คุยกับ "แม่อ้อ" จากเพจทำอาหาร "กินข้าวกัน" ดังเปรี้ยงทะลุ 7 แสนไลค์ ใน 4 เดือน

เคยเป็นกันมั้ยเอ่ย? เปิดเฟซบุ๊คตอนดึกๆ หน้าฟีดเต็มไปด้วยสเตตัสบ่นหิว ... หรือเพื่อนๆ ลงรูปของกินยั่ว โอ้ย ... มันทนไม่ไหว! ต้องแพ้ให้กับความหิวทุกที แต่กับเทรนด์ใหม่ที่มาเต็มเป็นภาพเคลื่อนไหว กับคลิปสไตล์ฮาวทู จากเพจสอนทำอาหารที่กำลังฮิตในโลกออนไลน์ ที่ทำเอาหิวเป็นสองเท่า และเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณแม่บ้านที่ชอบเข้าครัว สรรหาเมนูใหม่ๆ หรือเมนูที่หลายคนชอบทาน แต่หาสูตรและวิธีทำไม่ได้ซะที

แฟนเพจ "กินข้าวกัน By แม่อ้อ" คือ หนึ่งในเพจที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยยอดไลค์เพจกว่า 7 แสนไลค์ ภายในระยะเวลา 4 เดือน จากสไตล์การทำคลิปที่น่ารัก เข้าใจง่าย พร้อมกับเมนูอาหารไทยโดนใจทุกเพศวัย อีกทั้งเพจยังมีคาแรกเตอร์แบบ "แม่สอนลูก" ที่ชวนให้รู้สึกจริงใจ อบอุ่น และคนดูสนุกไปกับการลงมือทำอาหารจริงๆ

"ประชาชาติธุรกิจออนไลน์" เอาใจคนรักการอาหาร รีบคว้าตัว "อ้อ ญาณภา เข็มทอง" หรือ "แม่อ้อ" แม่ครัวคนดังแห่งเพจ "กินข้าวกัน" ถึงเคล็ดลับความสำเร็จ ที่ทำเมนูไหนออกมา ก็ฮิตถล่มทลายยอดแชร์เหยียบหมื่นเกือบทุกคลิป

เรามีนัดกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ภาพที่จินตนาการไว้ แม่อ้อจะต้องดูมีอายุ น่าเกรงขาม แต่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์ปลายจวัก ตามแบบฉบับแม่ครัว แต่ภาพที่คิดเอาไว้ผิดหมด เพราะ "แม่อ้อ" ตัวจริง คือแม่ครัวสาวสวยยุคใหม่ วัย 30 กำลังแจ๋ว ที่หลงใหลการทำอาหารเป็นอย่างยิ่ง

แม่อ้อเปิดบทสนทนาเล่าให้ฟังว่า ชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ได้ลองทำให้คนที่บ้านทาน รวมถึงเพื่อนๆ จนทุกคนยกนิ้วชมว่าอร่อย เลยเกิดไอเดียสนุกๆ อยากสร้างเพจทำอาหาร ด้วยรูปแบบคลิปสั้นๆ ดูสนุก กระชับ และเข้าใจง่าย โดยสูตรต่างๆ มาจากตัวแม่อ้อเอง ที่คิดค้นและทำให้คนที่บ้านกินเป็นประจำอยู่แล้ว ด้านคอนเซ็ปของเพจ "กินข้าวกัน" แม่อ้อเล่าให้ฟังว่า คาแรกเตอร์จะเป็นสไตล์ "Mama Cooking" เน้นการบอกต่อ อารมณ์คุณแม่แนะนำเมนูอาหารที่คนในครอบครัวเราชอบทาน

"ทุกวันนี้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่จะออกไปทานอาหารนอกบ้านทานอาหารกญี่ปุ่นแต่เราจะรู้ได้ยังไงว่าวัตถุดิบนั้นๆ ผ่านารคัดสรรมาดีแค่ไหนเลยแทนตัวเองเป็นคุณแม่ที่ทำอาหารให้คนในบ้านทานจะแนะนำตั้งแต่วิธีการคัดเลือกวัตถุดิบ ใช้ส่วนผสมอะไร เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดกับคนในครอบครัว และอยากให้ทำอาการกินกัน นี่คือคอนเซ็ปหลักของเรา เพราะมันคือกิจกรรมที่สานสัมพันธ์กันในครอบครัว และพื้นฐานของคนไทย เราประกอบอาหารทานกันในบ้านอยู่แล้ว"

ส่วนชื่อเพจ "กินข้าวกัน" ที่ฟังดูเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่ดูเป็นกันเอง แม่อ้อเผยไอเดียที่มาว่า นึกถึงคำอะไรที่ดูแล้วเป็นไทยๆ แบบที่เราใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน เวลาเราเจอเพื่อน หรือคนรู้จัก อย่างแรกที่เราจะชวนเค้าคือ "กินข้าวกัน" เปรียบเหมือนคำทักทายของคนไทย

คลิปเปิดซิง เมนูแรก "ผัดฉ่าทะเล" ส่งแฟนเพจดังข้ามคืน

 

คลิปแรกเราเริ่มจากเมนูที่แม่อ้อชอบทำมาก คือ "ผัดฉ่าทะเล" อยากทำสนุกๆ เฉยๆ แต่พอคลิปเปิดตัวมันไวรัลไปเร็วมาก คนแชร์หลายร้อย ยอดไลค์เพจเยอะจนเราตกใจ จากนั้นอีกสองวัน เราลงคลิปที่สองเลย เราสนุกที่ได้เห็นผลตอบรับ รีแอ็คจากแฟนเพจ รู้สึกเหมือนสร้างสังคมของคนชอบทำอาหารขึ้นมา ภูมิใจเวลามีฟีดแบ็กกลับมาว่า ลองไปทำแล้วอร่อย สามีที่บ้านชอบ หลายๆ คนมีส่งการบ้าน ทำเมนูนี้แล้วนะ ก็เข้ามาบอกฟีดแบ็กกันเยอะ อาทิตย์แรกเราได้ประมาณ 5 หมื่นไลค์ ตอนแรกคิดว่า 4 เดือนน่าจะได้ซักหมื่นไลค์ก็ดีใจแล้ว ช่วงที่มีเมนูพีคๆ ยอดไลค์ขึ้นวันละ 2 หมื่นเลยทีเดียว

เอาใจใส่-สื่อสารกับแฟนเพจ เคล็ดลับเพจฮาวทูยุคใหม่

เราสื่อสาร-พูดคุยกับแฟนเพจตลอด ทำให้รู้สึกใกล้ชิด อบอุ่น พอลงคลิปเสร็จ แม่อ้อจะเฝ้าหน้าจอคอยตอบคำถามทันที และตอบเองทุกคำถาม เพราะมีแฟนเพจที่เข้ามาสอบถามเทคนิค วัตถุดิบ ดีเทลเรื่องการปรุงที่ลงลึกกว่าในคลิป บางคนถามแม้กระทั่งกระทะที่แม่อ้อใช้(หัวเราะ) ซึ่งเราพยายามตอบให้หมด แต่หลังๆ ไม่ทัน เพราะคอมเม้นเยอะมาก ทุกวันนี้มีแฟนเพจน่ารักๆ ส่งขนม ส่งของมาให้เราใช้ ให้ลูกสาว แฟนเพจเรามีช่วงอายุประมาณ 18-24 ปี มากที่สุด ทุกวันนี้เราดูแลแฟนเพจเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแล้ว

"อุตสาหกรรมครอบครัว" เบื้องหลังความสำเร็จเพจ "กินข้าวกัน"

หลายคนอาจคิดว่า เมนูอาหารโดนใจ โปรดักชั่นสวยงาม บวกงานวิชวลน่ารักมุ้งมิ้งๆ ที่สามารถมัดใจแฟนเพจจนยอดไลค์ทะลุ 7 แสนไลค์ใน 4 เดือน น่าจะมีทีมงานค่อนข้างเยอะ แต่แม่อ้อเล่าให้ฟังว่า เบื้องหลังเป็นอุตสาหกรรมครอบครัว 100% เพราะหลักๆ ทำกันแค่ 2 คน "สามี-ภรรยา" ภรรยาทำกับข้าว สามีคุมงานโปรดักชั่น กับคุณย่านักโภชนาการ และลูกสาวตัวน้อยวัย 5 ขวบเป็นผู้ช่วย

"หลักๆ เราทำกันสองคนค่ะ (หัวเราะ) จะมีลูกสาวอีกคน "น้องออกัส" ถ้าว่างน้องจะมาช่วยชิมให้ พวกเมนูขนม หลายครั้งจะเห็นมือเล็กๆ ของน้องมาออกในคลิปด้วย แม่อ้อกับสามี เราสองคนทำงานเบื้องหลัง สายโปรดักชั่นโฆษณากันอยู่แล้ว ก็เลยเข้าทาง พาร์ทของงานประจำ เรามีโจทย์ต้องทำตามออเดอร์ลูกค้า แต่ตรงนี้เรามีช่องทางของเราเอง เราเลยมีความสุขที่จะทำ ได้เล่าเรื่องที่เราชอบ เลยสนุกกับมันมาก"

อาหารน่าทาน โปรดักชั่นสวย ส่วนผสมที่ลงตัว

อย่างที่เกริ่นไปว่า "เพจกินข้าวกัน" คืองานอุตสาหกรรมครอบครัว แม่อ้อทำอาหาร ส่วนสามีดูแลงานวิชวล-เทคนิค ในคลิป ที่เป็นส่วนสำคัญให้แฟนๆ ชื่นชอบ แม่อ้อแอบเม้าท์สามีว่า

"รูปแบบคลิปมีโมเดลต้นแบบจากต่างประเทศก็จริง แต่เรานำมาปรับเป็นสไตล์เพจ "กินข้าวกัน" งานวิชวลของเพจจึงไม่ต่างจากอินสไปร์ของเรา ส่วนที่แตกต่างคือ ขั้นตอนการทำเมนูอาหารไทย จะมีดีเทลต่างจากอาหารต่างชาติอยู่แล้ว แรกๆ ไม่ค่อยมีการตกแต่งจานเท่าไหร่ หลังๆ เริ่มพิถีพิถัน เพิ่มอาร์ตเวิร์ก มีช็อตเสิร์ฟสวยๆ ใส่งานเทคนิคสต็อป โมชั่นลงไปบ้าง ให้งานดูมีสีสัน เข้าใจง่าย น่าติดตาม ให้การทำอาหารดูสนุกขึ้น

อย่างเมนูผัดกระเพราะเต้าหู้ทอด วีดีโอตัวนี้จะน่ารักมาก หรือการดีไซน์เครื่องปรุงให้ดูน่ารัก งานวิชวลเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้คนติดเพจแม่อ้อ และแตกต่างจากเพจอื่น ส่วนอุปกรณ์เราใช้น้อยมาก กล้องที่ใช้ เป็นกล้องที่เอาไว้ถ่ายรูปลูกสาวงานโรงเรียน (หัวเราะ) เป็นกล้องคอมแพ็กธรรมดา งานของเราจึงไปเน้นที่เทคนิค ขั้นตอน "โพสต์ โปรดักชั่น" ซะมากกว่า

5 เมนูโดนใจแฟนเพจ ทำง่าย หาง่าย เอาใจคนหิวยามดึก!

เมนูที่ฮิตหนักมาก ยอดแชร์กระจาย แม่อ้อจัดอันดับมาให้ มีทั้ง ขนมปัง-สังขยา ข้าวผัดต้มยำ มาม่าผัดโป๊ะแตก ขนมจีนน้ำยาป่า ส่วนใหญ่เมนูรสนัวแซ่บๆ คนไทยชอบ เมนูเส้นมาม่าเป็นเมนูที่ขายดีมาก เพราะเป็นวัตถุดิบที่มีติดเกือบทุกบ้าน พอดูคลิปเสร็จ สามารถลงไปซื้อ หรือเดินเข้าครัวหยิบมาทำได้เลย อีกทั้งยังนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย

ส่วนการคัดเลือกเมนูทำคลิป แม่อ้อเผยว่า อย่างแรกคือต้องชอบก่อน กับอีกส่วนที่เอาใจแฟนเพจที่รีเควสต์เข้ามา แต่ที่แม่อ้อโปรดปรานโดยเฉพาะ ต้องยกให้อาหารอีสาน แม่อ้อจะชอบมาก คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นอาหารบ้านๆ แต่จริงๆ เราทำให้มันดูน่าทานมีมูลค่าได้ นั่นคืออีกความท้าทาย เราสนุกกับการจัดวาง ดีไซน์จานให้มีความเป็นสากล เพื่อสร้างการรับรู้ต่ออาหารไทยทุกๆ ภาค

เพจปังจนสร้างรายได้

หลังเปิดเพจมา 4 เดือน เพจ "กินข้าวกัน" ได้รับความนิยมจนยอดไลค์เพจสูงไปเตะตาสปอนเซอร์ แต่แม่อ้อบอกว่า จริงๆ แล้วสปอนเซอร์มีเข้ามาตั้งแต่ช่วงเดือนแรก ตอนยอดไลค์ประมาณ 1 หมื่น แต่กว่าจะเปิดรับสปอนเซอร์จริงๆ จังๆ ก็ปาเข้าเดือนที่ 3 แล้ว แม่อ้อเล่าว่า กว่าจะมีการไทอินจริงๆ ผ่านการเลือกมาแล้วกว่า 60 เจ้า เหตุเพราะไม่อยากให้ตัวตนของเพจลดลง

"ความตั้งใจแรกคือ เราไม่ได้ทำเพื่อหาเงิน หรือเชิงพาณิชย์ ก็เลยบอกปัดไป เราคุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่า จะไม่รับสปอนเซอร์เยอะ ต้องดูแล้วว่าสินค้านั้นเหมาะกับเพจหรือไม่ เข้ามาแล้วไม่ทำให้เพจเราเสียเอกลักษณ์ ส่วนรายได้ที่เข้ามา แม่อ้อก็จะไปซื้ออุปกรณ์ เป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบในการทำคลิปต่อไปในอนาคต เพจกินข้าวกันจะมีเมนูขนม เบเกอรี่มากขึ้น ก็จะมีอุปกรณ์เพิ่มเข้ามา ในอนาคตอาจจะเห็นเครื่องตีแป้ง เครื่องอบขนมในคลิปบ่อยขึ้น (หัวเราะ)

อย่างไรก็ตาม แม้ชื่อของ "กินข้าวกัน By แม่อ้อ" จะเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว แต่แม่อ้อก็ยังไม่มองถึงการนำแบรนด์ไปต่อยอดเป็นรายการทีวี หรือชาแนลยูทูบ แต่ขอไปทีละสเต็ปแบบก้าวเล็กๆ เมื่อแม่อ้ออยากเผยแพร่อาหารไทยให้ชาวต่างชาติรู้จัก โดยการทำคลิปเป็นภาษาอังกฤษ แต่ยังอยู่ในระหว่างการพูดคุยเท่านั้น

"ตอนนี้เพจโตเร็วกว่าที่คาด ก่อนทำแม่อ้อไม่ได้คาดหวัง เลยทำให้เราไม่ได้วางโปรเจ็กต์อะไรไว้มาก ยังสนุกกับการครีเอทเมนูให้แฟนๆ ดู แต่ก็แอบคุยกันเล่นๆ ว่า เรามีวีดีโอคอนเทนท์แล้ว เราอยากสร้างทราฟฟิคให้แก่ชาวต่างชาติที่ชอบอาหารไทย ให้รู้จักวิธีการทำ รู้จักวัตถุดิบเพิ่มมากขึ้น โดยทำเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ เพราะตอนนี้มีแฟนเพจชาวต่างชาติอินบ็อกซ์เข้ามาถาม แต่ต้องจัดการเวลากันอีกเยอะ ทุกวันนี้แม่อ้อยังแบ่งเวลางานหลักกับงานเล่นไม่ค่อยได้เคยค่ะ (หัวเราะ)"

สุดท้ายแม่อ้อฝากแฟนเพจว่า อยากให้ติดตามเพจกินข้าวกัน อยู่กับแม่อ้อไปนานๆ เพราะแม่อ้อตั้งใจมาก อยากให้มีความสุขในการดูวีดีโอของเรา เพราะเพจนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวแม่อ้อคนเดียว แต่ทุกๆ คอมเมนท์ ทุกๆ ไอเดียที่แฟนเพจแชร์มาให้แม่อ้อ จนเกิดเป็นสังคมเล็กๆ เป็นส่วนสำคัญในการสร้างเพจให้เดินทางมาไกลถึงทุกวันนี้ได้