10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับปัญหาผมร่วงของผู้หญิง

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับปัญหาผมร่วงของผู้หญิง

10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับปัญหาผมร่วงของผู้หญิง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าหากคุณเริ่มสังเกตเห็นว่ามีเส้นผมร่วงอยู่ที่บริเวณท่อระบายน้ำเป็นกอง ในเวลาที่สระผม หรือแค่หวีเบาๆ ผมก็หลุดร่วงออกมาแล้ว แบบนี้เรียกว่ามีปัญหาผมร่วงหรือไม่ เรามักจะคิดว่าปัญหาผมร่วงเป็นปัญหาของผู้ชาย แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยก็มีปัญหานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงในวัย 50 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ ยังมีอีก 10 ข้อเท็จจริง ที่ผู้หญิงควรรู้เกี่ยวกับปัญหาผมร่วง

1. ผู้หญิงก็ผมร่วงได้เหมือนกันผู้ชาย เรามักจะเห็นว่าเวลาผู้ชายผมร่วม ผมบาง จะมีรูปแบบที่คล้ายๆ กัน เช่น ผมร่วงเป็นรูปตัวเอ็ม บางคนก็ร่วงจนล้านตรงกลาง Mary Gail Mercurio แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจาก University of Rochester Medical Center ในนิวยอร์ค กล่าวว่า โดยมากแล้ว อาการผมร่วมของผู้หญิง มักจะไม่ได้เป็นการร่วงถอยร่นที่ตีนผมด้านหน้า แต่จะร่วงตรงกลาง

แต่ทั้งนี้ ถ้าผมร่วมเพราะการสระผม หรือการจัดแต่งทรงผมนั้น ไม่นับว่ามีปัญหานี้ แต่ปัญหาจะเกิดเมื่อสังเกตได้ว่าผมบนศีรษะบางลง ผู้หญิงที่มีปัญหานี้ ส่วนมาก จะเป็นไปตามประวัติครอบครัว หรือกรรมพันธุ์ และอีกส่วนเป็นเพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย

2. ระดับฮอร์โมนเพศชาย หรือ Testosterone สูง ก็ทำให้ผมร่วง ใครที่ผมร่วงเพราะปัญหานี้ แพทย์อาจช่วยได้ โดยให้ยา Anti-androgen ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากฮอร์โมน ที่ทำให้ผมร่วง


3. ยาคุมกำเนิด ก็มีผลทำให้ผมร่วงได้ และปัญหานี้ ดูเหมือนจะพบได้บ่อยๆ ใครที่ใช้ยาคุมกำเนิดรุ่นเก่าๆ อาจจะลองเปลี่ยนมาใช้รุ่นใหม่ๆ ที่ลดผลกระทบเรื่องผมร่วงให้เบาบางลงได้ หรือหากใช้ยาคุมกำเนิดแล้วเกิดปัญหานี้ ควรปรึกษาแทพทย์ทันที


4. ปัญหาผมร่วงอาจะไม่ได้เป็นแบบถาวร ผู้หญิงบางคน อาจมีปัญหาผมร่วงหลังจากคลอดลูก เพราะฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ในกรณีนี้ แพทย์บอกว่า ผมอาจจะขึ้นมาใหม่ แต่ใช้เวลาหลายเดือน และผู้หญิงบางส่วนอาจผมร่วงเพราะการอดอาหาร ลดน้ำหนัก ซึ่งส่วนนี้ เป็นผลมาจากการขาดสารอาหารบางอย่าง

โดยเฉพาะธาตุเหล็ก และสังกะสี มีผลต่อความแข็งแรงของเส้นผม กรณีนี้ แก้ได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่า พวกถั่ว และหอย และในการจำกัดอาหารนั้น ก็ควรทำแบบมีขั้นตอน ไม่เช่นนั้น ร่างกายอาจจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จนนำไปสู่อาการผมร่วงแบบไม่ถาวรได้


5. ความเครียด ก็มีส่วนทำให้ผมร่วง และอาการอาจจะมากกว่าที่คาดคิด ความเครียด ไม่ว่าจะมาจากการทำงาน ความขัดแย้งภายในบ้าน สามารถก่อให้เกิดโรคร้ายและความเจ็บป่วยหลายอย่าง ในส่วนของผมก็เช่นกัน เพราะความเครียด ไปทำลายวงจรชีวิตของเส้นผมเช่นกัน

6. ผู้หญิงเมื่ออายุมากขึ้น ผมก็ร่วงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีประวัติครอบครัวผมร่วงมาก่อน คนกลุ่มนี้ อาจจะเริ่มมีผมบางลงตั้งแต่อายุ 20 กว่าๆ แล้ว และจะยิ่งเป็นมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น สาเหตุอย่างหนึ่งก็คือปัญหาเรื่องฮอร์โมน แพทย์จึงแนะนำให้พยายามรักษาระดับฮอร์โมนให้สมดุลย์ รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และควบคุมไม่เกิดความเครียดสูง

7. ไบโอติน หรือวิตามินบี 7 ช่วยรักษาผม เราอาจจะเคยเห็นผลิตภัณฑ์ที่วางขายทั่วไป บ่งบอกว่า มีสรรพคุณในการบำรุงผลและเล็บ ผลิตภัณฑ์พวกนั้น มีส่วนผสมของไบโอติน ซึ่งช่วยบำรุงให้ผมมีสุขภาพดี ช่วยระบบการเผาผลาญอาหาร และการดูดซึมอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงาน อย่างไรก็ตาม แพทย์จาก Mayo Clinic บอกว่า ไบโอติน จะช่วยให้เส้นผมแข็งแรง แต่ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าไบโอติน ช่วยรักษาผมร่วง ที่เกิดจากปัญหาฮอร์โมน หรือ พันธุกรรมได้


8. ใช้แชมพูมากเกินไป ก็อาจะเป็นสาเหตุของผมร่วง ในช่วงที่ผ่านมา เราอาจจะเห็นว่า มีคนมีชื่อเสียง และบล็อกเกอร์ หลายๆ คนออกมาแนะนำว่า ไม่ควรสระผมด้วยแชมพู หากไม่ใช้แชมพู ผมจะหนาและมีสุขภาพที่ดีกว่า กรณีนี้ แพทย์บอกว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่าแชมพูเป็นสาเหตุให้ผมร่วง เพราะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยัน และจริง ๆ แล้ว แชมพูก็ไม่ได้ทำร้ายเส้นผม

ในทางกลับกันมันช่วยทำความสะอาด และขจัดไขมันบนเส้นผมด้วย นอกจากนี้ หากไม่ใช่แชมพูสระผมให้สะอาดพอ ก็อาจนำไปสู่การเกิดรังแคได้อีก หากใครที่สระผม แล้วกังวลเมื่อเห็นผมร่วงที่บริเวณท่อน้ำ ก็ขอให้คิดว่า โดยปกติ ผมของคนเราจะหลุดร่วงออกมาวันละ 100 ถึง 150 เส้น


9. การตากแดด ทำให้ผมบางจริงหรือ แน่นอนว่า การออกไปตากแดด โดยไม่ทาครีมกันแดดนั้น ทำให้ผิวหนังถูกทำลาย แต่นั่นไม่ได้ทำให้ผมร่วง วิตามินดี ที่ได้จากแสงแดดและอาหาร กลับเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อวงจาชีวิตของเส้นผม เคยมีการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ผมร่วง มักจะขาดวิตามินดี ดังนั้น การรับแสงแดด และรับประทานอาหารที่เพียงพอ เป็นสิ่งสำคัญต่อการบำรุงรักษาเส้นผม

10. การทำสีผมเป็นสาเหตุของผมร่วง การทำผม แต่งผม ไม่ได้ทำให้ผมร่วง แต่การทำผม อาจทำให้เส้นผมอ่อนแอลง การทำทรีตเม้นท์ หากมากเกินไป ก็ไม่เป็นผลดีเช่นกัน รวมไปถึงการทำสีผม การอบผมด้วยความร้อน การยืดผม การดัดผม การเป่าด้วยความร้อน ยิ่งทำบ่อย เส้นผมก็ยิ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook