สูตรลดน้ำหนักทำง่าย กับเทคนิคเลือกกินอาหารเช้าในสัดส่วนที่เหมาะสม

สูตรลดน้ำหนักทำง่าย กับเทคนิคเลือกกินอาหารเช้าในสัดส่วนที่เหมาะสม

สูตรลดน้ำหนักทำง่าย กับเทคนิคเลือกกินอาหารเช้าในสัดส่วนที่เหมาะสม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สูตรลดน้ำหนักมีอยู่มากมายเลยทีเดียว สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาสูตรลดน้ำหนักที่ทำได้ง่าย วันนี้เรามีสูตรการกินอาหารมื้อเช้าอย่างฉลาดที่จะทำให้การลดน้ำหนักได้ผลมาฝาก เรามาดูกันเลยนะคะว่าสูตรลดน้ำหนักจากการเลือกกินอาหารเช้าให้เป็น ทำได้อย่างไรบ้าง

1.แคลอรี

โดยปกติแล้ว อาหารเช้าเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมเราควรกินที่ 300-400 แคลอรี แต่หากสาวๆ อยู่ในช่วงลดน้ำหนักก็ควรกินที่ 300-350 แคลอรีเท่านั้น และเมื่อน้ำหนักลดลงตามเป้าแล้ว หากต้องการควบคุมน้ำหนักให้คงที่ต่อไปก็ควรกินอาหารเช้าอยู่ที่ประมาณ 350-400 แคลอรี แค่นี้ก็ไม่ทำให้อ้วนขึ้นแล้วค่ะ

2.คาร์โบไฮเดรต

แม้จะอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก แต่การงดกินคาร์โบไฮเดรตในมื้อเช้าก็นับว่าไม่สมควรเช่นกัน เพราะร่างกายยังต้องการพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นควรกินคาร์โบไฮเดรตประมาณ 45-55 % ของอาหารเช้า 1 มื้อ โดยจะเทียบได้กับคาร์โบไฮเดรตประมาณ 40-55 กรัม ถ้าจะให้ดีหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นแป้งขาว แต่หันมากินพวกแป้งโฮลวีทแทนจะดีกว่า

3.โปรตีน

อาหารที่เป็นโปรตีนควรมีอยู่ 15-20 % ของอาหารเช้าในแต่ละมื้อ หรือประมาณ 13-20 กรัมนั่นเอง เพียงแค่นี้ก็นับว่าเพียงพอที่จะต่อเติมพลังให้เราในยามเช้าได้ดีแล้ว และยังมีการศึกษาพบอีกด้วยว่า การกินโปรตีนอย่างน้อย 20 กรัมในมื้ออาหารเช้าจะส่งผลทำให้การลดน้ำหนักดีขึ้นด้วย

4.ไขมัน

ในส่วนของไขมันก็จำเป็นต่อความต้องการร่างกายเช่นกัน แม้แต่ในช่วงลดน้ำหนักก็ตาม โดยในมื้อเช้าควรกินไขมันประมาณ 10-15 กรัมต่อวัน หรือประมาณ 30-35 % ของอาหารมื้อเช้าทั้งหมด ซึ่งควรเลือกกินไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว เช่น ถั่ว เนยถั่ว เมล็ดพืช อะโวคาโด และน้ำมันมะกอก เป็นต้น

5.ไฟเบอร์

ไฟเบอร์คือ ตัวช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในแต่ละวันเราควรกินอาหารที่มีไฟเบอร์อยู่ที่ประมาณ 25% ของปริมาณไฟเบอร์ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ดังนั้นมื้ออาหารเช้า สาวๆ ก็ควรจะกินไฟเบอร์สักอย่างน้อยประมาณ 6 กรัม สำหรับอาหารที่มีไฟเบอร์ก็คือ เหล่าผักและผลไม้นานาชนิดนั่นเอง

6.น้ำตาล

การกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตในยามเช้า หากควบคุมในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการร่างกายแล้ว ก็ย่อมถือว่าเป็นการได้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในตัวแล้วด้วยนั่นเอง สำหรับปริมาณน้ำตาลที่เราสามารถกินได้ในมื้อเช้านั้นก็ไม่ควรจะเกิน 1.5 ช้อนชา ยกเว้นแต่ว่าหากเป็นน้ำตาลที่ได้จากผัก ผลไม้ ธัญพืชหรือผลิตภัณฑ์จากนม ก็สามารถกินได้ 36 กรัม เนื่องจากเป็นน้ำตาลจากแหล่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย

คำแนะนำในด้านการเลือกกินอาหารเหล่านี้ เป็นเทคนิคลดน้ำหนักอีกทางหนึ่งที่มาพร้อมการจัดสรรสัดส่วนปริมาณสารอาหารสำคัญในมื้ออาหารเช้า สาวๆ คนไหนอยากให้หุ่นดีผอมเพรียว แถมมีสุขภาพที่ดีพร้อมกัน ต้องทำตามนี้นะคะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook