ตี้สุดฮอต คุณก็สามารถเติมริมฝีปากให้โดดเด่นด้วยสีเบอร์กันดีให้ดูเอิบอิ่มเข้าไปอีก
Tip : ใช้ Eye Khol วาดเส้นขอบตาก่อนที่จะลงสีบนเปลือกตา และถ้าหากต้องการให้ได้ลุคที่ดูเปรี้ยวและดูจัดจ้านยิ่งขึ้น ให้ลองเลือกใช้ลิปสติกในโทนสีเข้ม และต้องไม่ลืมที่จะวาดเส้นขอบปากก่อนด้วย M.A.C lip pencil แล้วค่อยลงลิปสติกตามอีกครั้ง
The Contemporary Royal
The Look : รูปแบบของการแต่งหน้าแบบสาวน้อย หวานใสไร้เดียงสาด้วยริมฝีปากสีเบอร์รี่กับแก้มสีแดงระเรื่อไม่อินในฤดูกาลนี้ แต่กลับกลายเป็นสาวรุ่นที่ดูมีความคิด ฉลาดและไม่หวานจนเลี่ยนแต่เป็นแบบที่ดูอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงมากกว่า เฉกเช่นเจ้าหญิงแห่งโลกสมัยใหม่ที่ดูเพียบพร้อมโดยไม่ต้องพยายามจนเกินไป มีระดับ แต่ไม่ดูน่าหมั่นไส้ จึงเป็นลุคที่ไม่เน้นเฉดสีหวานหรือชิมเมอร์ระยิบระยับ เปรียบได้กับความโนแมนติคแบบที่ดูมีคลาสก็ว่าได้ Tom Pecheux กล่าวว่า "เราพิถีพิถันกับทุกตารางนิ้วบนใบหน้า" เมคอัพอาร์ทติสจะให้ความสำคัญกับรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมผิวให้เนียนสวยสม่ำเสมอแบบไร้ที่ติ ด้วยขั้นตอนการลงรองพื้นก่อน แล้วค่อยบรรจงเติมสีปากให้สวยดั่งภาพวาดด้วยการผสมผสานคอนซีลเลอร์กับลิปคอนดิชันเนอร์เข้าด้วยกัน "เปรียบได้กับความหรูหราที่ไม่ต้องพึ่งพาแบรนด์เนม" Lucinda Chambers โชว์สไตล์ลิสต์กล่าว
Tip : พวงแก้มสีสวยระเรื่อด้วย Sheertone Blush สี Pink Swoon สีชมพูอ่อนปัดบางๆ ที่โหนกแก้มที่เรียกว่าแอปเปิ้ลก็เพียงพอที่จะให้คุณสวยดั่งเจ้าหญิงผู้แสนน่าจะทะนุถนอม
sub - zero
The Look : ความสวยดั่งหิมะที่พัดพาเทพธิดาแห่งเมืองนอร์ดิค หรือนางพญาหิมะที่สวยงามแต่แฝงไว้ซึ่งความเย็นยะเยือกมาพร้อมกับริมฝีปากสีซีด และ palette ของสีขาว และสีกลางในโทนเย็นที่มารวมกัน เพื่อสร้างลุคที่มาแรงของฤดูกาลนี้ ที่เล่นกับการนำโทนสีซีดมาเล่นกับส่วนต่างๆ บนใบหน้า ริมฝีปากสีโทนขาวหรือเนื้อที่ถูกวาดเส้นขอบปากด้วยโทนสีน้ำตาลอมชมพู (แทนที่จะใช้สีโทนชมพูกุหลาบ) เปลือกตาสว่างด้วยโทนสีขาว ให้ดวงตาดูกลมโตแบบมีมิติ เพื่อเป็นการเพิ่มไฮไลท์อีกขั้นโดยไม่ต้องปัดมาสคาร่า ละอองฝุ่นสีขาวดั่งประกายเพชรช่วยให้โทนสีเข้มกลับดูเปล่งประกายเจิดจรัสได้อย่างไม่น่าเชื่อ เหลือไว้เพียงแค่สิ่งที่ไม่จำเป็น สีสันยังมีบทบาทที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา
Tip : จากรันเวย์สู่โลกแห่งความเป็นจริง Diane Kendall's จาก Catherine Malandrino แอบเผยว่า "คุณสามารถจะแต่งแต้มริมฝีปาก ด้วยเฉดสีขาวเย็นดั่งน้ำแข็งได้โดยไม่ดูซีด เหมือนวิญญาณด้วยการเติมสีสันโทนแดงให้กับพวงแก้มของคุณ" และให้ผิวดูสะอาดสดใส จากการปกปิดแบบบางเบาของรองพื้น มาสคาร่าไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับลุคนี้
THE NEW-D PARADOX
The Look : ศิลปะของการแต่งหน้าได้เข้ามามีบทบาทอย่างสูงสุด เทคนิคและลูกเล่นต่างๆ แบบมืออาชีพถูกนำมาใช้ เป็นความชำนาญที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี อย่างเช่น การนำพิกเมนต์มาใช้เพื่อสร้าง Texture และรูปแบบของ effect ที่แตกต่าง แทนที่จะใช้พิกเมนต์เพื่อให้เกิดสีสันที่แตกต่างเพียงเท่านั้น เมคอัพอาร์ทิสต์ได้ลองผสมผสานสิ่งที่น่าจะไปด้วยกันได้ อย่างเช่น รูปทรง, สีสัน และ finish ที่แตกต่างเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นความก้าวหน้าของศิลปะการแต่งหน้าที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดอย่างแท้จริง
Tip : "การใช้สีสดใสอย่างเช่นสีแดงที่เป็น gloss สามารถกลายเป็นสีกลางๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะ texture ที่บางใส" อย่างเช่นที่ Terry Barber ได้ทำให้กับโชว์ของห้องเสื้อ Just Cavalli
ได้อัพเดทเทรนด์ใหม่ล่าสุด Tease me... Tempt Me... จาก M.A.C กันแล้ว สาวๆ คนไหนอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ก็ไปได้เลยค่ะที่ เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง M.A.C 
สนับสนุนเนื้อหา
