อี้-แทนคุณ จิตต์อิสสระ

บททดสอบที่ต้องข้ามผ่านของ อัจฉริยะข้ามคืน กว่าหนึ่งปีที่คอโทรทัศน์คุ้นตา อี้ - แทนคุณ จิตต์อิสสระ ในมาดพิธีกรภาคสนามของเกมส์โชว์สุดฮิตอย่าง อัจฉริยะข้ามคืน ณ วันนี้หลายคนเริ่มจับตามอง เมื่อเขากำลังก้าวขึ้นมาทำหน้าที่พิธีกรหลักให้กับ 2 รายการไฮไลท์ของเวิร์คพอยท์ เอนเตอเทนเมนต์อย่าง แฟนพันธุ์แท้ และ อัจฉริยะข้ามคืน ที่ครั้งหนึ่ง เสี่ยตา - ปัญญา นิรันดร์กุล เคยเป็นสัญลักษณ์มาโดยตลอด อะไรที่ทำให้พิธีกรหน้าใหม่อย่างเขาได้รับเลือก เรื่องเริ่มต้นจากเมื่อปี 2548 ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้รับคัดเลือกเข้าไปแข่งในรอบสุดท้ายของรายการแฟนพันธุ์แท้ เรื่องผู้เชี่ยวชาญภาษาจีนจนชนะ ผ่านไปเกือบปี ทีมงานโทรกลับมาหา อธิบายว่าตอนนี้เวิร์คพอยท์อยากทำรายการเกมโชว์ที่เกี่ยวกับความรู้ แล้วเขาอยากได้คนที่ให้ความสำคัญกับความรู้มาเป็นพิธีกรภาคสนาม ซึ่งก็คือรายการ อัจฉริยะข้ามคืน นี่แหละ ผมคิดว่ารายการนี้เป็นมิติใหม่ของรายการโทรทัศน์เมืองไทยที่จะนำเอาเรื่องของความรู้มาเล่น แล้วใส่ความบันเทิงให้คนหันมาสนใจได้ จึงตัดสินใจรับ จากวันแรกที่ไม่รู้เรื่องเลยว่าเราควรพูดอะไร ไปทางไหน ท่านี้คนจะชอบไหม พูดอย่างนี้ดีพอหรือเปล่า จะรู้สึกเขิน กลัว กังวลไปหมด จนพี่จิก (ประภาส ชลศรานนท์) ต้องเดินมาบอกว่า เขาชอบและเชื่อมั่นในสิ่งท่อยมันให้เต็มที่ มีอะไรทีมงานจะช่วยเอง นับจากวินาทีนั้นผมรู้สึกได้เลยว่าการที่ผู้ใหญ่ที่เราเคารพรักมากมาสอนเราขนาดนั้น เรายิ่งต้องพยายามพัฒนาให้มากขึ้น จริงอยู่ผมเริ่มต้นจากรายการใหม่ ซึ่งผมและทีมงานค่อยๆ พัฒนามาพร้อมกัน อย่างคำว่า คุณทำดีแล้ว แต่ยังดีไม่พอสำหรับอัจฉริยะข้ามคืน นี่เราก็ช่วยกันคิด สำหรับเทคนิคการเป็นพิธีกรต้องขอบคุณพี่ตา (ปัญญา นิรันทร์กุล) ที่สอนผมทุกอย่าง ตั้งแต่รายละเอียดเล็กๆ ไปถึงเรื่องสำคัญๆ สอนแม้กระทั่งท่ายืนให้ดูมีพลัง การอ่านคำถามว่าควรจะเว้นวรรคจังหวะอย่างไร ใช้สายตาระดับไหน แต่เรื่องอิสระในการคิดนี่ตรงกันข้ามเลย พี่ตาบอกให้เป็นตัวเองที่สุด อย่าเลียนแบบ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญของการเป็นพิธีกร ผมได้ยินคนพูดเยอะเหมือนกัน ว่าผมเป็น เด็กปั้นของคุณปัญญา เส้นใหญ่หรือเปล่า จริงๆ ไม่มีเลย มันเป็นการให้โอกาสกันมากกว่า ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถแทนคุณปัญญาได้ เพราะทั้งลูกเล่น ความสนุกสนาน สีหน้า แววตา แต่ผมเป็นคนจริงจังกว่านั้น ไม่เอนเตอร์เทน ไม่สามารถทำให้เพื่อนที่นั่งอยู่นิ่งๆ ขำได้ ซึ่งตรงนี้ผมพยายามปรับ แต่ปรับยังไงให้เป็นตัวเราแล้วรายการยังคงความสนุก นั่นคือการบ้านผมที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาให้มากๆ พี่ตามักจะพูดอยู่เสมอว่าการเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ ทุกเีอะไรบางอย่างที่เหมือนเดิม แต่ตัวพิธีกรจะต้องหาอะไรที่ทำให้คนดูรู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิมให้ได้ อย่างการพูดเข้ารายการมันอาจจะมีแพทเทิร์นที่คล้ายกัน สวัสดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการอัจฉริยะข้ามคืน จะทำอย่างไรให้แตกต่างเพราะผู้เข้าแข่งขันไม่ใช่คนเดิม แน่นอนมันยาก แต่ผมเชื่อว่าเมื่อทำงานหนัก มีชั่วโมงบินที่สูงขึ้น เราจะเจอทางของตัวเอง ทุกวันนี้ผมอยู่ในช่วงผ่าวิกฤต คือต้องผ่าความกดดันจากการเปรียบเทียบ อย่างรายการแฟนพันธุ์แท้ที่ทุกคนติดภาพของคุณปัญญาจากการเป็นพิธีกร ทำยังไงให้เขาเปลี่ยนความคิดว่าไม่ได้มีแต่คุณปัญญาอีกแล้วบนเวทีนี้ ยังมีอี้ - แทนคุณอยู่อีกคน ยกตัวอย่างแค่การเฉลยคำตอบ ถูกนะครับ ผมก็ต้องพยายามสร้างจุดยืนให้ได้ว่าจะไม่ไปเหมือนกับคุณปัญญา เพราะต่อให้เลียนเสียงหรือทำท่าให้เหมือนยังไงมันก็แค่เหมือน ไม่ว่าเราจะทำถึงหรือไม่ถึงระดับเดิมก็ตาม ถ้าเราเป็นตัวเอง แล้วคนยอมรับในสิ่งที่เราเป็น อันนั้นสิดีกว่า