ประสบการณ์เสริมหน้าอกแบบละเอียดทุกขั้นตอน สวย หรือ สยอง มาดู

ประสบการณ์เสริมหน้าอกแบบละเอียดทุกขั้นตอน สวย หรือ สยอง มาดู

ประสบการณ์เสริมหน้าอกแบบละเอียดทุกขั้นตอน สวย หรือ สยอง มาดู
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประสบการณ์การเสริมหน้าอก จาก "ต๊อกแต๊ก" สาวประเภท 2 ผู้โด่งดังจากมิวสิควีดีโอ เพลงเพื่อนรัก ของ The Parkinson โดยซีนที่ทำหน้าอกใน MV คือถ่ายทำจริงๆ 

"ต๊อกแต๊ก" ได้ถ่ายทอดเรื่องราวการทำศัลยกรรม เสริมหน้าอก แบบละเอียดทุกขั้นตอน โพสบนเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากศึกษาข้อมูลเรื่องการเสริมหน้าอกโดยเฉพาะ มีข้อความดังนี้

[แชร์ประสบการณ์] แอบพ่อไป UPSIZE เปลี่ยนไปเป็นร๊าาก..รักนมหมดหัวใจ <3 [ป.ล.รูปเยอะแบบจัดเต็ม]

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ…ก่อนสิ่งอื่นใด อาจจะเคยคุ้นหน้าค่าตาเราบ้าง เคยมาฝากกระทู้อันไกลลลลิบๆ…ในเรื่องของการจัดฟันมาแล้ว

วันนี้มีโอกาสได้มาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆ อ่านกันสักเรื่อง (ถามว่าใครอยากอ่าน?) เอาเป็นว่ามันก็ได้ความรู้แหล่ะแกเอ้ยย เรื่องที่เราจะมารีวิวก็ตามหัวข้อกระทู้เลยคร่าอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างนะจ๊ะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ที่เพิ่งจะเขียนรีวิว เพราะว่า อยากให้น้องนมมันค่อนข้างชัวร์ ก่อนว่าไม่มีปัญหาอะไร และให้มันเริ่มเข้าที่เข้าทาง ซึ่งตอนนี้เราก็ทำหน้าอกมาแล้วประมาณ 5 เดือน กว่าๆ เลยอยากจะมีเขียนรีวิวแชร์ประสบการณ์ของตัวเองให้เพื่อนๆ ได้อ่าน เพื่อเป็นวิทยาทาน และโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม!!

รีวิวนี้จะให้ข้อมูลแน่นปึ้กๆ กันไปเลยค่ะ ใครที่สนใจจะเสริมหน้าอกก็น่าจะได้ความรู้เก็บไปเพื่อเลือกตัดสินใจ จะได้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด!! สาเหตุหนึ่งที่ตั้งใจเขียน ขึ้นมา เพราะเห็นกระทู้ในพันทิปกระทู้หนึ่ง ที่ว่าตื่นตอนกำลังเสริมหน้าอกแล้วเสียวแทน บอกตรงๆ ว่ามันน่ากลัวม๊าก!! ตอนแรกเราก็เคยดูที่นั่นไว้ คิดว่าจะไปทำเหมือนกัน ขอบอกว่า รีวิวนี้ยาว!! แต่เน้นสาระ ไม่เหมาะกับคนโลกสวย แอนตี้ ศัลยกรรม หรือ พอใจกับที่สิ่งพ่อแม่ให้มานะคะ กระทู้นี้เหมาะกับคนอยากมีนม แต่ยังไร้ที่พึ่ง ทางจิตใจเท่านั้นค่ะ ขอบอกเลยว่ารูปและเนื้อหามันครบเกือบทุกขั้นตอน อ่านจบแล้ว รู้เรื่องเลยว่าควรหรือไม่ควรทำนม!!

**ซึ่งขอบอกว่าภาพเยอะ!! และอาจจะสยิวเสียวสยึมกึ๋ยกันบ้างนิดหน่อย เพราะความโชคดี ที่เราได้ภาพจาก footage video จาก Music video บางส่วนที่มีอยู่ใน MV และบางส่วนที่ไม่ได้เผยแพร่ แต่ขออนุญาตทาง ทีมโปรดักชั่น มาประกอบเนื้อหากระทู้เราด้วย เผื่อเพื่อนๆ สงสัยว่าเราได้ไฟล์ภาพมาได้ไง จริงๆ มันมีเป็นวิดีโอเลยค่ะ เห็นทุกขั้นตอนการทำของเราเลยค่ะ! ถือว่า เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดีมั้ยล่ะ ได้เห็นวิดีโอตัวเองตอนผ่าตัด สะพรึงมากก**

เอาล่ะ มาเริ่มกันด้วยเหตุผลหลักในการเสริมหน้าอกของเรา ซึ่งก็ไม่มีอะไรมาก ร่างกายไม่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง แต่อยากเปลี่ยนแปลงการเสริมหน้าอกเป็นปัจจัยนึงอยู่แล้วถูกป่ะคะ แล้วอีกอย่างมันทำให้เราขาดความมั่นใจ ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากจะใส่เสื้อในฟองน้ำหนาๆ จริงมั้ยคะ ตุ๊ดก็เหมือนกันเเหล่ะ T^ T

เหตุผลก็มีอยู่แค่เนี้ยเเหล่ะจริงๆ แต่เพิ่งตัดสินใจทำได้ เพราะยังหาข้อมูลอะไรเกี่ยวกับการทำหน้าอกได้ยังไม่พอใจกับความต้องการของตัวเองเลยค่ะ

ย้อนกลับไปเมื่อก่อนตอนเป็นเด็กนะ ก็จะมีคลินิกที่ขึ้นชื่อเรื่องเกี่ยวกับเสริมหน้าอก ที่รุ่นคุณแม่ แม่ ฮิตๆ กันไปทำ กรอกหูมาตลอดเวลา เหมือนว่าโตขึ้นก็ต้องไปทำที่นี่แหล่ะ เเต่พอโตขึ้น ศึกษาข้อมูลแบบละเอียดมากขึ้น บวกกับเห็นที่เพื่อนๆ พี่ๆ รุ่นแม่ๆ ไปทำกันมา ก็บอกว่าถ้าโชคดีก็ดี ถ้าโชคไม่ดีก็ซวย ก็เลยเริ่มไม่ค่อยมั่นใจ เท่าไหร่ค่ะ

เราเลยขอทำการลิสต์สิ่งที่คิดว่ามันเหมาะกับเรามากที่สุดจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาเด้อ โดยเราจะลิสต์ให้เพื่อนๆอ่านเป็นข้อๆ สำหรับการเลือกสถานที่ตัดสินใจทำศัลยกรรมหน้าอกของเรานะคะ

1. ถ้าเราจะทำศัลยกรรม เราควรทำกับแพทย์เฉพาะทาง
เริ่มรู้ว่าการผ่าตัดศัลยกรรม ควรทำโดยแพทย์เฉพาะทางจริงๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองมากที่สุด ซึ่งเพื่อนๆ สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ศัลยแพทย์ที่เราจะไปทำ เลือกคลินิกที่เล็งๆไว้ ในใจ เอาชื่อหมอไปเซิจดูประวัติได้เลยที่ >>http://tmc.or.th/check_md/ หรือ http://www.plasticsurgery.or.th/lst.php ว่าเป็นหมอจริงหรือเปล่า(อันนี้สำหรับแพทย์ไทยนะคะ แพทย์เกาหลีเราไม่แน่ใจเช็คอย่างไร) เพราะเดี๋ยวนี้คลินิกเถื่อนเยอะ หมอธรรมดาที่มีความรู้ไม่ถึงก็มีเยอะค่ะ มีดราม่าให้เห็นกันตลอด แล้วยังเคยมีประสบการณ์ศัลยกรรมพลาดมาเราก็เลยกังวลเรื่องนี้เป็นพิเศษค่ะ

2.เสริมหน้าอกให้ขนาดเหมาะกับตัวของเราจริงๆ
ความตั้งใจของเรา คืออยากเสริมให้ดูเป็นธรรมชาติ รับกับสรีระร่างกายของตัวเราจริงๆ ไม่ได้ใหญ่โอเวอร์ และก็ไม่ได้เล็กเป็นนมเด็กอนุบาล จนเกินไป๊ …. การวัดซิลิโคนให้เข้ากับหน้าอก จึงมีความจำเป็นมากเลยค่ะ

เพื่อนๆ ลองนึกภาพตาม ถ้ายัดหมอนที่ขนาดใหญ่กว่า ใส่เข้าไปในปลอกหมอน ดูสิคะ จนทรงบิดเบี้ยว ตอนยัดก็ยัดเข้าไปย๊าก ยาก.. ถึงยัดได้ หมอนก็จะต้องถูกบีบรัดจนผิดรูปผิดทรง ร่างกายเรา หน้าอกเราก็เหมือนกันล่ะค่ะ พอยัดซิลิโคนที่ใหญ่เกินขนาด ก็จะทำให้ร่างกายเจ็บมากกว่า อนาคตมีผลทำให้ทรงหน้าอกผิดรูปได้มากกว่า อาจจะแบะออกข้าง หรือดันล้นจนเห็นเป็นขอบซิลิโคน ชัดเจน หมอก็เหนื่อย แล้วยังได้นมที่ผิดกับรูปร่างตัวเอง เสี่ยงต่อการชาของเส้นประสาท พูดง่ายๆคือเสริมใหญ่เกินขนาด มีโอกาสทำแล้ว หัวนมหมดความรู้สึกค่ะ (ปัญหาใหญ่เลยนะ!!! 555) ปัญหาพบได้มากกว่าเพราะมีการตัดเลาะกล้ามเนื้อมาก ขนาดแผลผ่าตัดก็จะต้องใหญ่ขึ้น ก็แหงหล่ะ ยัดใหญ่ก็ต้องมีรูที่ใหญ่ถูกมะ ส่วนตัวเราว่าไม่โอเคอ่ะ ขอรีเควสเป็นทรงธรรมชาติดีกว่า

3.ทรงหยดน้ำ หรือทรงกลม อะไรดี?
เอาจริงเมื่อก่อนนะ เรารู้แค่ว่า รวยหน่อยเสริมหยดน้ำดูเนียนเป็นธรรมชาติ มีตังปานกลางก็เสริมทรงกลม เราเริ่มจากการหาข้อมูลเกี่ยวกับซิลิโคนได้พอสมควร และการที่ได้ไปปรึกษาคุณหมอก่อนทำ จริงๆ แล้ว ซิลิโคนมีให้เลือกเป็นสิบๆแบบเลยค่ะ แต่จะเลือกซิลิโคนให้เหมาะสมกับร่างกายของเรา จะประเมินได้จากฐานหน้าอกเดิมของเราเลยค่ะ คือดูจากสรีระความสูง ฐานความกว้างของหน้าอก ส่วนมากถ้าแบนๆอย่างเรามา แพทย์ก็แนะนำให้เสริมทรงกลม เพื่อให้ดูเต็มและมีเนิน แต่ถ้าคนที่มีเนื้อหย่อนห้อยมา หรือผ่านการมีลูกมา ก็แนะนำให้เสริมทรงหยดน้ำ ซึ่งตัดไปค่ะ ทรงหยดน้ำ เพราะน้องแบนยิ่งกว่าไม้ฝาเชอร่า มีตะปูมาตอกไว้ 2 เม็ด 555 ขนาดที่ตั้งใจไว้ก็คืออยากให้พอดีกับขนาดตัวค่ะ

4.ใต้กล้ามเนื้อ เหนือกล้ามเนื้อคืออะไร?
โอ๊ย..งง งงไปหมด อะไรคือเหนือ อะไรคือใต้ รู้แค่ว่าเหนือนิ่มกว่า ใต้กล้ามเนื้อเเข็งกว่า สรุปพอปรึกษากับหมอเข้าจริง มีเทคนิคใหม่ค่ะ เรียกว่า Dual plane ค่ะ คือการผ่าตัดกึ่งเหนือกึ่งใต้กล้ามเนื้อ เอ้างงไปอีกคือไร๊! สรุปง่ายๆ ว่า เหนือกล้ามเนื้อเนี่ย ไม่เหมาะกับคนแบนแตร๊ดดดดแบบเราค่ะ มันจะดูเป็นบล็อคๆ กะเทยคนไหนนมเป็นบล็อคกลมๆ เห็นขอบเป็นก้อนซิลิโคนกลมๆ ชัดๆ นั่นล่ะค่ะ เหนือกล้ามเนื้อ ส่วนใต้กล้ามเนื้อ คือมันจะอยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อเราค่ะ ข้อดีคือ ไม่เห็นเป็นขอบซิลิโคน แต่อาจจะคลำแล้วรู้สึกสัมผัสมันแน่นๆ ไม่ค่อยนิ่ม เท่าผ่าเหนือ เพราะมันแค่ใต้ผิวหนังละซิลิโคนเลย ดังนั้นหมอไม่แนะนำค่ะ ถ้าอยากทำต้องเป็นตุ๊ดเทคยามานานๆ ที่พอมีเนื้อนม ไม่ก็สตรีมีเนื้อนมประปราย จะสามารถทำเหนือกล้ามเนื้อได้ ส่วนเทคนิค Dualplane คือ สำหรับเรานี่หมอจัดแบบ Dualplane เลยค่ะ

**เพิ่มเติม การเสริมใต้กล้ามเนื้อจะลดโอกาสการเกิดผังพืด เกาะรอบซิลิโคน ที่หลายๆ คนกังวล เหลือเพียงไม่ถึง 5% นะคะ การเสริมเหนือกล้ามเนื้อมีโอกาสเกิดได้มากกว่า แต่เราจะไม่พบในเคสเสริมหน้าอก 1-2 ปีแรกค่ะ เห็นผลก็ประมาณ 5-6 ปีขึ้นไปแล้วแต่บุคคล บางคนอาจจะไม่เกิดก็ได้ค่ะ **

5.อะไรผิวทราย อะไรผิวเรียบ?
ผิวทราย นี่ไม่ได้ให้สัมผัสแบบจับแล้วเหมือนอยู่ริมทะเล มีปูเสฉวนวิ่งไปมา อะไรงี้นะคะ 555 แต่มันคือผิวซิลิโคนชั้นนอก ซึ่งได้ถูกออกแบบใหม่ ให้หนาขึ้น และมีความแข็งแรงกว่า ระยะยาวมันมีโอกาสเกิดรอยพับ รอยย่น หรือการเสื่อมสลายของผิวห่อหุ้มซิลิโคนได้น้อยกว่าแบบผิวเรียบ แต่ภายในจริงๆแล้วเป็นตัวเจลซิลิโคนเหมือนกันค่ะ เรียกว่า MemoryGel ซึ่งเป็นซิลิโคนเนื้อเจลที่มีความหนืดคงตัว การยึดเกาะสม่ำเสมอ มีสัมผัสที่ใกล้เคียงความเป็นธรรมชาติ ถ้าเกิดการแตก หรือ รั่ว ก็จะไม่แทรกซึม หรือกระจายเข้าไปในร่างกาย ค่ะ สำหรับเราเลือกแบบผิวทราย เพราะเป็นรุ่นใหม่กว่า ผิวแข็งแรงกว่า แต่ว่าก็แล้วแต่คนจะชอบนะคะ

6. ตอนทำ ดมยาสลบ กินยานอนหลับ บลอคหลัง ฉีดยาชา หรืออะไร หรือโป๊ะแล้วหลับเหมือนผู้ร้ายฉกตัวนางเอกเรียกค่าไถ่??!!
ปัญหาโลกแตกของคนกลัวเจ็บค่ะ จริงๆ มีทริคง่ายๆ ท่องคำว่า จะสวยยย จะสวยยย ก็ไม่เจ็บแล้วค่ะ 555 อันนี้ก็ส่วนนึงนะ ขำ ขำ แต่ที่สำคัญเลย นี่เคยเข้ารับการผ่าตัดมาใหญ่มาเกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย ทำให้รู้ว่า การดมยาสลบระหว่างผ่าตัด เป็นทางออกที่ดีที่สุดของการทำศัลยกรรมใหญ่ๆ ค่ะ เพราะมันไม่มีความรู้สึกเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหมอที่ดิฉันเลือก ก็ทั้งฉีดยานอนหลับ ฉีดยาชา ดมยาสลบ ครบเครื่องเลยค่ะ

แต่ที่สำคัญคือต้องเป็นวิสัญญีแพทย์มาดมยานะคะ ถ้าที่ไหนบอกว่าหมอผ่าตัดเป็นคนดมยา อันนี้มั่วนิ่มเลยค่ะ การดมยาโดยวิสัญญีแพทย์ แพทย์คนนี้จะเป็นคนดูเรา เป็นคนปลุกให้เราตื่น เป็นคนทำให้เราหลับค่ะ คนละคนกับหมอผ่าตัดเลยนะคะ ซึ่งก่อนหมอจะให้ดมยาสลบ หมอจะฉีดยานอนหลับทางสายน้ำเกลือให้ก่อนค่ะ ซึ่งเรียกเทคนิคนี้ว่า IV sedation และจะให้ดมยาสลบต่อ เรียกว่า ที่เรียกว่า General Anesthesia หรือเรียกสั้นๆว่า GA คือ การให้ยาระงับความรู้สึก เพื่อการผ่าตัดใหญ่ เป็นวิธีมาตรฐานของการดมยาสลบเพื่อผ่าตัด ซึ่งใช้กันทั่วไปในโรงพยาบาล โดยเราเหมือนนอนหลับไป หมดความรู้สึก 100% ไม่เกิดความเจ็บปวดขณะทำการผ่าตัด การดมยาสลบเหมาะกับการผ่าตัดในบริเวณกว้าง,บริเวณที่มีเส้นประสาทเยอะ และต้องการให้คนไข้ไม่ขยับ ทำให้การผ่าตัดทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นวิธีที่ทางการแพทย์พิสูจน์แล้วว่า ปลอดภัย และได้มาตรฐาน เหมาะกับการผ่าตัดเสริมเต้านม

**โดยวิสัญญีแพทย์จะต้องประเมินสภาพร่างกายและทางเดินหายใจก่อนการผ่าตัด โดยจะใส่ท่อช่วยหายใจ เพื่อช่วยให้ระบบทางเดินหายใจปลอดภัย ควบคุมออกซิเจนได้อย่าง100% และมีการให้ยาสลบ ยาแก้ปวดอย่างแรง และยาคลายกล้ามเนื้ออย่างแรงทางเส้นเลือด ช่วยให้หลับได้อย่างผ่อนคลาย ไม่เจ็บ พอไม่มีการรับรู้ใดๆระหว่างการผ่าตัด ก็จะไม่ขยับต่อต้านหรือเกิดกล้ามเนื้อกระตุก ทำให้คุณหมอผ่าตัดได้ราบรื่น และสามารถหยุดเลือดได้หมดและเย็บแผลได้ดี **

7.ผ่าตรงไหน จะยัดซิลิโคนเข้าไปตรงไหน?
ถ้าสมัยเมื่อก่อนที่เราเห็นรุ่นแม่เสริมกัน ก็จะฮิตผ่าใต้รักแร้ เคยไปรับนางมีความโอดครวญต้องหิ้วปีกกันกลับบ้านแบบหน้าเป็นตูดกันเกือบทุกคน นึกภาพโดนกรีดใต้รักแร้ มันก็ยกแขน อะไรไม่ถนัดใช่มั้ยล่ะคะ 3 4 ปี มานี้เราเห็นเทคนิคการผ่าแบบใต้ราวนมกำลังฮิต เห็นรุ่นพี่เราที่ไปทำมา ทำผ่าแบบนี้แล้วชิวมาก ยกแขนได้ ตักข้าวกินเองได้ ดูเดินเหินลุกได้สบายกว่า ก็เลยเริ่มศึกษาเกี่ยวกับแผลใต้ราวนม เห็นว่ามันดูแลได้ง่ายกว่า ผ่าตัดพักฟื้นได้ไวกว่า ก็เลยเลือกเล็งๆไว้ ว่าจะทำแผลใต้ราวนมค่ะ

สิ่งประกอบการตัดสินใจเสริมหน้าอกของเราหลักๆ ก็มีแค่นี้ค่ะ
“สวย ทรงดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่ใหญ่โอเว่อร์เพราะไม่ได้เน้นขายนม แค่อยากใส่เสื้อผ้าให้สวยขึ้น” เพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ในชีวิต ก็เลยขอศึกษาละเอียดนิดนึงค่ะ

ตอนปรึกษาคุณหมอ ไม่ได้คิดเลยค่ะว่าต้องใส่ขนาดเท่าไหร่ กะให้คุณหมอวัดตรงนั้นเลย ซึ่งคุณหมอก็วัดให้ และเลือกขนาดแรก ประมาณ 300 cc และเอาซิลิโคนมาลองทาบ อุ้ยแม่เจ้า เล็กมากกก..หมอก็บอกให้ ลองเพิ่มขนาดดู เอาที่เรารู้สึกว่าน่าจะพอดีกับเรา เราก็หยิบลองใส่ลงไปในเสื้อในที่คุณหมอเตรียมไว้ให้ค่ะ แล้วก็มีซิลิโคนตัวอย่างเอามายัดเข้าไปอ่ะค่ะ หมอบอกว่าถ้าอยากใส่ใหญ่ๆ 450- 490 CC ก็ได้นะ เเต่มันจะเจ็บและพักฟื้นนาน ใจก็คิดนะคะ เอ๊ะ หรือจะฟิวสาว maxim สาว playboy ไปเลย ก็หยิบมาลองนะคะ555 แต่พอใส่แล้วรู้สึกใหญ่เกิน หนักจ้า หนักแบบโน้มตัวมาข้างหน้า เลยลดลงมาที่ 400 CC ดีกว่าค่ะ รู้สึกว่ากลางๆ กำลังพอดีช่วงตัว ทำใหญ่มากกลัวจะดูตัวล่ำบึกใหญ่ไปอี้กกก

ซึ่งสรุปก็ได้เป็นซิลิโคนรุ่น EURO ที่มี อย.ไทย และอเมริกา รับรอง ซิลิโคนรุ่นนี้จะฐานแคบกว่า Mentor ทำให้ใส่ได้ใหญ่กว่า เป็นทรงกลม ผิวทราย เหมาะกับตัวเราที่เนื้อหน้าอกน้อย หรือเรียกได้ว่าไม่มีไปเลยดีกว่า

วิธีเตรียมตัวในการเสริมหน้าอกของเราคือ

-งดวิตามิน น้ำมันตับปลา(ไม่ได้ทาน) ฮอร์โมนเสริมต่างๆ ก่อนเสริมหน้าอกประมาณ 2-3 อาทิตย์ เพราะยาพวกนี้จะ ทำให้เลือดเเข็งตัวได้ช้าเวลาผ่าตัด มีโอกาสเสียเลือดมากระหว่างการผ่าตัด

-พยายามออกกำลังกาย รักษาร่างกายให้แข็งแรง ตรวจสุขภาพร่างกาย ตรวจ HIVเสร็จสรรพ ซึ่งก็ตรวจที่ทางที่คลินิกที่เราทำนี่แหล่ะค่ะ

-ตรวจวัดความดันด้วยค่ะ อันนี้ไม่ต้องเสียเงินนะ

-ทำสุขภาพจิตให้ดี เมื่อเราสักถามคำถามกับคุณหมออย่างพอใจแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว ทำใจให้สบายๆ

-เคลียร์คิวงานให้ว่าง อย่างน้อย 1 อาทิตย์ สำหรับเรานะ (อันนี้สำคัญ) อยากพักผ่อนให้รู้สึกว่าตัวเองหายดี

มาถึงช่วงเตรียมใจก่อนทำ แล้วก็มีช่วงพีคนี่ล่ะค่ะ มีพี่รุ่นพี่เค้าติดต่อ มาจะให้ไปเล่น MV ลองไปแคสดู เราก็แบบเฮ้ย จะทำหน้าอกอาทิตย์หน้าแล้วนะพี่ หนูจะพักฟื้นทันไปเล่นให้พี่มั้ยเนี่ย พี่เค้าก็บอกว่า เฮ้ย จะทำจริงอ่ะ อยากได้ชอตนี้อยู่พอดี งั้นขอให้เราเล่นให้หน่อยได้มั้ย เราก็เอาวะ เป็นไงเป็นกันลองดู สรุป พี่เค้าก็ขอไปถ่ายตอนเสริมหน้าอก จริงๆ ด้วย ก็โอเคค่ะตามนั้น ตอนทำนี่ไม่มีเวลาให้ตื่นเต้นเตรียมใจอะไรเลยนะ ค่อนข้างชุลมุนวุ่นวาย แต่ก็ไม่ได้กลัวอะไรค่ะ เพราะคิดว่าเออจะสวยละนะ ทำๆเสร็จเดี๋ยวหลับ ตื่นมาก็มีนมละจบๆ ฮ่าาาาาาา

ตอนวันทำ เปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อย ก็มาให้คุณหมอ ถ่ายรูป Before เก็บไว้เป็นภาพความทรงจำ เมื่อครั้งยังแบนก่อนค่ะ โนสน โนอายนะคะ 555 (ภาพหลังจากนี้ทั้งหมดมาจากกองถ่าย MV นะคะ เดี๋ยวจะงงว่าถ่ายมาได้ไง)

คุณหมอวาดเส้นร่างเพื่อเตรียมยัดน้องซิลิโคนเข้าไปในตัว พอเข้าห้อง พี่ช่างกล้องก็เซทอัพนู่นนี่ ตัวเราก็ขึ้นเตียง มีพยาบาลมาช่วยลอคแขนไว้กับเตียง ใส่เครื่องวัดความดันค่ะ

เครื่องวัดสัญญาณชีพจรไว้ที่นิ้ว เสียงนี่ดัง ตี้ด ๆ ๆ ๆ มีความตื่นเต้นเบาๆ แล้วมันก็ติ้ดๆๆเร็วๆตอนคุณหมอกำลังจะฉีดยาค่ะ

เสร็จแล้วก็โดนห่มผ้า ตอนนั้นเริ่มเบลอๆ มึนๆ ความชุลมุนล่ะค่ะ แอบหิวเล็กน้อยเพราะเค้าสั่งให้งดข้าว งดน้ำก่อนผ่าตัด 6 ชม. เพื่อให้ดมยาสลบได้ ไม่งั้นเดี๋ยวสำลักอาหาร หมอก็คุยๆกับเราไปเรื่อย ถามนู่นถามนี่ งดข้าวมาแล้วใช่มั้ยครับ งดน้ำมาเเล้วใช่มั้ยครับ เดี๋ยวยาจะแสบตรงเส้นหน่อยน้าา… เครื่องวัดสัญญาณชีพจรไว้ที่นิ้ว เสียงนี่ดัง ตี้ด ๆ ๆ ๆ มีความตื่นเต้นเบาๆ แล้วมันก็ติ้ดๆๆเร็วๆตอนคุณหมอกำลังจะฉีดยาค่ะ...แล้วก็ฮึบบบ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแล้วค่ะ หลับคร่อก..

** ระหว่างที่หลับเราหายใจ ด้วยเจ้าเครื่องนี่ค่ะ โดยคุณหมอจะสอดท่อช่วยหายใจเข้าไป และใช้เครื่องควมคุม การนอนหลับของเราค่ะ ทำเสร็จก็ให้ออกซิเจนอีกที ฉีดยา แล้วก็ปลุกให้ลืมตาค่ะ แต่เอาจริงๆ ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรแล้วนะ มันหลับสบายมาก!!

ขั้นตอนต่อไปจะเริ่มเข้าโหมดโหด

“เสร็จแล้ว พยาบาลก็เริ่มบรรเลงทาเบตาดีน เพื่อฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดร่างกายก่อนค่ะ”

“เสร็จแล้วก็เริ่มฉีดยาชา ถามว่ารู้สึกมั้ย?? หึ ไม่จ้า”

พอฉีดยาชาเสร็จสรรพ คุณหมอจะเริ่มกรีดจาเส้นที่วาดไว้ เพื่อเปิดชั้นผิวหนัง และใช้เครื่องจี้เลเซอร์ เพื่อเลาะกล้ามเนื้อค่ะ ซึ่งจะห้ามเลือดไปในตัว เป็นเทคนิคพิเศษที่ทางศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางเค้าใช้กัน บางที่ก็เรียกว่าเทคนิคไร้เลือด (แพทย์ทั่วไปใช้เครื่องมือคล้ายเคียว เรียกว่า Retractor เลาะกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการฉีกขาด และเลือดออกมาก บวมนาน) ข้อดีคือจะทำให้หายเร็ว เลือดไม่ไหลมากระหว่างทำ เจ็บและบวมช้ำน้อยค่ะ

หลังจากที่คุณหมอได้ทำการเปิดโพรงหน้าอกไว้เรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มทำการแกะกล่องซิลิโคนค่ะ ขั้นตอนนี้ จะเกิดขึ้นเร็วมาก เพื่อความปลอดเชื้อค่ะ

"เตรียมย้ายยยยเข้าสู่ร่างแล้ว"

"ขั้นตอนนี้ ตอนนั่งดูวิดีโอตัวเอง ลมแทบจับค่ะ ยัดเข้าไปได้ไงนิ้ ทำไมตอนทำไม่รู้สึกเลย 555"

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากใช่มั้ยคะ เร็วมากจริงๆ เสร็จแล้วเตรียมตัวเย็บแผลแล้ว

“ เย็บเสร็จ คุณหมอก็ปิดแผล กันเชื้อโรค กันน้ำ กันเหงื่อค่ะ ”

“นมมาแล้ว แต่ต้องรัดผ้าพันหน้าอกไว้ก่อนนะคะ เพื่อบรรเทาอาการปวดหลังผ่าตัด แล้วก็รัดไว้ให้ซิลิโคนอยู่ทรงด้วยค่ะ”

“มูฟๆ ไปนอนพักฟื้นก่อนค่ะ หลับแบบยังไม่ได้สติ พักก่อนให้หายเบลอยา ถึงจะกลับบ้านได้ค่ะ”

"ตึ้ดๆ ๆ" เริ่มได้ยินเสียงชีพจรตัวเองอีกครั้ง ตัดภาพมาหลังจากเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นอนปวกเปียกอยู่ในห้องพักฟื้นแล้วค่ะ

พอตื่นมาปุ๊ป.. โอ้ยหนักจัง เหมือนมีอะไรมาวางบนตัว ก็แอบแง้มๆดู โอ๊ะ มีเนินจ้าา มีเนินน มาจ้า น้องผู้ช่วยพยาบาลก็เอาน้ำแดงมาให้กิน อืมมมม ดูดน้ำลำบากนิดนึง เค้าก็ถามเราว่าปวดมั้ย ก็จะพูดออกไปนะ แต่เสียงไม่ออกค่าาา .. มันเหมือนมันหนักๆ หน่วงๆ เหมือนอารมณ์เวลาเอาโน๊ตบุ๊คมาวางเล่นบนอกอ่ะ ความรู้สึกมึนยายังไม่หายไปเลยขอนอนต่ออีกพักนึง

ยังมีแรงเซลฟี่ได้อ่ะคิดดู้555

ตื่นมาอีกทีเกือบทุ่ม คลินิกปิด 2 ทุ่ม ก็ค่อยๆ แบกร่างตัวเองลงมา ผู้ช่วยพยาบาลเค้าก็ช่วยพยุงหลังนะคะ เพราะลุกขึ้นเองไม่ค่อยไหว ห้องผ่าตัดอยู่ชั้น 3 เราก็ค่อยๆกระดึ้บๆลงมาทีละขั้น ตอนแรกจะให้คนที่บ้านมารับ แต่พี่ช่างตากล้องมารอรับไปส่งบ้าน และขอถ่ายต่อบนรถ 555 ตอนนั้นก็มึนๆเอ๋อค่ะ ถ่ายก็ได้ เเต่หนูไม่พูดอะไรนะพี่ มันจุ๊กอก

เรามีเวลาพักถ่าย MV อีกประมาณ 7 วัน 1-2 วันแรกยอมรับว่าจะทำอะไรมันก็ค่อนข้างติดๆ ขัดๆ เหมือนเรายังไม่ชิน + กับความตึงแน่นของหน้าอกที่โดนรัดผ้าอยู่ ทำได้เพียงแค่กินยา 3 ให้ครบสามมื้อ ซึ่งยาที่เราได้รับมาก็จะเป็นพวก- ยาที่ให้กิน หลังการผ่าตัด เพื่อแก้ปวด ป้องกันติดเชื้อ ลดบวม ต้านอักเสบ และ คลายกล้ามเนื้อ ค่ะ

วันที่ 3 นัดไปหาคุณหมอ เพื่อถอดผ้ารัดออก ซึ่งพอถอดออกได้เห็นนมตัวเองครั้งแรก รู้สึกทรงมันประหลาดแท้ (หรือเราไม่ชิน) คือมันยังบวมๆอยู่ด้วย หมอก็บอกว่าต้องรอให้ยุบเข้าที่ค่ะ ใช้เวลา 1-2 เดือน มันถึงจะเริ่มเข้าทรง 3 – 4 เดือนก็เริ่มนิ่ม พอถอดผ้าออก ใส่สปอร์ตบราที่เตรียมมาให้ หมอนัดอีก 7 วันเพื่อมาทำการตัดไหมแผลใต้ราวออกค่ะ

ออกจากคลินิกปุ๊ป นี่ก็ตรงไปเซ็นทรัลเลยค่ะ รู้สึกเดินสบายขึ้นเยอะม๊าก…. แต่ยังไม่ถึงกับวิ่ง 4X100 ได้นะคะ 555 ช๊อปสปอร์ตบราเพิ่ม ความนมมาแล้ว ความเสื้อชั้นในก็ต้องมาตาม แต่…!! ต้องใส่แบบสปอร์ตบราไปก่อน นะคะ หรือไม่งั้นก็ต้องเป็นแบบบราที่ไม่มีโครงเหล็ก ใส่ไปก่อน 6 เดือน อันนี้คุณหมอแนะนำ เพราะซิลิโคนและภายใต้กล้ามเนื้อของเรามันยังไม่เข้าที่

เข้าทาง ถ้ามีบราเหล็กมารัด อาจมีโอกาสทำให้หน้าอกผิดรูป ผิดร่างได้ค่ะ โนวๆๆๆ ไม่เสี่ยงเนอะ

สภาพหลังถอดผ้ารัด แต่เราแนะนำว่าให้เป็นสปอร์ตบรามีตะขอหลังหรือหน้านะคะ จะใส่ง่ายกว่า เราดันใส่แบบสวม ลำบากนิดนึง ><

ครบกำหนด เจ็ดวัน ตัดไหมปุ๊ป หมอเช็คเเผลปิดสนิทดีเรียบร้อย หมอก็ทายาให้ แปะแผล แล้วก็สั่งห้ามโดนน้ำอีก 2 วัน รวมๆคือไม่ได้อาบน้ำซูซ่ามา เกือบ 10 วันค่ะ 5555 เน่าที่แท้จริง ได้แค่ไปสระผมร้าน เช็ดเนื้อเช็ดตัวเอา หมอก็สอนวิธีนวดๆ หน้าอกนิดหน่อย แบบกดลงค้างไว้ 20 วิ ทำทุกทิศทุกทางให้น้องซีลี่เคลื่อนไปเคลื่อนมาอ่ะค่ะ ทำทุกเช้าเย็น แผลก็ดูแลเป็นพิเศษ ถึงเวลาอาบน้ำได้ เราก็เลือก แปะปลาสเตอร์กันน้ำไว้ก่อน เพื่อความชัวร์ 5555

สรุป ตอนนี้ผ่านมา 5 เดือนแล้ว ความเข้าที่เข้าทางของหน้าอก ก็ถือว่ากำลังดีเลย ส่วนปัญหาในอนาคตนี่ยังไม่รู้นะ แต่ค่อนข้างมั่นใจกับการตัดสินใจครั้งนี้มาก เพราะว่า ศึกษามาเยอะพอสมควร ค่ะ

รวมๆ แล้ว การเสริมหน้าอกของเราไม่ใชแค่ทำให้เราแต่งตัวสวยขึ้นอย่างเดียวนะคะ แต่มันช่วยเพิ่มความมั่นใจ และความเป็นผู้หญิงให้กับเรา มากๆ คือเรื่องบุคคลิกภาพ จากคนที่เดินห่อตัวเพราะอายที่ใส่เสื้อในฟองน้ำนี่หายไปเลยค่ะ โยนทิ้งหมดตู้ เราก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆ ที่กำลังคิดจะทำศัลยกรรมอะไรใหญ่ๆนะคะ อยากให้เลือกสถานที่ดีดี อย่างน้อยควรมีแพทย์ที่มีชื่อเสียงและมีข้อมูลที่เชื่อถือได้จริงๆ เพราะถ้าเกิดเป็นอะไรมา อย่างน้อยเค้าก็ยังรับผิดชอบเราได้ อย่าเห็นแต่กับราคาหรือโปรโมชั่นถูกๆ ค่ะ สงสัยอะไรก็ถามกับพนักงานหรือดีที่สุดก็คือคุยกับหมอไปเลยตรงๆ

เพื่อนๆ จะเอาเทคนิคเราไปใช้ก็ได้นะคะ อย่างน้อยต้องได้รับ ใบรับประกันซิลิโคน เราต้องรู้ว่าซิลิโคนที่เราเสริมเป็นรุ่นอะไร ยี่ห้ออะไร หมอก็ควรเป็นศัลยแพทย์ ไม่ใช่แพทย์หรือคลินิกเถื่อน เพราะหมอบางคนเป็นหมอธรรมดาถึงจะผ่านเคสมามาก ก็มีโอกาสพลาดได้ ตามที่เห็นข่าวกันมากมายค่ะ ที่สำคัญ คือคุณควรเตรียมความพร้อมของร่างกายและจิตใจ หรือปรึกษาคนในครอบครัวก่อน ถ้าอายุต่ำกว่า 20 ปีแล้วอยากเสริมหน้าอก ก็ควรพาผู้ปกครองไปปรึกษาด้วยนะคะ ท่านจะได้รู้ข้อมูลหรือช่วยแสดงความคิดเห็นกับเรา แต่สำหรับเด็กๆที่อายุต่ำกว่า 18 ถ้าเป็นผู้หญิงจริงๆก็ยังไม่แนะนำค่ะ รอให้ร่างกายโตเต็มที่ก่อนแล้วค่อยเสริมก็ได้ ค่อยๆเก็บเงินไปค่ะ

หัวใจหวังว่าข้อมูลที่เรามารีวิวให้ จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะตัดสินใจเสริมหน้าอกนะคะ จะทำทั้งที่ อยากให้มันดีๆ ไปเลย จะได้ไม่ต้องมาเจ็บตัวแก้ ถ้าเกิดปัญหามาตามหลังค่ะ 

 

ขอบคุณข้อมูล : http://pantip.com/

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook