แก้ก่อนจมูกพัง! หยุดฟัง 4 สัญญาณอันตราย

แก้ก่อนจมูกพัง! หยุดฟัง 4 สัญญาณอันตราย

แก้ก่อนจมูกพัง! หยุดฟัง 4 สัญญาณอันตราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“สวยภายใน” สาวๆ สามารถทำได้ด้วยตนเอง ส่วน “สวยภายนอก” อาจต้องขอยืมมือตัวช่วย เพื่อทำให้เป๊ะปัง เสริมความสวยแบบมั่นใจให้กับสาวๆ

หนึ่งในอวัยวะที่สาวไทยนิยมทำศัลยกรรมมากที่สุดคือ “จมูก” ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันการ “ศัลยกรรมจมูก” จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวเช่นในอดีต เพราะมีคลินิกศัลยกรรมทั้งในและนอกประเทศเกิดขึ้นเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับสาวๆ ทว่ามากพอๆ กับสวยเป๊ะปัง ก็มีที่ผิดพลาดจนทำให้หน้าพังแทนที่จะสวยสมใจ หรือเกิดอาการข้างเคียงที่ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ

ด้วยเหตุนี้ สาวๆ จึงไม่ควรตัดสินใจเลือกศัลยกรรมเพราะยึดเอาราคาเป็นหลัก เพราะจะเข้าตำรา “เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย” ต้องเจ็บตัวซ้ำสอง แถมยังเสียทรัพย์ราคาสูงกว่าการทำจมูกครั้งแรกอีกด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำศัลยกรรมแก้จมูก ดร.ปาร์ค วอนจิน แชร์สัญญาณเตือนแก้จมูกก่อนหน้าพังไว้ดังนี้


1. จมูกเบี้ยว
มีหลายรูปแบบ ได้แก่ โคนเอียง ปลายเอียง และแท่งจมูกเอียงทั้งหมด โดยจมูกเบี้ยวมีหลายสาเหตุ อาทิ ฐานจมูกเดิมคดเอียงอยู่แล้ว เมื่อเสริมซิลิโคนจึงเอียงตามกัน กระดูกบริเวณส่วนกลางโหนกนูนขึ้นมา เมื่อวางแท่งซิลิโคนทำให้ซิลิโคนเลื่อนไปด้านหลังและเอียง เช่นเดียวกับผู้ที่มีโพรงจมูกไม่เท่ากัน ก็จะทำให้เกิดความชันของจมูกที่ไม่เท่ากัน และนำไปสู่จมูกเบี้ยวในที่สุด ส่วนจมูกที่มีลักษณะตรง สังเกตได้จากจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว หัวตา และจุดกึ่งกลางของปลายจมูก จะอยู่กึ่งกลางของริมฝีปากบนพอดี

2. จมูกทะลุ
สาเหตุมาจากแท่งซิลิโคนยาวเกินพอดี ทำให้ส่วนปลายจมูกแหลมเกินไปหรือมีลักษณะใสจนเกือบเห็นเนื้อซิลิโคน ซึ่งอาจเกิดจากความไม่ชำนาญและขาดประสบการณ์ของแพทย์ที่เลือกแท่งซิลิโคนที่โด่งเกินไปไม่เหมาะสมกับลักษณะจมูกของคนไข้ หรือเลือกใช้วัสดุด้อยคุณภาพ แข็งเกินไป เพื่อประหยัดงบ ขณะเดียวกัน หากคนไข้ไม่ดูแลตนเอง เช่น พักผ่อนน้อย สัมผัสแผลบ่อย ไม่ดูแลทำความสะอาด ก็ทำให้จมูกทะลุได้เช่นกัน

3. จมูกติดเชื้อ
หลังจากการเสริมจมูกจะมีอาการบวม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา โดยจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน กว่าจะกลับมาเป็นปกติ ต่างจากจมูกติดเชื้อที่จะมีน้ำขุ่นๆ หรือหนองไหลออกจากแผล สาเหตุอาจจะมาจากการรับประทานอาหารแสลง เช่น ของหมักดอง การสัมผัสบ่อย จับแผล เกา ลูบบริเวณแผลบ่อย จนทำให้เกิดอาการอักเสบ รวมถึงการกระทบกระเทือนจากการจาม ไออย่างรุนแรง จนทำให้เกิดการกระแทกจนอักเสบได้

4. จมูกไหล
เกิดจากการที่แท่งซิลิโคนไม่แน่นพอ สามารถโยกขึ้นลงหรือเลื่อนไปซ้ายขวา เคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิม หากปล่อยไว้นานอาจจะทำให้เกิดซิลิโคนทะลุ ควรรีบปรึกษาแพทย์

ด้านการแก้จมูก ดร.ปาร์ค เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่ศัลยแพทย์จะแก้ไขโดยวิธีการผ่าตัดแบบเปิด (Open Rhinoplasty) โดยนำซิลิโคนเก่าและพังผืดออก ก่อนปรับโครงสร้างจมูกใหม่ ในกรณีที่ไม่มีอาการติดเชื้อ จะสามารถใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไปเลย ทว่าหากมีอาการติดเชื้อร่วมด้วย แพทย์จะต้องรักษาอาการติดเชื้อให้เสร็จก่อน ซึ่งข้อดีการแก้จมูกในลักษณะนี้ คือ ช่วยในการปรับทรงจมูกที่ใหญ่ให้เล็กลง จมูกสั้นให้ยาวขึ้น แก้ไขจมูกที่โก่งให้เรียบขึ้น และแก้ไขทรงจมูกที่คดให้ตรงได้อีกด้วย นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ผู้เข้ารับบริการควรใส่ใจก่อนการทำจมูก ไม่ควรเข้าตำรา เสียน้อย เสียยาก เสียมากเสียง่าย

ขณะเดียวกัน ผู้เข้ารับบริการก็ต้องยอมรับข้อจำกัดของใบหน้าตนเอง เพื่อเลือกรูปทรงจมูกและขนาดของแท่งซิลิโคนให้เหมาะสม เช่น ผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย การเสริมแท่งซิลิโคนโด่งเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาจมูกทะลุได้ในอนาคต นอกจากนี้ ควรรับฟังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพราะสามารถให้คำแนะนำที่ดีที่สุด



ขอบคุณข้อมูล : Wonjin@Embassy 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook