18 คำแนะนำแต่งหน้าแต่งตัวอย่างไรไม่ให้ดูแก่

การเลือกเสื้อผ้า และเครื่องสำอาง เป็นสิ่งที่บ่งบอกสไตล์ของตัวคุณได้เป็นอย่างดี การแต่งตัวดี ช่วยเติมเต็มชีวิต และทำให้ผู้หญิงเราสดชื่น แต่ก็มีบ้างเหมือนกัน ที่ผู้หญิงเราเลือกผิด ทั้งแบบ ทั้งสีเสื้อผ้า และเฉดสีของเครื่องสำอางที่ใช้ แทนที่จะดูแล้วสวยสดใส กลับกลายเป็นพัง ผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลเสื้อผ้า หน้า ผม ของดาราฮอลลีวู๊ดบอกว่า

เมื่อผู้หญิง อายุมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องอัพเดทแฟชั่นให้บ่อยนักก็ได้ แต่สำหรับเครื่องสำอางนั้นต่างกัน เครื่องสำอางที่เคยใช้ดีมาตลอด เมื่อวัยเปลี่ยนไป เราก็อาจต้องเปลี่ยนตามให้เหมาะสมกับอายุ

การแต่งหน้า แต่งตัวในบางครั้ง แทนที่จะช่วยลดอายุ กลับทำให้แก่เกินวัยไปก็มี ลองมาดูกันว่า ข้อผิดพลาด 18 อย่าง ที่ทำให้เราดูแก่นั้น มีอะไรบ้างและจะแก้ไขได้อย่างไร

1. แต่งตัวล้ำสมัยเกินไป แต่ถ้าหากว่าคุณมีงบไม่จำกัดสำหรับการแต่งตัวแล้วละก็ แต่งไปเถอะ Alana Kelen สไตล์ลิสต์จากนิวยอร์ค บอกไว้ว่า เสื้อผ้าที่ทันสมัยมากๆ มักจะดูทันสมัยอยู่ได้ไม่นาน แทนที่จะไปลงทุนเปลี่ยนใหม่ทุกฤดูกาล หันมาลงทุนกับเสื้อผ้าในสไตล์คลาสสิกจะดีกว่า เสื้อผ้าคลาสสิกนี้ แม้จะเก็บไว้ในตู้นานแล้ว เมื่อเอาออกมาใส่ใหม่ มันก็ไม่ทำให้ดูแก่ แต่ถ้าเป็นเสื้อผ้าที่ล้ำสมัยมากๆ เก็บไว้นาน แล้วนำออกมาใส่เมื่อหมดฤดูฮิตไปแล้ว อาจจะทำให้คุณดูแก่เชย ล้าสมัยไปเลย สำหรับเสื้อผ้าที่อยู่ได้นาน ใส่ได้เรื่อยๆ จะเป็นพวกเสื้อหนัง เสื้อผ้าแนวทหาร ลายดอกโทนเข้ม ผ้าตาราง และพวกกระโปรงกางเกงที่ทำให้รูปร่างดูเพรียว เช่นกางเกงทรงสลิม หรือกระโปรงที่เรียกว่า ทรงดินสอ

2. เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วก็อย่าหวง ผู้หญิงส่วนมากชอบเก็บเสื้อผ้าที่ชอบเอาไว้ แม้จะใส่มันไม่ได้แล้วก็ตาม บางชุดใส่ออกมาแล้วหลวมเกินไป บางชุดก็แน่นจนติดกระดุมไม่ได้ แต่พวกเธอก็เก็บไว้ เพียงเพราะซื้อมันมาในราคาแพง หรือบางคนก็บอกว่า เสียดาย คุณอาจจะลองนำไปให้ช่างเสื้อลองแก้ดูก่อน จากนั้น ก็สวมใส่มันบ่อยๆ ด้วยความเชื่อมั่น หรือไม่เช่นนั้น ก็บริจาค หรือขายมือสองไปเสียเลย เมื่อไม่ใช้ ก็อย่าให้รกตู้

3. ไว้ผมยาวเกินไป ผู้หญิงหลายๆ คน เห็นว่า การไว้ผมยาว ช่วยให้ดูว่ายังเป็นคนหนุ่มสาว ผมสั้น เหมาะสำหรับวัยผู้ใหญ่ หรือรุ่นแม่ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ไขมันบนใบหน้าของเราจะลดน้อยลง การไว้ผมยาว กลับทำให้ดูโทรม คำแนะนำคือ ตัดให้สั้นลง และสไลด์ให้ดูมีเลเยอร์ จำช่วยให้ใบหน้าดูสดใสกว่าการไว้ผมตรงๆ ยาวๆ

4. กรีดอายไลน์เนอร์ทั้งเข้มทั้งหนา แน่นอนว่า การใช้อายไลน์เนอร์สีเข้ม ทำให้ดวงตาดูเด่น คม แต่ช่างแต่งหน้าแนะนำว่า มันทำให้ดูแก่ ผู้หญิงส่วนมาก เมื่ออายุมากขึ้น ขนตาก็บางลง เลยทำให้คิดว่าต้องเขียนตาให้เข้มเป็นพิเศษ แต่วิธีการดังกล่าวกลับไปเน้นให้เห็นริ้วรอยรอบดวงตา ดังนั้น แทนที่จะเลือกเขียนขอบตา ด้วยสีดำ ลองเปลี่ยนมาเป็นสีน้ำตาล หรือสีเทา พวกอายไลน์เนอร์ที่เป็นน้ำ ก็ไม่ควรใช้ เพราะมันทำให้ดูหนา หนัก เปลี่ยนมาเป็นเขียนด้วยดินสอเขียนขอบตาก็พอ

5. การทำผิวสีแทน การตากแดด จนผิวกลายเป็นสีแทนนั้น ก็ดูสวยดี แต่การที่ต้องอยู่ภายใต้แสงแดด และอุณหภูมิที่ร้อน เป็นเวลานานนั้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวพรรณแก่ก่อนวัย แถมยังทำให้เกิดฝ้า กระอีกด้วย ไม่เพียงการตั้งใจอาบแดดเพื่อผิวสีแทนเท่านั้น แต่การใช้ชีวิตประจำวัน เราก็ต้องโดดแดด โดนรังสี ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นก็คือ การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน


6. ไม่ดูแลผิวที่มือและหน้าอก แน่นอนว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ ทาครีมกันแดดที่ใบหน้าทุกวัน แต่จะมีใครบ้าง ที่ใส่ใจกับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ที่ต้องโดนแดดอยู่เป็นประจำด้วยกัน นั่นคือ มือ คอ และหน้าอก นอกจากในหน้าแล้ว สามจุดที่ว่านี้ เป็นบริเวณที่เกิดริ้วรอย และจุดด่างดำได้ง่าย จึงเป็นจุดที่เราไม่ควรจะละเลยด้วยเช่นกัน


7. การสวมเสื้อผ้าที่แน่นจนเกินไป หลวมเกินไป สั้นเกินไป ยาวเกินไป ล้วนแต่ไม่เหมาะทั้งนั้น Jannifer Baumgartner นักจิตวิทยา ผู้เขียน You Are What You Ware กล่าวว่า ถ้าคุณสวมเสื้อผ้าชุดใดแล้ว รู้สึกไม่สบาย ไม่มั่นใจ ก็อย่าไปใส่ แต่ถ้าหากว่าคุณอายุ 80 แล้ว และยังรู้สึกมั่นใจ ชอบ และสบายที่จะใส่ยีนรัดรูป หรือกระโปรงสั้น ก็ใส่ไปเถอะ คุณจะดูดีเอง แต่ถ้าหากคุณเลือกที่จะใส่มัน เพราะคิดว่า เสื้อผ้าแบบนั้น มันจะทำให้คุณดูไม่แก่ แต่คุณไม่ชอบ ไม่สบายเลย คนอื่น เขาก็จะมองเห็น และรู้สึกได้ว่า เสื้อผ้าชุดนั้นไม่เหมาะกับคุณเช่นกัน


8. การไม่ใส่เข็มขัด ชุดกระโปรง ชุดแซค ที่สวมสบายๆ ตัวหลวมๆ ไม่เข้ารูป ลองหาเข็มขัดมาใส่ จะช่วยทำให้รูปร่างดูดี ดูมีสัดส่วน เข็มขัดที่เลือก เลือกให้เข้ากับชุด และไม่ควรเป็นวัสดุที่ดูหนาและหนักจนเกินไป


9. ทาปากสีเข้ม ลิปสติกสีเข้มมาก หรือสดมาก จะไปเน้นให้เห็นริ้วรอยรอบปาก วิธีที่ถูกต้องคือมใช้ลิปไลน์เนอร์ หรือดินสอเขียนของปาก จากนั้นเลือกลิปสติกสีโทนธรรมชาติมาทาทับและเกลี่ยให้กลมกลืนกัน หรืออาจจะใช้เป็นลิปมันก็ได้เช่นกัน ผู้หญิงส่วนมาก ทาปากสีเข้ม ทำให้ดูหนาไม่เป็นธรรมชาติแต่การแต่ให้ดูเบาบาง เป็นธรรมชาตินั้น กลับทำให้ดูเด็กลง

10. ใช้รองพื้นมากเกินไป หรือใช้ผิดสี เรามักจะปกปิดริ้วรอยด้วยการทารองพื้น แต่หากเราใช้มากเกินไป ยิ่งทำให้เกิดริ้วรอย และเห็นริ้วรอยได้ชัดเจนขึ้น วิธีที่ถูกคือ ใช้การปกปิดจุดด่างดำเฉพาะจุด โดยอาจจะเลือกรองพื้นแบบน้ำ หรือแบบครีม หรือพวกคอนซีลเลอร์ก็ได้ นอกจากนั้น ต้องดูว่าสีของรองพื้นเหมาะกับสีผิว และข้อเท็จจริงอีกอย่างคือ สีผิวของเราอาจเปลี่ยนไปตามอายุ ดังนั้น เราอาจไม่สามารถใช้สีเดิมไปตลอดได้ ควรลองทดสอบสีทุกสองสามปี


11. ปัดบลัชออนมากเกินไป ไม่เพียงแค่ดูไม่ดีเท่านั้น ช่างแต่งหน้าแนะนำว่า การแต่งหน้าที่ดูเป็นธรรมชาตินั้น เป็นหัวใจสำคัญของการทำให้ดูเด็ก สำหรับบลัชออน ให้ปัดบริเวณแนวผม และขากรรไกร จากนั้นกระจายมาที่แก้ม และไม่ต้องปัดให้เข้มมากไป


12. เครื่องสำอางที่ส่องประกายระยิบระยับ มากเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอายชาโดว์ หากคุณต้องการแต่งให้แลดูอ่อนวัย พวกเครื่องสำอางที่ระยิบระยับพวกนี้ ไม่ได้ช่วยเลย มันกลับเน้นให้เห็นริ้วรอย ควรเลือกสีด้านมากกว่า หากต้องการเน้นความเด่น อาจใช้พวก Shimmer ได้บริเวณมุมๆ หัวตา แต่ไม่ใช่ทั้งหมด


13. ใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่เหมาะกับตัวเอง เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวจะแห้งลง ดังนั้น ครีมบำรุงผิว จึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ใช้ผิด วิธีที่ถูกคือ สำหรับใบหน้า ให้เลือกครีมที่มีน้ำหนักเบา เป็นสูตรที่ไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน หลังจากล้างหน้า ก็ให้ทาครีมบำรุงทันที อย่าทิ้งไว้จนผิวแห้งตึงไปเสียก่อน


14. ความเป็นธรรมชาติ ทำให้ดูอ่อนเยาว์ แน่นอนว่า ทั้งสีของดวงตา และสีของปาก เป็นสิ่งทำให้เราดูแก่ลงได้ แต่ยิ่งผู้หญิงอายุมากขึ้น ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะเลือกสีเครื่องสำอางให้เข้มขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งนั่นเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง


15. แต่งตัวดูเด็กเกินไป การแต่งตัวเหมือนลูก หรือเหมือนหลาน ไม่ใช่แนวคิดที่ดี เราควรตามเทรนการแต่งตัง จากคนในวับไล่เลี่ยกันมากกว่า


16. การเลือกเครื่องแต่งกายที่ไม่เข้ากัน บางครั้งสไตล์ของเครื่องแต่งกายแต่ละชิ้น อาจจะเข้ากันไม่ได้ Kelen แนะนำว่า หากเราสวมกางเกงหรือกระโปรงรัดรูป ให้เลือกเสื้อที่ดูสบายๆ ไม่รัด แต่ถ้าใส่เสื้อรัดรูป ให้เลือกกางเกงหรือกระโปรงที่ไม่เข้ารูป นี่เป็นเทคนิคที่จะทำให้คุณดูดีและมั่นใจ


17. การใช้สีที่ตกเทรนด์ สีสันของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล หากต้องเปลี่ยนตามทุกฤดูกาล ก็คงจะสื้นเปลืองงบประมาณมาก ทางที่ดี ควรเน้นสีคลาสสิก และมีสีเหล่านี้ไว้ในตู้เสื้อผ้า เป็นหลัก เช่น สีดำ น้ำเงินเข้ม เทา โอลิเวอร์ กากี และขาว เพราะสามารถสวมใส่ได้ตลอด นอกจากนั้น สีแดง ม่วง สีโคบอลต์ หรือสีเขียวมรกต ก็สามารถเข้ากับสือื่นๆ ได้ง่าย ส่วนสีพาสเทล อาจนำมาใช้กับเครื่องประดับ เช่น ต่างหู กระเป๋า กิ๊บแต่งผม


18. การทำร้ายดวงตา ผิวรอบดวงตา เป็นผิวที่บอบบาง การใช้เครื่องสำอาง หรือครีมบำรุงที่ไม่เหมาะสม อาจทำร้ายดวงตาได้ เช่น ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือผิวลอก ซึ่งทำให้ดูไม่ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดก็ตาม ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือ ต้องล้างเครื่องสำอางก่อนนอนทุกคืน ด้วยครีมล้างหน้าที่ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง และซับด้วยผ้านุ่มหรือสำลี ไม่ขัดหรือขยี้ตาอย่างรุนแรง