พ่อแม่ยุคใหม่เป็น ‘พ่อแม่รังแกฉัน’ มีเวลาอยู่กับลูกน้อย

พ่อแม่ยุคใหม่เป็น ‘พ่อแม่รังแกฉัน’ มีเวลาอยู่กับลูกน้อย

พ่อแม่ยุคใหม่เป็น ‘พ่อแม่รังแกฉัน’ มีเวลาอยู่กับลูกน้อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลสำรวจ พ่อแม่ยุคใหม่เป็น ‘พ่อแม่รังแกฉัน’ มีเวลาอยู่กับลูกน้อย เชื่อถือหนังสือมากสุด แต่ปล่อยลูกอยู่กับหน้าจอนานที่สุด



Amarin Baby & Kids Poll สำรวจพ่อแม่ยุคใหม่ที่มีลูกอายุ 0-12 ปีช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. 2559 จำนวน 1,041คน พบว่าในยุคปัจจุบันที่พ่อแม่ต้องทำงานนอกบ้าน พ่อแม่ 30% จะมีเวลาอยู่กับลูกเพียงวันละ4 ชั่วโมงที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของปู่ยาตายายหรือพี่เลี้ยงหนังสือยังเป็นสื่อที่พ่อแม่เชื่อถือและใช้ในการเรียนรู้ของลูกมากที่สุด

ขณะที่แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนมาเข้ามามีบทบาทในครอบครัวมากขึ้นด้วยจำนวนชั่วโมงที่ปล่อยให้ลูกอยู่ด้วยมากที่สุดต่อวัน

เมื่อถามถึงสิ่งที่พ่อแม่ทุ่มเทและให้ความสำคัญกับลูกมากที่สุดพบว่าพ่อแม่จะเน้นเรื่องพัฒนาการของลูกเป็นอันดับแรก 88% รองลงมาคือเรื่องสุขภาพของลูก 79% โดยหากขอพรให้กับลูกได้ พ่อแม่จะขอให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรง 75%, เป็นคนดี 73% และฉลาด 53%



สื่อที่พ่อแม่เชื่อถือและใช้ในการเรียนรู้ของลูกมากที่สุด ได้แก่หนังสือ81% รองลงมา คือ แท็บเล็ต 43% , โทรศัพท์มือถือ 32% และโทรทัศน์ 30%

อย่างไรก็ดีผลสำรวจกลับพบว่า เด็กจะใช้เวลาดูโทรทัศน์เฉลี่ยวันละ 70 นาที เล่นแท็บเล็ตเฉลี่ยวันละ 65 นาทีสมาร์ทโฟนวันละ 55 นาทีขณะที่ใช้เวลาอ่านหนังสือเฉลี่ยวันละ 39 นาทีตามลำดับและผลสำรวจพบพฤติกรรมที่น่าตกใจคือพ่อแม่ 59% จะให้ลูกดูแท็บเล็ตตั้งแต่อายุน้อยกว่า 3 ปี, 20% จะซื้อแท็บเล็ตเครื่องแรกให้ลูกตอนอายุ 8 ปี และ 54% จะปล่อยให้ลูกเล่นแท็บเล็ตตามลำพัง โดยสิ่งที่ลูกดูประจำได้แก่ นิทาน 53%,การ์ตูน 47%,



คลิปวิดีโอ 51% มีเพียง 20% ที่ให้ดูเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์โดยพ่อแม่จะกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการการพูด และสายตาของลูกมากที่สุด54% และ 31% ตามลำดับโดยเฉพาะลูกวัย 1-3 ปีที่จะพบปัญหาการพูดช้า ขณะที่วัย7-12 ปีจะพบปัญหาการติดเกมส์และและการปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง



จากผลสำรวจข้างต้นมีข้อคิดจากผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์แผนกจิตเวชโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า “หากพ่อแม่มีเวลาให้น้อย เราจะได้อาสาสมัครมาช่วยเลี้ยงลูกเต็มไปหมด เช่น เกม คอมพิวเตอร์ มือถือ และโทรทัศน์ พี่เลี้ยงเหล่านี้สามารถเข้าถึงลูกได้ทุกวันๆละ 24 ชั่วโมง เราจะพบลูกเล่นเกม ติดเฟซบุ๊ค กดมือถือ และดูทีวีทั้งวันทั้งคืน”

ขณะที่ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดลได้กล่าวว่า “พ่อแม่คือคนสำคัญที่จะสร้างเกราะป้องกันภัยทางเทคโนโลยี และการใช้ชีวิตให้ลูกได้ด้วยการสอน สอดส่อง ดูแล สิ่งที่ลูกใช้ว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่สำคัญพ่อแม่ต้องเริ่มจากตัวเอง ไม่ใช้เทคโนโลยีเลี้ยงลูก หรือหยิบยื่นให้เขาก่อนวัย ให้ลูกเติบโตตามธรรมชาติของเด็ก”ดังนั้น การที่พ่อแม่ใช้เวลากับลูกอย่างมีคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเริ่มจากตัวพ่อแม่ที่ไม่ใช้เทคโนโลยีมากเกินไป และหยิบยื่นให้ลูกอย่างเหมาะสมพร้อมให้คำแนะนำและดูแลการใช้งานของลูกอย่างใกล้ชิดเพราะพ่อแม่คือเกราะป้องกันภัยที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook