มาทำความรู้จักกับ เมโสหน้าใส นวัตกรรมที่จะทำให้สาวๆ สวยไม่น้อยหน้าใคร

ไม่ว่าจะลองเดินไปถามสาวๆ คนไหนต่างก็ต้องรู้จักการทำทรีทเมนต์เมโสหน้าใสกันทั้งนั้น หลายๆ แบรนด์ต่างๆ ก็ออกมาป่าวประกาศเปิดโอกาสให้สาวๆ ได้เข้ามาทำสวยกันอย่างไม่น้อยหน้า อีกทั้งยังเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ต้องใช้แรงไฟฟ้า จึงกลายมาเป็นทรีทเมนต์ยอดนิยมสำหรับสาวๆ ไปโดยทันทีในบ้านเรา แต่เชื่อหรือไม่ว่าการทำเมโสหน้าใสในต่างประเทศนั้นก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ถึงประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้สาวๆ สบายใจ Sanook! Women จึงออกตามหาคำตอบในสิ่งที่สาวๆ ตั้งคำถามมาฝาก จะได้สบายใจกันมากขึ้น

เมโสหน้าใส คืออะไร ?
เมโสหน้าใส นั้นเป็นการทำทรีทเมนต์เพื่อรักษาปัญหาสีผิวบนใบหน้าที่ไม่สม่ำเสมอกัน ทั้งยังช่วยขจัดปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างกำต่างๆ โดยใช้เข็มที่มีขนาดเล็กเจาะผ่านเข้าไปในผิวหนังชั้นกลาง โดยนำเอาสารจำพวกมัลติวิตามิน แอนติออกซิเดนท์ ตลอดจนสารบำรุงผิวตัวอื่นๆ เข้าไปยังชั้นผิวด้านใน

เมโสหน้าใส ทำแล้วเจ็บหรือไม่ ?
พอเริ่มอ่านจนไปเจอคำว่า เข็ม สาวๆ ก็อาจะเริ่มรู้สึกหวาดเสียวขึ้นมาบ้างแล้ว หลายคนอาจจะกังวลว่าการทำเมโสหน้าใสจะต้องใช้เข็มเจาะลงไปบนใบหน้า และเริ่มเกิดคำถามว่าจะเกิดความเจ็บปวดหรือไม่ คำตอบ คือ ไม่ เพราะในระหว่างการทำทรีทเมนต์ เราแทบจะไม่รู้สึกถึงเข็มที่เจาะลงไปบนหน้าเลย เนื่องจากเข็มที่ใช้มีขนาดเล็กมาก และจะแทงลงไปในชั้นผิวที่ลึกประมาณ 5 - 10 มิลลิเมตรเท่านั้น อาจจะรู้สึกได้ถึงความร้อน ซึ่งจะหายไปในเวลาประมาณ 10 - 20 นาที

เมโสหน้าใส

เมโสหน้าใส จะช่วยให้หน้าใสได้จริงหรือ ?
เป็นคำถามนี้เป็นคำถามที่อาจไม่ถูกถามมากนัก แต่ก็พอบอกได้ว่าคำถามนี้ควรจะเป็นคำถามที่สาวๆ ควรจะถามผู้รู้ก่อนตัดสินใจลงทุนทำหน้าสวย เพราะแต่ละคนที่เดินทางไปก็มักไปพร้อมกับความหวังและความเชื่อที่ว่า การทำทรีทเมนต์รูปแบบใดก็ตามล้วนแต่เป็นการบำรุงผิวหน้า ยังไงก็ต้องออกมาสวยใสแน่ ซึ่งปัจจุบัน การทำเมโสกับผิวหน้ายังคงเป็นที่ถกเถียงกันในวงการแพทย์ผิวหนังในต่างประเทศ โดยเฉพาะอเมริกา ที่เมโสหน้าใสยังไม่ได้รับการยอมรับจากองค์อาหารและยา (US FDA) ว่าทรีทเมนต์ดังกล่าวให้ผลลัพธ์ทางการแพทย์ในเชิงการรักษาผิวหนังได้จริง

หลังจากทำทรีทเมนต์ เมโสหน้าใส จะเป็นอย่างไร ?
การใช้เข็มผิวหน้านั้นย่อมจะต้องเกิดรอยแดงเป็นธรรมดา ฉะนั้นภายหลังจากการทำเมโสทรีทเมนต์ ที่บริเวณใบหน้าจะเกิดเป็นรอยแดงที่มีลักษณะคล้ายกับผื่น หรืออาจจะมีตุ่มปรากฏขึ้นให้เห็นแล้วแต่สภาพผิวของแต่ละคน ซึ่งพอผ่านพ้นไปประมาณ 1 - 3 วัน รอยแดงนี้ก็จะหายไปเป็นปกติ

ข้อเสียของ เมโสหน้าใส มีอะไรบ้าง ?
การเมโสหน้าใสล้วนแล้วแต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เรื่องข้อดีเราก็ได้เห็นกันไปบ้างแล้ว ส่วนข้อเสียก็เป็นเรื่องที่สาวๆ จะต้องระมัดระวังไว้จะเพิกเฉยไม่ได้ ซึ่งการทำเมโสหน้าใสอาจทำให้เกิดแผลเป็นขึ้นบนบริเวณใบหน้า หากว่าแพทย์แทงเข็มเข้าในชั้นผิวที่มีความลึกกว่าที่ควรจะเป็น ฉะนั้นสาวๆ ควรทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น ในกรณีของคนที่ผิวบาง เกิดการอักเสบง่ายก็จะได้รับผลกระทบที่รุนแรงกว่าคนปกติ ผิวหน้าอาจมีการอักเสบรุนแรง หรือเกิดความผิดปกติ นอกจากนั้นแล้วภายหลังจากการทำทรีทเมนต์ก็จะต้องรักษาความสะอาดผิวหน้าเป็นพิเศษ เพราะที่ผิวอาจจะติดเชื้อได้ง่าย หรือเกิดสิวจากการสะสมของแบคทีเรียก

เป็นยังไงกันบ้างกับข้อมูลที่ Sanook! Women นำมาฝาก น่าจะช่วยให้สาวๆ มีภูมิคุ้มกันได้บ้างแล้ว อย่าลืมว่าก่อนทำสวยต้องมีสติ อย่าเพิ่งลงทุนไปในสิ่งที่เรายังไม่แน่ใจว่าจะการันตีในสิ่งที่เราคาดหวังได้หรือไม่ การทำเมโสก็เช่นกัน ควรอยู่ภายในความดูแลของแพทย์ผู้เชียวชาญเท่านั้น หากว่าเราบำรุงมาแล้วแต่ไม่ใส่ใจดูแลอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่ทำไปก็จะสูญเปล่าทันที จากที่คิดไว้ว่าต้องสวย ผลลัพธ์อาจกลับกันกลายเป็นอีกอย่างเลยก็ได้

รูปจาก istockphoto.com